ไลฟ์สไตล์

10 ข้อคิด กิน ดื่ม ใช้ อย่างมีเมตตา | พศิน อินทรวงค์

พศิน อินทรวงค์
เผยแพร่ 08 ส.ค. 2562 เวลา 10.25 น.
(ต่อโลกและเพื่อนมนุษย์)

1. ทรัพยากรโลก ไม่มีเพิ่ม มีแต่ลด น้ำมัน แร่ธาตุ ต้นไม้ ภูเขา สิ่งเหล่านี้ใช้เวลาสร้างยาวนานหลายชั่วอายุคน ทว่า ทำลายได้ในพริบตา ผ่านการดื่ม กิน ใช้ อย่างหรูหราฟุ่มเฟือย

2. บ้านหลังโตอาจทำลายภูเขาด้วยอิฐ หิน ปูนซีเมนต์ รถคันใหญ่อาจดูดทรัพย์กรใต้ดินจนสิ้นซาก บุฟเฟ่ต์หรูในโรงแรมห้าดาว อาจสังเวยชีวิตกุ้ง หอย ปู ปลานับหมื่นแสน ยามดื่ม กิน ใช้ เอาแต่พอสมควร อย่าให้ความสุขสบายของตนเป็นศูนย์กลางจักรวาล ใช้ชีวิตอย่างมีสติกำกับ แผ่ความเมตตาของท่านออกไปให้ไพศาล 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ความเมตตาทำให้ท่านอิ่มแม้ดื่มกินไม่มากนัก ความเมตตาทำให้ท่านอยู่สบาย แม้มีบ้านเรือนหลังกระทัดรัด ความเมตตาจะเป็นแสงนำทางชีวิต ให้ท่านรู้จักโอบอ้อม แบ่งปัน ดื่มกินใช้อย่างพอดี ๆ

3.คุณค่าแท้ของการกิน ดื่ม ใช้ มีไว้เพื่อประทังชีวิต ต่อลมหายใจ เรามีลมหายใจ เพื่อสร้างสรรค์สุขสันติ เพื่อทำสิ่งที่มีคุณค่าแก่ตนเองและผู้อื่น หากเราดื่ม กิน ใช้ จนมีกำลังวังชา แล้วเราใช้กำลังวังชาของเรา เพื่อเพิ่มพูนอัตตา เพื่อตอบสนองกิเลส ลมหายใจของเราย่อมเป็นพิษต่อจิตวิญญาณของตนเอง เราคือผู้ได้รับพิษภัยจากการตักอาหารเข้าปากโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

4.การพัฒนาใด ๆ เป็นไปได้ทั้งคุณและโทษ เร็วกว่า อร่อยกว่า สบายกว่า หากทำลายโลกมากกว่า ก็ยังไม่นับเป็นการพัฒนา เหมือนผลไม้เปลือกหนา เนื้อน้อย สู้ผลไม้เนื้อมาก เปลือกบางไม่ได้ เร็วกว่า อร่อยกว่า สบายกว่า ควรเป็นการรักษ์โลกที่มากกว่า เป็นการยืดอายุของโลก มิใช่การลดทอนอายุของโลกให้สั้น เช่นนั้นไม่สามารถเรียกได้ว่าการพัฒนา แต่นับเป็นการถอยหลังลงคลอง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

5.ดื่ม กิน ใช้ มิใช่อื่นใด กิน ดื่ม ใช้ คือการปฏิบัติธรรม เมื่ออาหารถูกจัดวางตรงหน้า อย่าเพิ่งรีบกินทันที โปรดให้เวลากับตนเองสักเล็กน้อย นั่งมองอาหารในจาน คิดถึงที่มา ชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ เขาเหน็ดเหนื่อยอย่างไรกว่าจะได้ข้าว ได้ผัก ได้พืชพรรณถึงมือเรา 

คิดให้ลึก นึกให้กว้าง คิดถึงบุญคุณสัตว์น้อยใหญ่ เนื้อวัวมิได้ให้โปรตีน แต่เนื้อวัวให้ชีวิต เป็นการสละชีวิตวัว เพื่อต่อชีวิตเรา อย่าพิจารณาอาหารในกรอบของโภชนาการเท่านั้น แต่จงคิดถึงอาหารให้กรอบของจิตวิญญาณด้วย แล้วเราจะตระหนักถึงคุณค่าของอาหารทุกจาน แล้วเราจะเข้าถึงแก่นแท้ เหตุใดโลกนี้จึงมีคนกลุ่มหนึ่งที่กราบไหว้ข้าวปลาอาหาร

6. พืช ผัก เนื้อสัตว์ มีสารอาหารครบถ้วนอยู่แล้ว มิต้องปรุงรสชาติให้จัดจ้าน ในสิบมื้อที่กิน กินเพื่ออร่อยสักสามมื้อเพื่อสนองความเป็นสัตว์โลก อีกเจ็ดมื้อที่เหลือ ขอให้กินเพื่อความเป็นอริยชน เพื่อยกระดับจิตใจของตน กินเพื่อยกระดับจิตใจ จะทำให้ห่างไกลโรค มีอายุยืนยาวกว่ากินเพื่อความอร่อยไปวันๆ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

7. ปลูกผักกินเองบ้าง มิใช่เพื่อประหยัด แต่เพื่อลิ้มรสชาติชีวิต ผักที่ปลูกเองรสชาติดีกว่าผักที่ซื้อหาจากตลาดไปไหน ๆ มิใช่เพราะมีความกรอบอร่อยมากกว่า แต่เพราะผู้ปลูกเห็นบางสิ่งที่ไม่เคยเห็น นั่นคือเห็นเมล็ดพันธุ์ เห็นชีวิตงอกงาม เห็นธรรมชาติ เห็นว่าเรามีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติอย่างไร อาหารที่ปลูกเอง หาเอง ปรุงด้วยมือตนเอง มิใช่อาหารกายเท่านั้น แต่ยังเป็นอาหารของวิญญาณด้วย

8.มองหยาบ ๆ เหมือนว่า เรามีเงิน เราจึงมีบ้านอยู่ มีอาหารกิน มีน้ำดื่ม มีเครื่องนุ่งห่ม แต่ถ้ามองให้ลึก ที่เรามีกินมีใช้ มิใช่เพราะเรามีเงินทอง หากแต่เรามีกิน มีใช้ เพราะโลกนี้ยังมีคำว่าเมตตา

9. คำว่าพอดี ไม่ต้องตามหา แต่คำว่า ยังไม่พอ อาจต้องใช้เวลาตามหาชั่วชีวิต เพื่อเติมเต็มหลุดดำแห่งกิเลส เพื่อพบกับความว่างเปล่าในท้ายที่สุด พอดี คือพอ เมื่อพอแล้ว ความดีจะเกิดขึ้นเอง แม้ไม่ดีพอ ความพอดี จะไม่มีวันกำเนิดเกิดขึ้น

10. มีน้อยใช้น้อย มีมากใช้น้อย ยิ่งร่ำรวยขึ้น ก็ขอให้มีบ้านหลังเล็กขึ้น ยิ่งร่ำรวยขึ้น ก็ขอให้มีความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายมากขึ้น จงกระทำตนให้เป็นแบบอย่างแก่ชนรุ่นหลัง พวกเขาจะได้มีสำนึกใหม่ว่า ความสำเร็จคือการแบ่งปัน ความสำเร็จคือการลดมานะอัตตา คือการดื่มกินใช้อย่างพอประมาณ เพื่อเบียดเบียนโลกให้น้อยที่สุด เพื่อกระทำตนเป็นสะพานช่วยเหลือผู้อื่นข้ามไปสู่ชีวิตที่ดีกว่า สั่งสอนด้วยคำพูดทำได้ง่ายดาย แต่มิใช่สิ่งน่าเชื่อถือ การกระทำเท่านั้น จะเป็นคำสั่งสอนที่ดีที่สุด การดื่มกินใช้ของเรา จะเป็นคำสั่งสอนให้ลูกหลานของเรา เรามิได้มีชีวิตอยู่เพื่อดื่มกิน แต่เราดื่มกินเพื่อให้มีชีวิตอยู่ เพื่อไปทำในสิ่งที่มีความหมายมากกว่า ดื่มให้ง่าย กินให้ง่าย อยู่ในง่าย เป็นการลับคมปัญญา อยู่อย่างต่ำ ทำอย่างสูง คือเหตุผลที่เราเกิดมา การปฏิบัติธรรมมิใช่อื่นใด เริ่มได้จากการดื่มกินใช้ ในชีวิตประจำวัน…

ความเห็น 14
  • ความสุขย่อมที่จะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยเพราะความพอเพียง.
    08 ส.ค. 2562 เวลา 10.57 น.
  • VUT
    เป็นบทความที่ดีมากๆ
    08 ส.ค. 2562 เวลา 11.08 น.
  • ดาวิกา
    นี่ก็เป็นธรรมะแบบพระโพธิสัตว์ สาธุครับท่าน
    08 ส.ค. 2562 เวลา 12.39 น.
  • Anc
    ถูกต้องที่สุดค่ะ
    08 ส.ค. 2562 เวลา 10.54 น.
  • วนัส หนูน้อย🐒🌿🎼
    ที่ว่ามานี่ชาวบ้านทั่วไปเขาปฏิบัติกันอยู่แล้ว เว้นแต่พวกคนใหญ่ๆ โตๆ พวกคนร่ำรวยพวกใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ใครจะสอนคนพวกนี้ได้ ใครจะดัดไม้แก่ โต๊ะ14 ล้านคืออะไร
    08 ส.ค. 2562 เวลา 14.53 น.
ดูทั้งหมด