ทั่วไป

ยังคุมไม่ได้ไวรัสโคโรนามหากาฬ ผลาญ 132 ชีวิตจีน (คลิป)

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์
อัพเดต 29 ม.ค. 2563 เวลา 17.12 น. • เผยแพร่ 29 ม.ค. 2563 เวลา 22.32 น.
ภาพไฮไลต์

ผู้ติดเชื้อ-ต้องสงสัย รวมกันเป็นหมื่นราย บางส่วนแพร่กระจาย ไปแล้วถึง16ประเทศ รอคิวขนคนไทยกลับ

“ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019” คร่าชีวิตคนแล้ว 132 ศพ ติดเชื้อเกือบ 6 พันคน ล่าสุดลามถึงตะวันออกกลางแล้ว รัฐบาลจีนปรับร้านขายยาสุดโหดขูดรีดขายหน้ากากอนามัยในราคาสูงลิ่ว เผยโรงแรมหลายแห่งเกือบเป็นโรงแรมร้าง นักท่องเที่ยวผวาไม่กล้าพัก ส่วนเจ้าหน้าที่โรงแรมก็เห็นแขกที่เข้าพักเหมือนเห็นผี ญี่ปุ่นรับคนตกค้างจากจีนกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว ด้านนักวิจัยสู้ไม่ถอยเร่งพัฒนาวัคซีนต้านไวรัส ส่วนโรงพยาบาลในเมืองอู่ฮั่นที่ไว้รองรับผู้ป่วย “ไวรัสอู่ฮั่น” ที่ระดมทุกสรรพกำลังเร่งก่อสร้างภายในครึ่งเดือนใกล้แล้วเสร็จ นายกฯตรวจเยี่ยมสนามบินสุวรรณภูมิ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานคัดกรองผู้ป่วย 65 คนไทยในจีนแข็งแรงดีไม่มีป่วย ผบช.ท่องเที่ยวแจกหน้ากากนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานสนามบิน 3.5 หมื่นชิ้น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โลกกำลังประหวั่นพรั่นพรึงหวาดผวา “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” หรือที่เรียกกันว่า “ไวรัสอู่ฮั่น” ที่มีจุดกำเนิดการระบาดจากเมืองอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีน และลุกลามมีผู้ป่วยกับติดเชื้อในหลายประเทศ จนมีการคาดคะเนกันว่า “ไวรัสอู่ฮั่น” อาจจะมีความรุนแรงคร่าชีวิตมนุษย์ไปไม่น้อยกว่าโรคซาร์ส

ยอดตายพุ่ง 132 ศพ ติดเชื้อเกือบ 6 พัน

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 ม.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยของจีน อ้างการเปิดเผยของคณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติจีนว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในจีนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับถึงวันที่ 28 ม.ค.อยู่ที่ 132 ศพ พบผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยัน 5,974 คน และมีผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ 9,239 คน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โรงแรมหลายแห่งเกือบร้างไร้คนพัก

ส่วนผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานบรรยากาศจากเมืองอู่ฮั่น โดยระบุว่าที่โรงแรมห้าดาว “มาร์โค โปโล” ที่เป็นโรงแรมเพียงไม่กี่แห่งในเมืองที่ยังเปิดให้บริการ มีสภาพไม่ต่างกับโรงแรมร้าง เหลือแขกเข้าพักเพียง 20 คน จากห้องพักในอาคาร 34 ชั้น เปิดรับรองเพียง 2 ชั้น พนักงานก็แทบไม่หลงเหลือและอยู่ในอาการหวาดระแวง แขกที่เดินทางออกจากโรงแรมจะต้องกรอกเอกสารอย่างละเอียดว่าจะไปทำอะไรที่ไหน เมื่อกลับเข้าโรงแรมมาจะต้องถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยวัดอุณหภูมิร่างกาย หากวัดได้เกิน 37.3 องศาเซลเซียส จะดำเนินมาตรการตามความเหมาะสม รวมถึงการนำตัวส่งโรงพยาบาล

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

จนท.ผวามองแขกเข้าพักเหมือนผี

ผู้สื่อข่าวระบุต่อไปว่า ในโรงแรมดังกล่าวร้านอาหารถูกปิดทั้งหมด จะเหลือเพียงบริการรูมเซอร์วิส ที่มีแต่เมนูบะหมี่ และนับวันเมนูน้อยลงเรื่อยๆ เนื่องจากขาดแคลนวัตถุดิบ แต่พนักงานโรงแรมระบุด้วยว่า พ่อครัวของโรงแรมได้อาสาสมัครทำอาหารส่งให้โรงพยาบาลท้องถิ่นมาตั้งแต่มีคำสั่งปิดเมือง เพื่อช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ ส่วนแขกต่างชาติรายหนึ่งจากภูมิภาคละตินอเมริกา ระบุว่าแม่บ้านทำความสะอาดมองแขกผู้พักเหมือนเห็นผี โดยตอนที่เปิดประตูห้องเข้ามาทำความสะอาดและเห็นตัวเองนั่งอยู่ ก็มีอาการตกใจกลัวอย่างมาก รีบวางถังขยะลงกับพื้น และเดินหนีไป นอกจากนี้ จากการติดต่อสอบถามโรงแรมแฟร์มอนต์ในเมืองอู่ฮั่น ได้รับคำตอบว่าถึงไม่มีคำสั่งปิดโรงแรม แต่ไม่รับแขกเพิ่มอีก

ปรับร้านยาขูดรีดขายหน้ากากโหดสุด

ขณะที่สำนักงานกำกับดูแลตลาดในกรุงปักกิ่ง เปิดเผยว่า ทางการได้มีคำสั่งปรับร้านขายยาจี้หมิน กังไต ในกรุงปักกิ่ง เป็นมูลค่า 3 ล้านหยวน (กว่า 13.4 ล้านบาท) หลังตรวจสอบพบว่าขายหน้ากากอนามัย ยี่ห้อ 3M ในราคาสูงกว่าปกติเกือบ 6 เท่า โดยขายในราคา 850 หยวน (3,800 บาท) จากราคาตลาด 143 หยวน (640 บาท) พร้อมเปิดเผยว่ามีอีก 31 คดีที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าขายของเกินราคาหรือไม่ เช่นเดียวกับที่นครเซี่ยงไฮ้ มีร้านขายยาแห่งหนึ่งถูกสั่งปิด และจ่ายเงินชดเชยแก่ลูกค้า หลังขายหน้ากากอนามัยไม่ได้มาตรฐาน ส่วนกระทรวงเกษตรจีนเรียกร้องให้เกษตรกรเพิ่มผลผลิต เพื่อไม่ให้ตลาดขาดแคลนสินค้าและให้ราคาทรงตัว

ลามไปถึงตะวันออกกลางแล้ว

ด้านสถานการณ์แพร่ระบาดในต่างประเทศ มีรายงานว่า มีการพบผู้ติดเชื้อรายแรกในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถือเป็นการพบผู้ติดเชื้อครั้งแรกในภูมิภาคตะวันออกกลาง จากการตรวจสอบพบว่าเป็นชาวจีนที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ส่งผลให้จำนวนประเทศที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 16 ชาติ นอกจากไทย ได้แก่ ไต้หวัน 8 ราย สิงคโปร์ 7 ราย มาเลเซีย 7 ราย ญี่ปุ่น 6 ราย ออสเตรเลีย 5 ราย สหรัฐฯ 5 ราย เกาหลีใต้ 4 ราย ฝรั่งเศส 4 ราย เยอรมนี 4 ราย แคนาดา 3 ราย เวียดนาม 2 ราย เนปาล 1 ราย กัมพูชา 1 ราย ศรีลังกา 1 ราย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย

ญี่ปุ่นรับคนตกค้างจากจีนกลับบ้าน

ขณะเดียวกัน รัฐบาลนานาชาติยังคงเร่งอพยพพลเมืองของตนออกจากเมืองอู่ฮั่น โดยรัฐบาลญี่ปุ่นส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำ รับชาวญี่ปุ่นที่ตกค้าง 206 คน จากทั้งหมด 650 คน เดินทางกลับถึงสนามบินฮาเนดะ กรุงโตเกียวแล้วเมื่อวันที่ 29 ม.ค. ผู้โดยสารทั้งหมดถูกส่งไปตรวจโรคและขอความร่วมมือให้อยู่แต่ในที่พักอาศัยจนกว่าจะทราบผล พร้อมมีรายงานว่าในจำนวนผู้อพยพชุดแรกมี 4 คนที่ล้มป่วย ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีสอบถามนายทาเคโอะ อาโอยามะ พนักงานบริษัทนิปปอนสตีล ที่อพยพมากับเที่ยวบินดังกล่าว ระบุว่า แทบทุกคนตกอยู่ในความกังวลตอนอยู่ในเมืองอู่ฮั่น เนื่องจากถูกจำกัดทั้งการเดินทางและข้อมูลข่าวสาร แต่เรื่องอาหารใช่ว่าจะขาดแคลนหนัก บางวันมีขายบางวันไม่มีขาย กระบวนการอพยพก็เป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีใครแตกตื่นอะไร

ห้ามอาหมวยแฟนฝรั่งขึ้นเครื่อง

ทางด้านรัฐบาลสหรัฐฯ ส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำรับชาวอเมริกันและเจ้าหน้าที่กงสุลรวม 240 คนอยู่ระหว่างเดินทาง สำนักข่าวเอพีรายงานด้วยว่า มีชาวอเมริกันและชาวต่างชาติบางส่วนที่ตัดสินใจไม่อพยพจากเมืองอู่ฮั่น เนื่องจากมีแฟนเป็นชาวจีน แล้วแฟนไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องบิน จากการเปิดเผยของนายดัก เปเรซ ชาวอเมริกันที่ตัดสินใจอยู่ต่อระบุว่า มีหลายคนที่ทิ้งคนรักไปไม่ได้ แต่ยอมรับว่ามีความกังวลว่าหลังจากนี้จะเป็นเช่นไรต่อ เพราะเมื่อวันก่อนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ไม่อนุญาตให้ออกจากอพาร์ตเมนต์

ขังเกาะ 3 อาทิตย์ป้องกันเชื้อแพร่

เช่นเดียวกับ รัฐบาลอินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน อังกฤษ แอลจีเรีย และโมร็อกโก ที่อยู่ระหว่างวางแผนหรือขออนุมัติจากรัฐบาลจีนเรื่องการขอรับพลเมืองตกค้าง ขณะที่รัฐบาลออสเตรเลียเปิดเผยว่า ชาวออสเตรเลียที่ตกค้างจะถูกนำไปกักบริเวณ 2 สัปดาห์ ที่เกาะคริสต์มาส อยู่ห่างจากแผ่นดินออสเตรเลียไปประมาณ 2,000 กิโลเมตร ส่วนรัฐบาลปาปัวนิวกินีประกาศไม่รับชาวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางจากภูมิภาคเอเชีย

สหรัฐฯพัฒนาวัคซีนสู้โคโรนา

วันเดียวกัน นายแอนโธนี เฟาซี เจ้าหน้าที่สถาบันสาธารณสุขแห่งชาติสหรัฐฯ หรือเอ็นไอเอช เปิดเผยว่า สถาบันร่วมกับบริษัทด้านเทคโนโลยีชีววิทยาโมเดอร์นา อยู่ระหว่างพัฒนาวัคซีนต้านไวรัส โคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยจะใช้เวลา 3 เดือนในการเริ่มต้นทดสอบวัคซีน และอีก 3 เดือนในการรวบรวมข้อมูล พร้อมขอเรียกร้องให้ทางการจีนเพิ่มความร่วมมือกับหน่วยงานสาธารณสุขระหว่างประเทศต่างๆ

ทีมวิจัยออสซี่ทำสำเร็จ

ส่วนนายจูเลียน ดรูซ ผู้อำนวยการฝ่ายห้องแล็บของสถาบันปีเตอร์ โดเฮอร์ตี ด้านโรคติดต่อและภูมิคุ้มกัน ในนครเมลเบิร์น ออสเตรเลีย ระบุว่า ทีมวิจัยประสบความสำเร็จในการเพาะเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในห้องแล็บ ซึ่งจะเป็นการเปิดทางในการวิจัยต่อยอด และหาทางรับมือเชื้อชนิดนี้ โดยทีมวิจัยพร้อมที่จะส่งตัวอย่างให้แก่องค์การอนามัยโลก รวมถึงศูนย์วิจัยต่างๆทั่วโลก นอกจากนี้ มีรายงานว่าศูนย์ข้อมูลมหาวิทยาลัยชิงหัวของจีน ได้ตัดสินใจยกเลิกการเก็บค่าบริการ ตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค. จนถึงวันที่ 1 ก.ค. เพื่อให้นักวิจัยสามารถเข้าถึงข้อมูล และสามารถทำการวิจัยภายในที่พักอาศัยได้สะดวก

รพ. “หั่วเสินซาน” ใกล้เสร็จแล้ว

ด้านสำนักข่าวซินหัวของจีน รายงานว่าการก่อสร้างโรงพยาบาลหั่วเสินซาน ความจุ 1,000 เตียง ไว้รองรับผู้ป่วยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ มีความคืบหน้าไปอย่างมาก เพื่อให้ทันกำหนดเสร็จวันที่ 3 ก.พ. โดยตัวอาคารรองรับผู้ป่วยที่จากภาพมีความสูง 2 ชั้น ได้มีการวางฐานและขึ้นโครงเสาเข็มไปจนถึงชั้น 2 แล้ว เหลือเพียงแต่กำแพงที่ยังทำไม่เสร็จ ส่วนโรงพยาบาลพิเศษแห่งที่ 2 หรือโรงพยาบาลเหลยเสินซานในเมืองอู่ฮั่นที่มีกำหนดให้เสร็จในวันที่ 5 ก.พ. จะมีการขยายพื้นที่เพิ่ม หลังจากทางการตัดสินใจขยายเตียงผู้ป่วยจาก 1,300 เตียง เป็น 1,600 เตียง สามารถรองรับบุคลากรการแพทย์กว่า 2,000 คน

หญิงไทยตายในอินเดียไม่เกี่ยวไวรัสอู่ฮั่น

เว็บไซต์ข่าว “อินเดีย ทูเดย์” ของอินเดีย รายงานเมื่อวันอังคารที่ 28 ม.ค.ว่า หญิงไทยวัย 32 ปีคนหนึ่ง ต้องสงสัยว่าป่วยจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เสียชีวิตในโรงพยาบาลเอกชนเมืองโกลกาตา เมืองหลวงของรัฐเบงกอลตะวันตก ประเทศอินเดีย เมื่อวันจันทร์ที่ 27 ม.ค. หญิงไทยรายนี้เดินทางจากไทยเมื่อปลายเดือน พ.ย.2562 ผ่านเนปาลเข้าสู่อินเดีย แล้วปวดท้อง คลื่นเหียนวิงเวียนและเป็นไข้ ตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค. อาการทรุดลงจนต้องเดินทางไปโรงพยาบาลเอกชน เมื่อคืนวันที่ 21 ม.ค. ถูกส่งตัวเข้าห้องไอซียูก่อนเสียชีวิต กงสุลใหญ่ไทยในเมืองโกลกาตาได้รับแจ้งเรื่องนี้แล้ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐเบงกอลตะวันตกได้ขอรายงานการตรวจสอบทางการแพทย์ทั้งหมดของหญิงไทยที่เสียชีวิตรายนี้เพื่อตรวจสอบความจริง ขณะที่นักศึกษาไทยในอินเดียคนหนึ่ง สอบถามไปยังสถานกงสุลไทยที่นั่น ได้รับคำชี้แจงว่าหญิงไทยเสียชีวิตเพราะป่วยด้วยโรคติดเชื้อในกระแสเลือด ไม่เกี่ยวกับไวรัสอู่ฮั่น

นายกฯตรวจจุดคัดกรองสุวรรณภูมิ

ส่วนความเคลื่อนไหวที่ประเทศไทย ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานด่านควบคุมโรคท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม รอต้อนรับ นายกฯกล่าวทักทายกับผู้มาใช้บริการในสนามบินและสื่อมวลชนว่า เราต้องให้ความเชื่อมั่น มาตรการต่างๆต้องรู้เขารู้เรา รู้ว่ารัฐบาลจีนทำอะไรไปบ้าง ก่อนเดินเข้าเยี่ยมชมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในจุดคัดกรองผู้เดินทางแบบจำเพาะเจาะจงหรือที่มาจากพื้นที่ระบาด นพ.โรม บัวทอง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญกองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ นายแพทย์ประจำจุดคัดกรองเป็นผู้อธิบายและสาธิตการติดตั้งเครื่องตรวจอุณหภูมิ ขั้นตอนการตรวจคัดกรอง

ให้กำลังใจทีมเจ้าหน้าที่

ขณะที่นายกฯได้กล่าวให้กำลังใจ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ ขอให้ตั้งใจทำงาน จากนั้นไปดูการทำงานของเจ้าหน้าที่คัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมาจากจีน เที่ยวบิน cz 3081 China Southern Airline ร่วมแจกเอกสารคำเตือนสุขภาพ สาธิตการสแกน QR code ข้อมูลคำแนะนำด้านสุขภาพ แจกหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ ตรวจจุด Health Control ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ชมการตรวจคัดกรองร่วมกับการใช้ CCTV ของสนามบิน การตรวจจับผู้โดยสารผ่านเครื่องเทอร์โมสแกนแบบ universal

รอทางการจีนจัดคิวขนคนไทยกลับ

พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ การคัดกรองมีความรอบคอบเป็นสากล วันนี้เราควบคุมทุกช่องทางที่มาจากประเทศต้นทาง ได้ย้ำว่าทุกประเทศที่มีความเสี่ยงต้องผ่านกล้องตรวจความร้อน อุณหภูมิ วัดไข้ โดยเพิ่มเป็น 3 ด่าน จะทำอะไรต้องดูหลักสากลคิดทำกันเองไม่ได้ ตนห่วงใยคนไทยแต่ก็ต้องห่วงใยประชาชนที่อื่นด้วยเช่นเดียวกัน คนที่มาประเทศเราต้องดูแล ส่วนการรับคนของเรากลับมีแผนไว้แล้วเพียงแต่ต้องรอเวลาที่จะเคลื่อนย้ายได้ ไม่ใช่ใช้คำว่า การอพยพ เรียกว่าการเคลื่อนย้ายกลับ ทางการจีนกำลังจัดลำดับคิวอยู่ ไม่ใช่ใครจะไปก็ไปทันที เพราะขณะนี้เขาปิดเมืองอยู่ สนามบินก็ยังลงไม่ได้ ต้องขออนุมัติเป็นเรื่องๆเป็นประเทศๆไป คนไทย 65 คน เราพร้อมรับกลับโดยเฉพาะที่เมืองอู่ฮั่นก่อน โดยจะใช้เครื่องบินพาณิชย์ เพราะจีนไม่ให้ใช้เครื่องทหารเข้าไป แต่ได้เตรียมไว้เผื่อถ้าร้ายแรง ได้คุยกับอุปทูตจีนโดยตรงบอกจะตามเรื่องให้

เช็กแล้ว 65 คนไทยแข็งแรงไม่ป่วย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า กระทรวงต่างประเทศรายงานว่าคนไทยในอู่ฮั่นมีความอุ่นใจ และสุขภาพยังแข็งแรง เช็กแล้วไม่ป่วย หากป่วยทางการจีนนำเข้ารักษาตัวโรงพยาบาล ทั้งหมดสามารถติดต่อได้ มีการจัดหาอาหารการกินให้ โดยส่วนนี้มีคนทำงานไม่ต้องรอนายกฯสั่งทั้งหมด ดำเนินการตามแผน เมื่อถามว่า ได้กำหนดวันเบื้องต้นที่จะรับกลับแล้วหรือยัง นายกฯตอบว่า “กำหนดไว้ทุกวัน ขึ้นอยู่กับทางการจีนจะอนุญาตเมื่อไหร่ แต่ก็เร็วที่สุดเร็วๆนี้แหละ ใจเย็นๆ ตอนนี้ต้องทำงานหลายๆอย่างไปด้วยกัน ต้องทำทุกเรื่อง เพื่อให้งานเดินหน้าไปได้ ไม่ใช่หยุดงานอื่นทั้งหมดแล้วมาทำอย่างเดียว ทีมงานมีอยู่แล้วบริหารได้ทำงานกันเต็มที่ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำงานชนิดที่ไม่ได้หลับได้นอน รวมทั้งแพทย์ทหาร และในวันที่ 31 ม.ค. ตนจะไปตรวจติดตามและเยี่ยมผู้ป่วยที่สถาบันบำราศนราดูร

ผบช.ท่องเที่ยวแจกหน้ากาก 3.5 หมื่นชิ้น

อีกด้านที่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ สนามบินดอนเมือง ตอนสายวันเดียวกัน พล.ต.ท. เชษฐา โกมลวรรธนะ ผบช.ทท. พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบช.ทท. พ.ต.ท.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม รอง ผกก.3 บก.ทท.1 รับมอบหน้ากากอนามัย 35,000 ชิ้น จากตัวแทนจากสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชีย แจกจ่ายให้ตำรวจท่องเที่ยว พนักงานสายการบิน และนักท่องเที่ยวในสนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินเชียงใหม่ สนามบินภูเก็ต และหาดใหญ่ เพื่อตอบรับมาตรการการป้องกันการติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่น

แนะ 3 มาตรการป้องกัน

พล.ต.ท.เชษฐากล่าวว่า ในส่วนของตำรวจท่องเที่ยวมีมาตรการควบคุมและดูแลนักท่องเที่ยว ไว้ 3 ส่วน ส่วนแรกให้ตำรวจท่องเที่ยวทุกนายทุกพื้นที่ ศึกษาเกี่ยวกับเชื้อไวรัสอู่ฮั่น อาการของโรค วิธีการป้องกัน เริ่มตั้งแต่สนามบิน ร้านอาหาร ที่พักตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เน้นให้คำแนะนำนักท่องเที่ยวในการป้องกันตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องการใส่หน้ากากป้องกัน เมื่ออยู่ในที่ชุมชนหนาแน่น ส่วนที่ 2 ให้ตำรวจท่องเที่ยวประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้ประกอบการในสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร โรงแรมหรือสถานประกอบการต่างๆ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานได้ป้องกันตัวเองด้วย หรือให้บริการน้ำยาล้างมือที่ฆ่าเชื้อโรคให้ทั่วถึง ส่วนที่ 3 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว สอดส่องดูแล เฝ้าระวังว่ามีผู้ป่วยต้องสงสัยหรือไม่ และให้ประสานกับ รพ.ในแต่ละจังหวัด

ขอบคุณเอกชนสนับสนุนหน้ากาก

พล.ต.ท.เชษฐากล่าวต่อว่า ต้องขอบคุณภาคเอกชนที่สนับสนุนหน้ากากอนามัย จะนำไปใช้แจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว รวมถึงผู้ประกอบการ พนักงาน และนักท่องเที่ยว ตามสนามบินต่างๆ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสอู่ฮั่น จากนั้น พล.ต.ท.เชษฐาพร้อมคณะเดินแจกหน้ากากอนามัยให้กับเจ้าหน้าที่สายการบินต่างๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ขายตั๋วโดยสาร ธนาคาร ร้านอาหาร ที่อยู่ภายในสนามบินดอนเมือง ทั้งอาคาร 1 อาคาร 2

เฝ้าระวัง “อู่ฮั่น” ทุกสนามบิน ตจว.

ขณะที่นายทวี เกศิสำอาง อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวถึงแผนการรับมือของท่าอากาศยานต่างๆในสังกัดกรม ในการเฝ้าระวัง “ไวรัสอู่ฮั่น” ว่า สั่งการให้ทุกท่าอากาศยานดำเนินการตามมาตรการอย่างเข้มงวด เสริมกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลผู้โดยสารอย่างทั่วถึง จัดเจ้าหน้าที่ดูแลและทำความสะอาดพื้นที่ภายในท่าอากาศยาน ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคทำความสะอาดทุกจุด เพิ่มความถี่ในการตรวจเช็กบริเวณที่ผู้โดยสารสัมผัสบ่อย เช่น ห้องน้ำ เก้าอี้ผู้โดยสาร ราวบันได รถเข็นสัมภาระ ตะกร้าสำหรับวางสัมภาระในจุดตรวจค้น เป็นต้น

เข้มทุกสนามบินป้องกันเชื้อ

สำหรับท่าอากาศยานที่มีเที่ยวบินระหว่างประเทศ คือ ท่าอากาศยานกระบี่และสุราษฎร์ธานีนายทวีกล่าวว่า ได้เพิ่มจุดคัดกรองจากเจ้าหน้าที่ โดยใช้เครื่องแฮนด์เทล วัดอุณหภูมิบริเวณหน้าผากและหู ให้ผู้โดยสารใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ เน้นให้มีการประชาสัมพันธ์ข้อมูล การป้องกันตนเองตามแนวทางของกรมควบคุมโรค ผ่านเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของท่าอากาศยาน รณรงค์ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ ปิดปาก ปิดจมูก เวลาไอ หรือจาม ด้วยกระดาษทิชชู รวมถึงหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น เป็นต้น ส่วนท่าอากาศยานภูเก็ต จัดตั้งจุดรับแจกหน้ากากอนามัยให้กับผู้โดยสารชาวจีน เขียนข้อความให้กำลังใจผู้โดยสารชาวจีนที่เดินทางมาเที่ยวภูเก็ต ให้ผ่านพ้นวิกฤตการณ์ได้โดยเร็ว

ยันจีนเมาล้มตกเก้าอี้ไม่ใช่ติดไวรัส

ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพในโลกโซเชียล ว่ามีชาวจีนล้มลงนอนบนพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ และพยายามเชื่อมโยงกับสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสอู่ฮั่นนั้น นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ สุวรรณรัต ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เผยว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 27 ม.ค. เจ้าหน้าที่สนามบินเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า เป็นเหตุการณ์ที่มีผู้โดยสารชายชาวจีนคนหนึ่งมีอาการเมาสุรา แล้วนั่งหลับจนตกเก้าอี้ลงไปนอนบนพื้นสนามบิน และเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเช็กอาการ พบว่ามีอาการเมาสุราจริง ส่วนที่มีการระบุว่าเจ้าหน้าที่สนามบินห้ามถ่ายภาพชายดังกล่าว เนื่องจากบริเวณนั้นเป็นเขตการบิน ตามระเบียบมิให้มีการถ่ายภาพอยู่แล้ว

ทอ.จัดชุดแพทย์รอรับคนไทยจากจีน

พล.อ.ท.พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย รอง เสธ.ทอ. โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า นายกฯและ รมว.กลาโหมมอบหมายให้กระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพสนับสนุนชุดแพทย์ทหาร พร้อมเครื่องมือที่จำเป็นสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการตรวจหาผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่นในเขตสนามบินนานาชาติ และสนามบินภายในประเทศ ผบ.ทอ.สั่งการให้กรมแพทย์ทหารอากาศ จัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ปฏิบัติงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และกรมแพทย์เหล่าทัพ ในการตรวจคัดกรองและตรวจสอบกลุ่มเสี่ยงนักท่องเที่ยวที่เดินทางใช้บริการผ่านเข้า-ออก ท่าอากาศยานดอนเมือง สนับสนุนมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอู่ฮั่น จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ส่วนการเตรียมการอพยพคนไทยในพื้นที่เสี่ยง ณ เมืองต่างๆจากจีน กระทรวงกลาโหมมีความพร้อมปฏิบัติได้ทันทีเมื่อได้รับคำสั่งและได้รับอนุญาตจากทางการจีน

“อนุทิน” เข้มจุดคัดกรองสนามบินเชียงใหม่

ที่ท่าอากาศยานจังหวัดเชียงใหม่ วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. สาธารณสุข มาตรวจเยี่ยมจุดคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าจากต่างประเทศ มี ร.ท.ธนันท์รัฐ ประเสริฐศรี รอง ผอ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ นำชมจุดที่จะสร้างห้องคัดกรองชั่วคราวแยกจากตัวอาคารผู้โดยสาร นายอนุทินได้แจกแอลกอฮอล์และเจลให้กับผู้โดยสารสายการบินสปริงแอร์ไลน์มาจากเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน กำชับให้เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ยกระดับคัดกรองผู้โดยสารทุกเที่ยวบินที่มาจากจีน ตามนโยบายและตามสั่งการของกระทรวงสาธารณสุข

หน้ากากอนามัยขาดตลาด

ที่ศาลาวัดดอยสะเก็ด อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ นายชุติพนธ์ สารแปง นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย และคณะ นำแจกหน้ากากอนามัย N95 ให้กับผู้สูงอายุ กลุ่มนักเรียนชราบาลวุฒิวิทยาลัย พร้อมนำผู้เชี่ยวชาญ แนะนำวิธีใช้หน้ากากอนามัย การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันไวรัสอู่ฮั่น เนื่องจากขณะนี้หน้ากากอนามัยถูกกว้านซื้อจนขาดตลาดแล้ว ส่วนร้านขายยาใน จ.ชัยนาท ยอดขายหน้ากากอนามัยเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่า จากการตื่นตัวระวังการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสอู่ฮั่น โดยร้านขวัญเรือนโอสถ ร้านขายยาใหญ่ ระบุว่า 2-3 วันที่ผ่านมายอดขายหน้ากากอนามัยพุ่งสูงกว่าปกติเป็น 10 เท่า

ส่งชันสูตรสาวจีนตายคารีสอร์ต

เช้าวันเดียวกัน พนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ สอบสวนเหตุนักท่องเที่ยวชาวจีนวัย 32 ปี เสียชีวิตในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในหมู่ 2 ต.แม่แรม พบ เดินทางมาจากเมืองซานตง โดยผู้ตายกับเพื่อนรวม 5 คนมาเปิดห้องพักช่วงบ่ายวันที่ 28 ม.ค. ตกค่ำนั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนก่อนแยกไปเข้านอน กระทั่งเช้าพบว่ากลายเป็นศพ เพื่อนผู้ตายยืนยันว่าผู้ตายมีสุขภาพแข็งแรง สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ โดยสวมชุดป้องกันการติดเชื้ออย่างมิดชิด นำศพกลับมาชันสูตรที่แผนกนิติเวช รพ.นครพิงค์ หาสาเหตุการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวชาวจีนรายนี้ พร้อมกับนำเพื่อนที่มาด้วยกันมาตรวจคัดกรองตามขั้นตอน

โล่งอกผู้ป่วยไม่ติดเชื้อ “อู่ฮั่น”

นพ.โภคิน ศักรินทร์กุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคระบบทางเดินหายใจ รพ.ลำพูน กล่าวถึงผลตรวจสาวจีนวัย 30 ปี เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น มาป่วยที่เชียงใหม่ ถูกส่งเข้าห้องปลอดเชื้อ รพ.ลำพูน เพื่อเฝ้าสังเกตอาการ ผลตรวจจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ เขต 1 เชียงใหม่ และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ (ส่วนกลาง) ออกมาแล้ว ไม่พบเชื้อไวรัสอู่ฮั่น เช่นเดียวกับ 3 พ่อแม่ลูกชาวจีนถูกส่งตัวมารักษาอาการป่วยและเฝ้าดูอาการที่ รพ.ลำปาง ปรากฏว่าผู้ป่วย พ่อกับลูกเป็นไข้หวัดใหญ่ธรรมดา แพทย์ให้การรักษาตามอาการ ขณะที่นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา เปิดเผยถึงผู้ป่วยชาวไทย 4 คน ถูกส่งมาตรวจอาการที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา เกรงจะติดเชื้อเนื่องจากเพิ่งเดินทางกลับจากประเทศจีน ผลตรวจยืนยันว่าไม่พบเชื้อแต่อย่างใด

เฝ้าระวังผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ 4 ราย

ส่วนที่ รพ.กาฬสินธุ์ ได้รับตัวสาวไทยอายุ 20 ปีเศษ ผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อมาจาก รพ.กาฬสินธุ์ธนบุรี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 ม.ค. โดยผู้ป่วยรายนี้เป็นไข้หวัด เพิ่งกลับจากท่องเที่ยวมณฑลกวางโจว ประเทศจีน แพทย์นำเข้าห้องปลอดเชื้อเพื่อติดตามอาการ ส่วนจะติดเชื้อไวรัสโคโรนาหรือไม่ต้องรอผลตรวจในอีก 2-3 วัน ส่วนที่ รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มีผู้ป่วยชาวจีน3ราย เข้ารับการตรวจรักษา แพทย์เฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ตามมาตรการเฝ้าระวัง ขณะที่อาการของอาม่าจีนวัย 73 ปี ติดเชื้อไวรัสโคโรนาเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อาการทรงตัว อยู่ในเกณฑ์ควบคุมได้

แจ้งจับแล้ว 7 รายแชร์ข่าวมั่ว

ที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้าการเฝ้าระวังควบคุมเชื้อไวรัสโคโรนา ว่า ยังไม่พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มเติม ยอดผู้ป่วยสะสมขณะนี้อยู่ที่ 14 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 5 ราย อยู่ในห้องแยกโรคของสถาบันบำราศนราดูร และโรงพยาบาลราชวิถี อาการดีขึ้น ขอยืนยันว่ายังไม่พบการติดเชื้อจากภายในประเทศไทยแต่อย่างใด ทั้งหมดเป็นผู้ที่รับเชื้อมาจากประเทศจีนทั้งสิ้น ในวันที่ 30 ม.ค. จะมีการประชุมร่วมกับทีมที่เกี่ยวข้องในทุกจังหวัดเพื่อวางแผนรับมือการระบาดในวงจำกัดและขออย่าเชื่อข่าวลือใดๆหากมีข้อสงสัย ให้สอบถามกระทรวงสาธารณสุข หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง เว็บไซต์ หรือเฟซบุ๊กกรมควบคุมโรค ขอความร่วมมืออย่าแชร์ข่าวลือ ข่าวลวงจนทำให้เกิดความตื่นตระหนก กระทรวงได้ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แจ้งความเอาผิดกับผู้ปล่อยข่าวลวงเกี่ยวกับเชื้อดังกล่าวแล้ว 7 ราย ขออย่าแชร์ข่าวลวง หากแชร์จะมีความผิดไปด้วย

อธิบดีคุกเข้มหวั่นไวรัสอูฮั่นระบาด

ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ถนนงามวงศ์วาน กรุงเทพฯ นพ.วีระกิตต์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์เป็นประธาน เปิดโครงการอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ (อส.รจ.) เพื่อใช้ช่วยเหลือผู้ต้องขังในเรือนจำยามฉุกเฉินและช่วงบ่าย จากนั้น พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กับคณะพาสื่อมวลชนเข้าชมการคัดกรองและตรวจโรคระบบทางเดินหายใจ เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่น ในแดนแรกรับ พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดของไวรัสอู่ฮั่น กรมไม่นิ่งนอนใจ เนื่องจากเรือนจำเป็นสถานที่แออัด เจ้าหน้าที่พยาบาลจะซักถามประวัติ ตรวจร่างกายผู้ต้องขังใหม่ทุกวัน ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีเรือนจำรับผู้ต้องขังชาวจีนมาทั้งหมด 14 ราย ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เชียงใหม่ ภูเก็ต สงขลา ปทุมธานี และตาก ยังไม่พบผู้มีอาการป่วย ผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีทั้งหมด 4,000 คน ได้แจกเจลล้างมือที่แดนแรกรับ พร้อมแจกหน้ากากให้กลุ่มที่สุ่มเสี่ยง รวมถึงฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทั้งหมดทุกราย

ยันหน้ากากอนามัยไม่ขาดแคลน

นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยหลังการประชุมร่วมกับผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ประกอบการหน้ากากอนามัยรวม 9 บริษัท ว่า ผู้ประกอบการยืนยันว่าสินค้ามีเพียงพอต่อความ ต้องการที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันสต๊อกสินค้ามีประมาณ 100 ล้านชิ้น รองรับความต้องการได้ถึง 4 เดือนนับจากนี้ และเร่งเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีกเท่าตัวผู้นำเข้าก็เร่งนำเข้าเพิ่มขึ้น ทำให้มั่นใจว่าหน้ากากอนามัยทุกชนิดจะไม่มีขาดแคลน ส่วนราคา ผู้ผลิตและผู้นำเข้ายืนยันว่า หน้ากากอนามัยแบบธรรมดา ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 5-10 บาทต่อชิ้น แบบเอ็น 95 ราคาตั้งแต่ชิ้นละ 27- 70 บาท ผู้ผลิตแนะนำให้ผู้ค้าปลีกบวกราคาได้เพิ่มอีกชิ้นละ 5-10 บาท ดังนั้นราคาขายชนิดที่แพงสุดก็ไม่ควรเกินชิ้นละ 100

ธ.กสิกรยื่นมือช่วยพักชำระหนี้

นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคาร ได้ออกมาตรการเร่งด่วนให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรายใหญ่และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในกลุ่มธุรกิจโรงแรมทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบ เพื่อช่วยผ่อนคลายความวิตกกังวลให้กับผู้ประกอบการทุกกลุ่ม และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ธุรกิจมีความพร้อมที่จะเผชิญและรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยมีมาตรการพักชำระเงินต้น นานสูงสุด 6 เดือน หากสถานการณ์ยืดเยื้อธนาคาร จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือด้วยมาตรการเพิ่มเติมต่อไป ติดต่อขอรับมาตรการช่วยเหลือได้ที่ผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ที่ดูแลท่าน หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0-2722-2222

ประกันชีวิตครอบคลุมไวรัสโคโรนา

เช่นเดียวกับนายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารได้ออกมาตรการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอีในกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว และคู่ค้าของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั่วประเทศ โดยมีมาตรการช่วยเหลือ คือพักชำระเงินต้นนานสูงสุด 12 เดือน และขอวงเงินเพิ่มเพื่อฟื้นฟูกิจการ โดยฟรีค่า ธรรมเนียมค้ำประกันกับ บสย. 2 ปี ขณะที่นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวว่า ผู้ที่มีกรมธรรม์ประกันชีวิตและยังมีผลบังคับอยู่ ณ ปัจจุบัน จะยังคงได้รับความคุ้มครองในทุกกรณีครอบคลุมถึงไวรัสโคโรนา ตามจำนวนผลประโยชน์ที่กำหนดไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัยภายใต้เงื่อนไขความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันชีวิตและหรือสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ

“สาธิต” เผยจีนให้รับกลับไม่เกิน 4 ก.พ.

ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามด้วยวาจาเรื่องมาตรการรับมือกับการระบาดของไวรัสโคโรนา ของ นพ.เรวัต วิศรุตเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย โดยสอบถามใน 3 ประเด็น ได้แก่ 1.มีมาตรการรองรับเชื้อโคโรนาหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างไร 2.มีมาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยวจีนตามแนวชายแดนอย่างไร เพราะทราบว่าไม่มีจุดคัดกรองตามจุดเหล่านี้ 3.มีมาตรการคัดกรองตามบริเวณแหล่งชุมชน เช่น โรงเรียนและโรงแรม เป็นต้น อย่างไร นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ชี้แจงว่า กระทรวงได้ตั้งวอร์รูมตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.ติดตามสถานการณ์ในประเทศกลุ่มเสี่ยง พร้อมตั้งทีมคัดกรองผู้โดยสารจากจีน ยืนยันว่าได้เตรียมแผนรองรับ ทั้งโรงพยาบาล ห้องปลอดเชื้อเพียงพอ เว้นแต่มีผู้ติดเชื้อเป็นหลักพันหรือหลักหมื่นคน ขอให้ทุกคนติดตามข้อมูล อย่าตระหนกเกินไปแต่ไม่ประมาท มั่นใจควบคุมสถานการณ์ได้ ล่าสุดได้รับการประสานจากรัฐบาลจีนว่า จะอนุญาตให้ไทยนำเครื่องบินไปรับคนไทยที่เมืองอู่ฮั่นกลับประเทศได้ไม่เกินวันที่ 4 ก.พ.

อนค.กระทุ้งแจงแท็กซี่ติดเชื้อ

จากนั้น นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ตั้งกระทู้ถามว่า รัฐบาลจะมีแนวทางสื่อสารกับประชาชนอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกในช่วงการระบาดของโรค และสาเหตุที่ทหารเรือ 26 คน สามารถเดินทางกลับมาจากเมืองอู่ฮั่นในช่วงที่มีการปิดเมืองได้ แต่พลเรือนไทยที่อยู่ในเมืองดังกล่าวกลับไม่สามารถเดินทางกลับมาประเทศไทยได้ นอกจากนี้ ทราบมาว่าคนที่ติดเชื้อรายที่ 14 เป็นคนขับแท็กซี่ชาวไทยที่อาจติดเชื้อจากผู้โดยสารชาวจีน อยากทราบว่า ขณะนี้มีการระบาดจากคนสู่คนรายแรกในประเทศไทยแล้วหรือไม่

ยันโปร่งใสไม่ปกปิดข้อมูล

นายสาธิตตอบว่า ได้แถลงข่าวชี้แจงประชาชนทุกวัน และเผยแพร่ข้อมูลผ่านช่องสื่อออนไลน์ ไทยอยู่ในอันดับ 6 ของโลกในการควบคุมโรคระบาด มั่นใจมีความพร้อมทำงานได้เต็มที่ กรณีทหารเรือที่เดินกลับมาจากเมืองอู่ฮั่น ได้รับการชี้แจงจากกองทัพเรือว่า ช่วงที่มีโรคระบาดที่เมืองอู่ฮั่นเป็นช่วงเดียวกับเทศกาลตรุษจีน ทหารกลุ่มนี้หยุดพักการทำงานและเดินทางไปท่องเที่ยวนอกเมืองอู่ฮั่น ภายหลังเดินทางออกนอกเมืองอู่ฮั่น ปรากฏว่ามีการปิดเมืองไม่สามารถเข้าเมืองอู่ฮั่นได้ พอเข้าเมืองไม่ได้จึงไปเมืองอื่น เพื่อติดต่อเที่ยวบินพาณิชย์เดินทางกลับไทย ส่วนข้อมูลเรื่องผู้ติดเชื้อรายที่ 14 เป็นคนขับแท็กซี่ เป็นข้อมูลเบื้องต้นที่ต้องตรวจสอบนำไปสู่การสรุปต่อไป อยู่ระหว่างการติดตามข้อมูลและรอการตรวจสอบยืนยันจากห้องแล็บ 2 แห่งให้ตรงกัน ทุกอย่างไม่มีการปกปิดข้อมูลและข้อเท็จจริง

ปชป.ยื่นญัตติด่วนแก้ปัญหาไวรัสโคโรนา

ขณะที่ นพ.บัญญัติ เจตจันทร์ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ พร้อม ส.ส.ประชาธิปัตย์รวม 20 คน ยื่นญัตติด่วนต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้พิจารณาศึกษาปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา นพ.บัญญัติกล่าวว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยจากการติดเชื้อหลายราย เพราะมีนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวเมืองไทยจำนวนมาก โรคนี้มีแนวโน้มแพร่ระบาดรวดเร็ว ทำให้เกิดการตื่นตระหนกในหมู่ประชาชน ว่ารัฐบาลเตรียมมาตรการเฝ้าระวัง การป้องกัน การควบคุมโรคและการรักษาโรคอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ จึงเป็นเรื่องสำคัญจำเป็นเร่งด่วนที่สภาฯต้องพิจารณาศึกษาการแก้ไขปัญหา เพื่อส่งเรื่องให้รัฐบาลแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ควรมีการตั้งวอร์รูมรวบรวมข้อมูลจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ขอส่งกำลังใจให้ประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในจีน ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

“จาตุรนต์” ติง รบ.อ่อนไม่มีทิศทาง

วันเดียวกัน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวที่ศาลอาญาถึงการเตรียมความพร้อมและรับมือไวรัสโคโรนาว่า ขณะนี้มาตรการที่รัฐบาลทำอยู่มีความอ่อนและไม่มีทิศทาง ทำให้ไม่อาจคาดหวังว่าจะรับมือกับปัญหาได้ดี แต่ไทยยังโชคดีที่บุคลากรทางการแพทย์และระบบสาธารณสุข ด้านการดูแลโรคระบาดมีประสิทธิภาพสูงมากและเคยมีประสบการณ์รับมือกับไวรัสอื่นมาก่อนหน้านี้ จึงมีความพร้อม แต่ไวรัสนี้มีการเริ่มต้นจากจีน มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไทยจำนวนมาก เรื่องนี้จึงไม่ใช่แค่ความสามารถทางการแพทย์ แต่เป็นเรื่องการบริหารจัดการหลายอย่างผสมกัน ส่วนนี้ถ้ารัฐบาลทำได้ไม่ดีและไม่มีทิศทาง ไม่มีความกล้าตัดสินใจ จะทำให้เกิดความเสียหายแต่จะมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับเหตุการณ์

บริติชแอร์เวย์สระงับเที่ยวบินไปจีน

อีกด้านหนึ่ง วันเดียวกัน สายการบินบริติช แอร์เวย์ส ของอังกฤษ ประกาศระงับเที่ยวบินทุกเส้นทางที่เดินทางไปและกลับจากประเทศจีน จนถึงวันที่ 31 ม.ค. เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและพนักงานการบิน พร้อมอยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์เพิ่มเติม สืบเนื่องจากรัฐบาลอังกฤษประกาศเตือนพลเมืองงดเว้นการเดินทางไปจีนยกเว้นจะจำเป็น เช่นเดียวกับสายการบินไลออน แอร์ อินโดนีเซีย ยกเลิกกว่า 50 เที่ยวบิน เส้นทางอินโดนีเซีย-จีน ในช่วงเดือน ก.พ. สายการบินฮ่องกง แอร์ไลน์ส ที่ประกาศลดเที่ยวบินไปจีนจำนวนครึ่งหนึ่งของที่ให้บริการอยู่ จนถึงสิ้นเดือน มี.ค. แต่สายการบินเจแปน แอร์ไลน์ส ของญี่ปุ่น และสายการบินลุฟต์ฮันซาของเยอรมนี ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน ระบุว่าอยู่ระหว่างจับตาสถานการณ์

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 3
  • bigsu
    เขาก็คุมแล้ว และใช้ยาแรงแล้ว แหมไอ้คำว่าคุมได้นี่ต้องเป็นอย่างไรเหรอคุณทราบมั้ย สมัยก่อนตายเป็นล้านๆแล้วบอกว่าคุมไม่ได้ก็ยังมีเหตุผล แต่นี่หลักพันหลักกมื่นติดเชื้อบอกคุมไม่ได้ ยุติธรรมหน่อยนะไทยราด
    30 ม.ค. 2563 เวลา 01.42 น.
  • Na.wa.
    พวกคลังยาแถวดอนเมืองตัวแสบเลยโกงราคาหน้ากาก ขึ้นเท่าตัวน่าจะโดนปรับบ้าง
    30 ม.ค. 2563 เวลา 01.29 น.
  • Supoch
    ข่าวสั้นจัง
    30 ม.ค. 2563 เวลา 01.02 น.
ดูทั้งหมด