ชาวบ้านบางปะกง..ร้อง! เอกชนปักหลักเขตขวางทางสาธารณะไร้หน่วยงานรัฐดูแล

ฉะเชิงเทรา - ยังไม่มีอะไรในก่อไผ่ ! ปํญหาเอกชนปักหลักแนวเขตที่ดินขวางถนนสาธารณะ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ทำชาวบ้านสัญจรลำบากเผยร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมนานเกือบเดือนทุกอย่างยังเหมือนเดิม วอนช่วยด่วน..

จากกรณีที่ชาวบ้านในชุมชนหน้าตลาดบูรพา ม. 7 และ ม. 12 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้เคยร้องเรียนต่อสื่อมวลชนและศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อให้ส่งหน่วยงานเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบการปักหลักแนวเขตในที่ดินของเอกชนรายหนึ่ง ที่รุกขวางถนนสาธารณะจนทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนด้านการสัญจรไปมา จนถึงวันนี้ผ่านไปเกือบ 1 เดือนกลับบังไม่พบว่ามีความคืบหน้าแต่อย่างใดนั้น

วันนี้ ( 22 ต.ค.) ชาวบ้านในชุมชนหน้าตลาดบูรพา ม. 7 และ ม. 12 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา กว่า 60 คน ได้รวมตัวกันร้องเรียนต่อสื่อมวลชนอีกครั้งพร้อมนำไปชี้จุดหลักแนวเขตที่ดินเอกชนที่ยังคงปักขวางถนนสาธารณะ

นายดำรง ลิขิตทรัพย์ อายุ 78 ปี ชาวบ้าน ม.12 บอกว่ากรณีที่มีเอกชนเข้ามาเช่าพื้นที่ดังกล่าวเพื่อทำเป็นบ่อเลี้ยงปลา และได้นำหลักเขตแท่งคอนกรีตมาปักขวางถนนในซอยจรัญยานนท์ ซ.2 หรือถนนลิขิตทรัพย์ ซึ่งเป็นเส้นทางการสัญจรของชาวบ้าน ที่เชื่อมระหว่างถนนจรัญยานนท์ บริเวณด้านหน้าตลาดบูรพา ไปยังถนนสาย บางนา-ตราด (เทพรัตน) กม.43 รวมทั้งยังเป็นเส้นทางลัดที่ชาวบ้านและคนงานในโรงงานอุตสาหกรรม ตลอดจนนักเรียนใช้ในการสัญจรเพราะไม่ต้องออกไปยังถนนสายใหญ่นั้น

วันนี้ชาวบ้านก็ยังคงได้รับความเดือดร้อนเช่นเดิมเพราะต้องเสียเวลาวนรถหาจุดกลับรถที่อยู่ห่างไกลหลายกิโลเมตร ประกอบกับเส้นทางดังกล่าวมีการจราจรที่หนาแน่นเนื่องจากเป็นเส้นทางลัดที่ใกล้ที่สุด แต่เมื่อผู้เช่าที่ดินเอกชน ได้นำหลักเขตแบบแท่งคอนกรีตมาปักขวางก็ทำให้การสัญจรของผู้ใช้เส้นทางดังกล่าวเป็นไปอย่างยากลำบาก

“ และยังเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง วันนี้ชาวบ้านจึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานราชการ เร่งเข้ามาแก้ไขรวมทั้งส่งเจ้าหน้าที่เข้าทำการรังวัดเพื่อตรวจสอบชี้ชัดถึงแนวเขตเรื่องการรุกล้ำที่ดินสาธารณะ เพื่อให้สามารถขยายถนนให้กว้างขึ้นได้ ”นายดำรง กล่าว

ขณะที่ นายวันชัย ทองมาลัย อายุ 61 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.12 กล่าวยืนยันว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเดิมเคยเป็นคลองซอยเก่าแก่ที่แยกออกมาจากคลองสำโรง แต่ไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์จึงมีการนำดินมาถมเพื่อใช้เป็นเส้นทางสัญจรของประชาชนในพื้นที่

ส่วนแนวเขตที่ดินส่วนบุคคลของผู้บุกรุก อยู่ลึกจากแนวถนนในปัจจุบันประมาณ 4 เมตร เนื่องจากลำคลองสายเดิมมีขนาดกว้างประมาณ 15 วา (30 เมตร) จึงอขอให้หน่วยงานราชการเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์บนที่ดินสาธารณะร่วมกันต่อไป