ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวการสูญเสียบุคคลสำคัญจากแวดวงที่แตกต่างกันไปถึง 2 คน คนหนึ่งคือ Kate Spade สาวเก่งของวงการแฟชั่นและดีไซน์ผู้ก่อตั้งกระเป๋าแบรนด์ดังในชื่อเดียวกัน ส่วนอีกรายคือ Anthony Bourdain เชฟชื่อดังและเซเลบวงการอาหารระดับโลก นอกเหตุการณ์สลดช็อกวงการทั้งสองนี้จะเกิดห่างกันไม่นานแล้ว สิ่งที่คล้ายคลึงกันอีกอย่างคือทั้งคู่ตัดสินใจจบชีวิตตนเองโดยล้วนมีประวัติป่วย“โรคซึมเศร้า” อยู่เบื้องหลัง
โรคซึมเศร้าคืออะไร มันร้ายแรงได้แค่ไหนกัน มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง (Charlene Nguyen) ได้นำข้อความอธิบายสิ่งที่ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าเผชิญเปรียบเทียบการกวาดหิมะออกจาบ้านทุกๆ วันมาโพสต์ มันสวยงาม เข้าใจง่าย และเจ็บปวด แต่คงดีหากจะทำให้เรามองเห็นภาพและเข้าใจโรคนี้ได้มากขึ้น
“การป่วยเป็นโรคซึมเศร้าก็เหมือนกับมีหิมะตกที่บ้านคุณทุกวัน…
วันที่หิมะหนาเพียงไม่กี่นิ้ว คุณอาจจะหนาวเหน็บ แต่ยังสามารถออกไปขุดหิมะเคลียร์ทางให้ออกไปทำงานได้ ออกไปหาซื้อของกินได้ แต่อาจจะขอตัวจากปาร์ตี้หลังเลิกงาน ผิดนัดกินข้าวกับเพื่อนๆ หิมะอาจตกหนักคืนนี้ก็ได้ รีบกลับไปที่บ้านคงดีกว่า
บางวันหิมะหนาเป็นฟุต คุณใช้เวลาเป็นชั่วโมงขุดหิมะและตักมันออกไปให้พ้นทาง คุณขุดหิมะจนมือเจ็บ หลังก็ปวดไปหมด เมื่อหมดวันคุณรีบผละจากภารกิจทุกอย่างกลับมาบ้าน
ตื่นมาอีกวันหิมะหนาขึ้นอีกหลายฟุต คุณพยายามขุดและตักหิมะออกอยู่ครึ่งวันแล้วแต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น มันหนาเกินกว่าจะกรุยทางเพื่อออกไปทำงานหรือออกไปไหนๆ ได้ คุณเหนื่อยเกินกว่าจะขุดหิมะต่อไปได้อีก สิ่งที่ทำได้มีเพียงกลับเข้าไปนอนเงียบๆ ในบ้าน ตื่นมาอีกที่พลั่วที่ใช้ขุดจมหายมิดไปในกองหิมะแล้ว โทรศัพท์ดังขึ้น ใครสักคนคงกำลังสงสัยว่าคุณหายไปไหน แต่คุณเหนื่อยเกินกว่าจะรับโทรศัพท์หรือแม้แต่โทรกลับไป คนอื่นๆ คงไม่เข้าใจว่ามันเหนื่อยล้าขนาดไหน ที่บ้านพวกเขาคงไม่มีหิมะตกแบบที่นี่
บางสัปดาห์พายุหิมะพัดโหมกระหน่ำใส่บ้านคุณ แค่เปิดประตูก็พบว่าหิมะท่วมสูงมิดจนออกไปไหนไม่ได้ กระแสไฟฟ้าขัดข้องและดับไป ในบ้านหนาวเกินกว่าจะนั่งในห้องนั่งเล่นได้ คุณจึงไปซุกตัวเงียบๆ อยู่บนเตียง จะเตาอบหรือไมโครเวฟก็ใช้งานไม่ได้ คุณคว้าขนมปังชืดๆ เย็นๆ ใส่ปากไปโดยไม่นึกใส่ใจเรื่องรสชาติ ไม่ได้อาบน้ำมา 3 วันแล้ว ไม่รู้กลายเป็นคนสกปรกขนาดนี้ได้ยังไง แต่มันหนาวเกินกว่าที่จะอาบน้ำได้จริงๆ
ในสภาพแบบนี้ อาหารร่อยหรอลงเรื่อยๆ แต่คุณไม่แน่ใจว่าต้องทำอย่างไรดี ใช้มือขุดน้ำแข็งไปเรื่อยๆ เพื่อหาทางออกจากบ้านให้ได้งั้นหรือ? ข้างนอกนั่นอาจมีใครสังเกตเห็นและเข้าให้ความช่วยเหลือก็ได้ แต่จะต้องขุดเยอะแค่ไหนกันล่ะ? ท่ามกลางพายุหิมะแบบนี้จะมีคนคอยช่วยอยู่ข้างนอนนั่นจริงๆ หรือ? อยู่ข้างในนี้ไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็คงหนาวตาย แต่ให้ออกไปข้างนอกก็คงแข็งตายอยู่ดีนั่นแหละ
ในทุกๆ วันที่หิมะตก มันค่อยๆ กัดกร่อนคุณไปทีละน้อย คุณกล้ำกลืนฝืนทนกับความหนาวเหน็บทุกวัน มือคุณเจ็บไปหมดและหลังก็ปวดระบมที่ต้องคอยตักน้ำแข็งออกให้พ้นไปจากหน้าบ้าน แต่คุณรู้ดีว่าถ้าไม่ทำเสียตั้งแต่วันที่หิมะยังไม่หนา มันจะยิ่งแย่ลงกว่าเดิมหลายเท่าในวันที่หิมะตกหนัก แต่หิมะก็ช่างตกลงมาได้เรื่อยๆ ไม่มีหยุดหย่อน เหมือนธรรมชาติที่ทำหน้าที่ของมันไปเรื่อยๆ โดยไม่ใส่ใจว่าได้ฝังทั้งโลกของคุณมิดไปกับความหนาวเหน็บแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นบางทีหิมะก็ไปตกในจุดที่คุณไม่ทันสังเกต อาจเป็นหลังคาบ้านหรือไม่ก็เป็นเนินเขาหลังบ้าน ที่วันดีคืนดีก็ถล่มลงมาซัดบ้านคุณหายไปทั้งหลัง และคุณก็ยังติดอยู่ในนั้น…”
ฉันเองไม่รู้ว่าพายุหิมะที่ Kate Spade และAnthony Bourdain เจอนั้นหนักหนาแค่ไหน อาจจะเป็นหิมะถล่มลงมาหนักๆ โครมเดียว แต่จริงๆ อาจจะเป็นหิมะหน้าหนาวที่เชื่องช้าและยาวนาน พวกเขาอาจพยายามขุดหิมะกันมาอย่างหนักตลอดมา หรืออาจจะไม่ก็ได้ แต่บางทีแค่ขุดหิมะเฉยๆ ก็ไม่พอ เมื่อดูจากข้างนอกเราไม่รู้หรอกว่ามันยากแค่ไหน เพราะฉะนั้นมันจึงสำคัญที่จะเข้าใจความรู้สึกคนที่อยู่ข้างในนั้น
ฉันเชื่อว่าความเห็นใจและความเข้าใจเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในการช่วยเหลือคนที่กำลังเผชิญโรคซึมเศร้า ความเข้าใจว่าโรคซึมเศร้าคืออะไร ผู้ที่ต้องเผชิญหน้ากับมันเขารู้สึกยังไง และการต้องใช้ชีวิตกับโรคนี้มันเป็นอย่างไร
ฉันคงไม่พูดกับคนที่กำลังแย่ว่า “สู้ๆ นะ ขุดหิมะไปเรื่อยๆ อย่าเพิ่งท้อ” แน่ล่ะ พวกเขาคงกำลังพยายามอย่างสุดกำลังที่จะไม่ให้ตัวเองถูกฝังไปในกองหิมะ ใครจะอยากหนาวตายในบ้านตัวเองกัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่พวกเราทำได้คือหยิบพลั่วขึ้นมาช่วยขุดเข้าไปหาพวกเขา และเรียกคนในชุมชนให้มาช่วยกัน อย่าทิ้งให้เขาจมไปกับความหนาวเหน็บอันโดดเดี่ยว
หากไม่อยากเห็นโรคซึมเศร้าสร้างความสูญเสียมากไปกว่านี้ ถึงเวลาแล้วที่พวกเราต้องมองโรคซึมเศร้าด้วยความเข้าใจ สังเกตคนใกล้ชิด คนรอบตัว สังเกตสัญญาณผิดปกติ และให้ความช่วยเหลือเมื่อที่สามารถทำได้
ที่มา: เฟซบุ๊ก Charlene Nguyen
ภาพ: Jeffrey Czum/pexels
Rosemaryn🌈 ผู้ป่วยทุกคนจะพยายามบอกว่าตัวเองเป็นยังไง แต่ไม่เคยมีใครบอกผู้ป่วยว่าต้องทำอะไรถึงจะหาย และผู้ป่วยเองก็ไม่พยายามเรียนรู้วิธีใช้ชีวิตกับมันให้ได้ นี่ต่างหากน่าเศร้าและหดหู่ที่สุด
สถาบันจิตเวชฯสมเด็จเจ้าพระยา,จิตแพทย์,นักจิตวิทยาบำบัด,ยา และความพยายามที่จะเข้าใจโรคนี้ พยายามเข้าใจตัวเองให้มากที่สุด พยายามทำเพื่อให้ตัวเองหาย ทำให้เราเอาตัวรอดจากโรคนี้มาได้โดยใช้เวลา6ปี ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยทุกคน #SaveMDD
13 มิ.ย. 2561 เวลา 18.33 น.
ตอนนี้ก็ดิดว่าตัวเองเป็นอยู่คะ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ
14 มิ.ย. 2561 เวลา 03.01 น.
มันยากนะ ที่จะมีใครมาเข้าใจ ใครอีกคนที่นั่งมองทะเลที่ไม่เห็นฝั่ง
13 มิ.ย. 2561 เวลา 18.19 น.
The Thep ยากมาก สำหรับการใช้ชีวิตในแต่ละวัน
13 มิ.ย. 2561 เวลา 17.23 น.
ノイ•หน่อย•Noi ลองระบายออกดูค่ะ มีคนคอยรับฟังสิ่งที่เราคิดเรารู้สึก เหมือนได้ระบายความคิดเราออก จะได้ไม่ทำให้เราคิดวนอยู่แบบนั้นคนเดียว
14 มิ.ย. 2561 เวลา 04.27 น.
ดูทั้งหมด