พญ.ชัญวลี ศรีสุโข แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูติ-นรีแพทย์ ,วิทยากรในช่วงรายการ 91 ก้าวทันโรค ทางสถานีวิทยุสวพ.FM91 ทุกวันอังคาร (สัปดาห์ที่1และ4 ของเดือน) ในฐานะโฆษกแพทยสภา กล่าวว่า ภาพที่แชร์กันในโซเชียลดังกล่าวน่าจะเป็นมุมภาพ (ที่มา https://goo.gl/RoZU85 ) ทำให้ดูมีขนาดใหญ่กว่าความเป็นจริงได้ อย่างไรก็ตาม ขนาดก้อนเนื้องอกดังกล่าวถือเป็นเรื่องปกติ เพราะขนาดสูงสุดที่เคยพบ คือ 20 กิโลกรัม ซึ่งท้องหรือพุงของเราสามารถขยายได้ใหญ่ เหมือนคนอ้วนมากๆ หรือคนตั้งครรภ์ ส่วนเนื้องอกรังไข่อาจเป็นได้ทั้งมะเร็งและเนื้องอกธรรมดา ซึ่งเนื้องอกธรรมดา มีทั้งซีสต์ หรือ ถุงน้ำ บางกรณีต้องผ่าตัด แต่บางกรณีขนาดไม่กี่เซนติเมตรก็ไม่ต้องผ่า สามารถหายได้เอง แต่ต้องติดตาม โดยเนื้องอกกับถุงน้ำนั้น จะพบประมาณร้อยละ 10 ของหญิงไทยวัยเจริญพันธุ์ทั่วประเทศ สำหรับสาเหตุของการเกิดเนื้องอกยังไม่ทราบแน่ชัด แต่มักเกิดจากฮอร์โมนกระตุ้นรังไข่มากเกินไป จึงจะพบเห็นคนโสดเป็นมากกว่าคนที่แต่งงานมีลูกแล้ว เนื่องจากหากมีลูก รังไข่ก็จะได้พัก แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นเนื้องอกหรือถุงน้ำต้องผ่าตัดหมด
“ทางที่ดีต้องรู้จักสังเกตและคลำก้อนเนื้อที่ผิดปกติ และพบแพทย์ดีกว่า หากมีก้อนในท้อง หลายคนมักคิดว่าอ้วน มีพุงก็ไม่ใส่ใจ แต่จริงๆ แล้วต้องสังเกตด้วยว่ามีความผิดปกติอย่างไร โดย 1. หากนอนราบแล้วท้องหรือพุงยังป่องอยู่ถือว่าไม่ปกติ เพราะหากคนอ้วนเมื่อนอนพุงจะไม่ป่องจนผิดปกตินั่นเอง และ 2. เวลาไม่ได้ปัสสาวะ น้ำปัสสาวะจะดันก้อนให้ลอยสูงขึ้นติดหน้าท้อง ทำให้รู้สึกแน่นท้อง หากรู้สึกแน่นท้องมากๆ และรู้จักสังเกต หรือคลำบริเวณก้อนเนื้อก็ควรรับไปพบแพทย์ดีที่สุด” พญ.ชัญวลี กล่าว
พญ.ชัญวลี กล่าวว่า ปัญหาคือ เวลาแน่น มากๆ จะรู้สึกหายใจไม่ออก ยิ่งผู้ป่วยโรคปอดโรคหัวใจ หรือคนร่างกายอ่อนแอ ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นต้องจับสังเกตให้ดีๆ ส่วนแนวทางการป้องกันนั้นก็อย่างที่กล่าวไว้คือสังเกตเป็นดีที่สุด เพราะไม่ใช่ว่าแต่งงานแล้วจะไม่เป็น เพียงแต่คนโสดมีโอกาสมากกว่าอย่างมีนัยยะเท่านั้น แต่ในกลุ่มที่ประจำเดือนผิดปกติ มากะปริบกะปรอยก็เสี่ยงเช่นกัน เพราะเป็นเรื่องของฮอร์โมน ควรพบแพทย์ด้วย
“ตอนนี้ยังไม่ทราบปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิด เนื้องอก ตามอวัยวะต่างๆ อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเนื้องอกในมดลูก เต้านม และรังไข่ ซึ่งมีปัจจัยเกี่ยวข้องมากมาย แต่เราก็พอจะสังเกตตัวเองได้ ด้วยหลากหลายวิธีต่อไปนี้
อาการผิดปกติของ เนื้องอกมดลูก สังเกตได้ดังนี้
-ประจำเดือนผิดปกติมามากหรือมากะปริบกะปรอย
-ประจำเดือนมีกลิ่นเหม็น จากการอักเสบของเนื้องอกภายใน
-มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
-ปัสสาวะบ่อยหรือปัสสาวะไม่ออกเพราะเนื้องอกไปกดการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ
-ท้องผูกเพราะเนื้องอกไปกดการทำงานของลำไส้
-สามารถคลำพบก้อนกลมแข็งบริเวณตรงกลางของท้องน้อย
วิธีสังเกตถุงน้ำที่รังไข่
เมื่อเป็นซีสต์หรือถุงน้ำที่เป็นเนื้องอก ผู้ป่วยจะมีอาการดังนี้
- มีอาการท้องอืด
-ปวดท้อง
-ประจำเดือนผิดปกติเพราะเกิดจากฮอร์โมนรังไข่ผิดปกติ
-ถ้าเป็นคนผอมแต่มีพุงอาจตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีถุงน้ำขนาดใหญ่อยู่ก็ได้
-ถ้าถุงน้ำมีขนาดใหญ่เกิน 7 เซนติเมตร ตอนเช้าๆก่อนลุกไปปัสสาวะ จะคลำพบก้อนแข็งบริเวณท้องน้อยซึ่งอาจจะอยู่ตรงกลางหรือด้านข้างก็ได้ ภาษาชาวบ้านเรียกว่า ท้องเป็นดาน (แข็งเหมือนกระดาน) ซึ่งควรรีบไปพบแพทย์ เพราะถุงน้ำที่เป็นเนื้องอกปล่อยไว้เป็นอันตรายแพทย์จะต้องทำการผ่าตัดออก
เคล็ดไม่ลับสังเกตเนื้องอกและถุงน้ำที่เต้านม
คุณหมอชัญวลีให้ข้อมูลว่า “ถ้าเป็นถุงน้ำที่เต้านมจะรู้สึกว่าหน้าอกโตมากขึ้น หรือคลำเจอก้อน ซึ่งข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับซีสต์ธรรมดา กับมะเร็งเต้านมคือ ถ้าคลำแล้วเจ็บจะไม่ใช่มะเร็ง แต่ถ้าเป็นมะเร็งจะไม่มีอาการเจ็บ หรือว่าถ้าเป็นมะเร็งแล้วมีอาการเจ็บ ก็เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้ว”
ซีสต์และเนื้องอกที่ตับมีอาการอะไรบ้าง
ถ้าเป็นกรณีผู้ป่วยด้วยโรคเนื้องอกที่ตับ คุณหมอชัญวลีแนะวิธีสังเกตว่า ถ้าเนื้องอกที่ตับถ้าเป็นน้อยจะไม่แสดงอาการ แต่ถ้าเป็นมาก จะทำให้
-ท้องอืด
-เบื่ออาหาร
-ดีซ่าน ตัวเหลือง ตาเหลือง
-ขับถ่ายออกมีแต่กากเพราะอาหารไม่ย่อย
ถุงน้ำที่ต่อมธัยรอยด์สังเกตอย่างไร
คุณรุ่งฟ้า ลิ้ม อายุ 40 ปี มีพบถุงน้ำที่ต่อมธัยรอยด์มาฟังเรื่องเล่ากันค่ะ “เมื่อปีที่แล้ว เราส่องกระจกมองที่คอตัวเองก็ตกใจเพราะเห็นว่า คอด้านซ้ายมีการบวมโตกว่าคออีกด้านหนึ่ง เมื่อใช้มือคลำก็พบก้อนเล็กบวมออกมา แต่ก็ไม่มีอาการเจ็บปวดอะไรนะ เวลากลืนน้ำกลืนอาหารก็ปกติดี ซึ่งถ้าเรายืนธรรมดาก็อาจไม่ค่อยเห็นว่ามันโตมาก แต่จะสังเกตเห็นชัดมาก เวลากลืนน้ำลายเพราะเจ้าก้อนนี้จะขยับขึ้นลงตามลูกกระเดือกของเรา ซึ่งพอมองคอคนอื่นๆก็ไม่เห็นมี จึงคิดว่าไม่ได้การแล้ว ต้องรีบไปพบแพทย์”
“พอไปพบหมอ หมอก็ให้หลับตา แล้วยื่นมือออกมา ถ้ามือสั่น ก็สันนิษฐานได้ว่าเป็นอาการของโรคธัยรอยด์ รวมถึงหมอก็สั่งตรวจก้อนที่คอว่าจะเป็นเนื้องอก หรือว่าถุงน้ำ ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มาจะเป็นถุงน้ำเสียเป็นส่วนใหญ่”
“อาการที่เกิดขึ้นพร้อมๆกับการเกิดก้อนบริเวณคอคือ มีอาการมือสั่น ใจสั่น” จากบทความ neoplasia ของ นายแพทย์นิธิ จงจิตรนันท์ จากหนังสือ พยาธิวิทยากายภาคพื้นฐาน ยังอธิบายถึงภาวะบางอย่างที่ใกล้เคียงเนื้องอกคือ diffuse hyperplasia โรคนี้จะทำให้มีการแบ่งเซลล์เพิ่มจำนวนมากขึ้น และสร้างฮอร์โมน thyroxine เพิ่มขึ้น สังเกตได้จากการคลำพบต่อมธัยรอยด์มีลักษณะเป็นก้อนตะปุ่มตะบ่ำหลายๆก้อน ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการ หัวใจเต้นเร็ว กินจุ แต่ผอมลง เหงื่อออกมาก หงุดหงิดง่าย เป็นต้น
ถ้าเห็นว่ายังบกพร่องอยู่ รีบเปลี่ยนแปลงซะ จะได้ไม่เจ็บ ไม่ป่วยไปมากกว่าเดิมนะคะ
Natcha789💕🥰🥰 🤑🤑 ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะโรคภัยไข้เจ็บแต่ละโรคน่ากลัวจริงๆใครไม่มีโรคถือเป็นลาภอันประเสริฐ
12 พ.ค. 2560 เวลา 01.47 น.
🙊 Benz 🐵 โอ้โห ก้อนในภาพ น่ากลัวจัง
12 พ.ค. 2560 เวลา 01.57 น.
พยายามตรวจคลำด้วยตัวเองถ้าหากพบก้อนเนื้อที่แข็งจับดูแล้วไม่เจ็บรีบไปหาแพทย์หรือถ้าเกืดอาการผิดปกติรีบปรึกษาแพทย์เป็นการด่วนก่อนที่จะลุกลามจนไม่สามารถรักษาได้
12 พ.ค. 2560 เวลา 02.17 น.
NONAME ขอบคุณมากน่ะค่ะสำหรับข้อมูลดีดี
12 พ.ค. 2560 เวลา 04.05 น.
📝⌚..Kook..🐑 ขอบคุณสำหรับขัอมูลดีๆจากคุณหมอ.ดิฉันขอแชร์เก็บไว้ค่ะ ขอบคุณค่ะ ^^
12 พ.ค. 2560 เวลา 06.42 น.
ดูทั้งหมด