หนึ่งในแอพมือถือที่ผมขาดไม่ได้ คือแอพปฏิทิน สำหรับวางแผนทุกอย่างในชีวิต ซึ่งผมจะวางแผนชีวิตเป็นรายสัปดาห์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติมากที่เมื่อเปิดแอพเพื่อดูความยุ่งเหยิงของชีวิตแล้วผมจะเห็นว่าบางสัปดาห์แทบไม่มีช่องว่างสีขาวอยู่ในปฏิทินเลย แต่ละวันเต็มไปด้วยงาน และนัดประชุมที่ถาโถมและซ้อนทับกันแน่นหนามาก บางวันแน่นไปจนถึงช่วงค่ำเพราะมีนัดกินข้าวกับลูกค้าอีก
แต่ผมพบว่ามันมักจะมีอยู่ช่องหนึ่งในปฏิทินที่ว่างอยู่ และทำให้ผมแปลกใจตัวเองเหมือนกัน เพราะช่องว่างนั้นคือคืนวันศุกร์ ซึ่งถ้าเป็นสมัยก่อน ช่องนี้ในปฏิทินน่าจะเป็นช่องแรกๆที่ถูกจับจองด้วยนัดกินข้าวสังสรรค์กับเพื่อนกลุ่มนู้นกลุ่มนี้
ศุกร์ไหนไม่มีนัดจะรู้สึกแปลกๆโหวงๆ ต้องไปหาอะไรมาถมให้เต็ม แต่พอเปิดปฏิทินย้อนหลังกลับไปดูช่องหลายเดือนที่ผ่านมา ช่องคืนวันศุกร์ของผมเป็นช่องว่างเกือบทุกอาทิตย์
ผมรู้สึกว่าคืนวันศุกร์เป็นช่วงเวลาที่มีความพิเศษ อาจจะเพราะมันเป็นวันที่เราผ่อนคลายได้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องงาน ไม่ต้องกลัวว่าพรุ่งนี้จะตื่นสายไปทำงานไม่ทัน เหมือนเป็นโฆษณาช่วงไพรม์ไทม์ราคาแพงของชีวิต
ถ้าเป็นเรื่องงานก็จะพยายามโยกย้ายไปอยู่วันจันทร์หรืออังคาร หรือถ้ามีนัดที่ไม่ได้สำคัญอะไรมากก็จะพยายามบอกปัดไป ซึ่งหลายอาทิตย์ก็ลงเอยด้วยการเป็นช่องว่างที่ไม่มีนัดอะไรและกว่าจะรู้ตัวก็คือเช้าหรือเที่ยงวันศุกร์ที่เปิดแอพแล้วนึกในใจ “อ้าว เย็นนี่ว่างนิ”
เมื่อเห็นว่าคืนวันศุกร์ไม่มีแผนต้องทำอะไร ถ้าเป็นสมัยก่อนผมคงรู้สึกเซ็ง เหงา อ้าวเฮ้ย… นี่เราต้องวางแผนอะไรผิดพลาดไปแน่ๆ พร้อมกับพยายามยกหูโทรหาเพื่อนในวินาทีสุดท้าย แต่พอมาตอนนี้ เกือบทุกครั้งผมกลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เพราะคิดว่า ก็ดีเหมือนกัน จะได้มีเวลาให้กับตัวเองบ้าง
กลายเป็นว่าคืนวันศุกร์ที่มีคุณภาพสำหรับผมหลายครั้ง จบด้วยการหาอะไรทำคนเดียว บางสัปดาห์ที่พังพินาศมาก ทำงานไม่ทัน โดนเจ้านายสั่งแก้งาน ลูกค้าไม่ซื้องาน แทนที่จะเอาความพังที่สั่งสมทั้งอาทิตย์ไว้ไปเกรี้ยวกราดด้วยการกินอาหารอย่างบ้าคลั่ง
หรือไปบ่นให้ใครฟัง นู่นครับ ไปฟิตเนสยกเหล็กให้หายบ้า สั่งรื้องานกรูใช่มั้ย ได้! ยกเวทสามเซ็ท ฮึบ!!! ลูกค้างี่เง่านักใช่มั้ย ได้!!! วิดพื้นห้าสิบครั้ง ฮึบ!!!
โอ้โห ออกมาจากฟิตเนสนี่คือหายบ้าเลยนะครับ ถ้าเอาความเครียดไปลงกับชาบูหมูกะทะ ออกจากร้านมานี่ต้องมาเครียดต่ออีกรอบว่าจะเอาแคลอรี่ออกจากร่างยังไง แต่มาฟิตเนสแล้วเหมือนได้โชคทองกับซองมาม่า ไม่เครียดแล้วไม่อ้วนอีก นับเป็นการใช้เวลาคืนวันศุกร์ที่ดีมากจนงงว่าที่ผ่านมามัวแต่ไปทำอะไรอยู่
วันศุกร์ที่ไม่มีอะไรทำ ยังเป็นโอกาสที่ดีให้เราได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำด้วยนะครับ ผมเคยนั่งกินข้าวกับเพื่อนสนิทกันสองคน กินไปคุยไปแบบเรื่อยเปื่อยจนร้านปิด แต่ก็ยังรู้สึกว่าอยากทำอะไรต่ออีกสักหน่อย ไหนๆก็คืนวันศุกร์แล้ว แทนที่เราจะไปต่อกันที่ร้านกินดื่มแบบที่ผ่านมา วันนั้นเราคิดอะไรกันไม่รู้
“อยากไปเดินปากคลองว่ะ” เพื่อนผมโพล่งออกมา
“ปากคลองตลาดที่ขายดอกไม้อ่ะนะ จะไปซื้ออะไร” ผมถามย้ำให้แน่ใจ
“เออ เพิ่งนึกได้ว่าไม่ได้ไปเป็นสิบปีแล้ว อยากไปดูเฉยๆว่าเดี๋ยวนี้มันเป็นยังไงบ้าง” เพื่อนผมตอบ
แล้วห้าทุ่มวันศุกร์ ผมกับเพื่อนในชุดมนุษย์ออฟฟิศสองคนก็ไปเดินเล่นที่ปากคลองตลาดแบบไม่ได้วางแผนกันล่วงหน้า แม้จะไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมา แต่ก็พบว่าเป็นคืนวันศุกร์ที่สนุกไปอีกแบบ ได้มาเดินเล่นเห็นอะไรใหม่ๆเปิดหูเปิดตา
ตอนที่ผมขับรถกลับบ้าน ผมรู้สึกว่าการเปิดตารางคืนวันศุกร์ให้ว่างไว้ก็ดีเหมือนกัน เพราะเราไม่รู้หรอกว่าสุดท้ายแล้วเราจะได้ทำอะไร หรือมันจะพาเราไปที่ไหนบ้าง
ซึ่งถึงสุดท้ายแล้วบางอาทิตย์ เราอาจจะไม่ได้ไปไหนไกล แต่จบด้วยการนั่งกินข้าวเงียบๆคนเดียว หรือเดินเล่นเรื่อยเปื่อยในที่เดิมๆ ผมก็พบว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่แย่เลยนะ
เพราะอย่างที่บอกไป คืนวันศุกร์เป็นเวลาที่พิเศษมากๆสำหรับๆคนวัยสามสิบที่เรื่องงานกินเวลาไปเกือบทั้งชีวิต การได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง ก็เป็นเพราะว่าตัวเราเองนี่แหละ คือคนที่คู่ควรที่สุดกับการได้ใช้เวลาอันจำกัดนั้น
Bnak. วันศุกร์ต้องรีบฝ่ารถติดกลับบ้าน เตรียมตื่นมาทำงานวันเสาร์ต่อ บ้านอยู่บางนาทำงานฝั่งธน
20 พ.ค. 2562 เวลา 05.15 น.
เห็นด้วยจ้า การอยู่กับตัวเอง ทบทวนบทเรียนของชีวิตที่ผ่านมา ถ้าไม่ผ่านก็จะได้หาทางแก้ไข ไม่ควรรบกวนเวลาของใคร เพราะทุกคนมีครอบครัวที่เขาต้องดูแล เมตตา น้ำใจ สติ ต้องสร้างไว้ให้มากๆ เพราะสามสิ่งนี้ความทุกข์กลัวมาก เข้าใจตรงกันมั้ย
19 พ.ค. 2562 เวลา 05.55 น.
ผมคิดว่าก็ดีเหมือนกันนะครับ ว่าอย่างน้อยภายในหนึ่งอาทิตย์เรามีเวลาให้กับตัวเราเองบ้าง ก็เท่ากับว่าเป็นการที่ได้ให้รางวัลกับชีวิตได้เหมือนกัน.
18 พ.ค. 2562 เวลา 11.14 น.
ดูทั้งหมด