ลุยจับบาร์เหล้ากลางเมืองพัทยาแฝงค้าประเวณี

เมื่อเวลา 17.35 น. วันที่ 24 มิถุนายน ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดยนายมานะ สิมมา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมาย สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง นำโดย นายอำนาจ เจริญศรี นายอำเภอบางละมุง พร้อมเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย เข้าตรวจสอบสถานบริการ ชื่อ Coming bar (คัมมิ่ง บาร์) ตั้งอยู่ในซอยพัทยา 6 อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังมูลนิธิรณสิทธิ์ (Ronnasit Foundation) ร้องเรียนและแจ้งเบาะแสผ่านศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย (วังไชยา) ว่าร้านดังกล่าวลักลอบนำเด็กหญิงอายุไม่เกิน 18 ปี มาค้าประเวณี เข้าข่ายเป็นการค้ามนุษย์

จากการตรวจสอบพบว่าร้านดังกล่าว มีพนักงานหญิงบริการ จำนวน 18 คน และจากการตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน พบว่ามีพนักงานหญิงซึ่งเป็นเด็กไทย อายุต่ำกว่า 18 ปี คือ อายุ 17 ปี จำนวน 1 คน โดยร้าน Coming bar (คัมมิ่ง บาร์) นี้ มีพฤติการณ์เปิดเป็นสถานบริการ จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม โดยมีพนักงานหญิงนั่งดื่มกินกับลูกค้าได้ แต่กลับมีพฤติกรรมค้าประเวณีแอบแฝง โดยพนักงานของทางร้านหากมีลูกค้าซื้อบริการทางเพศจะต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับทางร้านเพื่อพาหญิงบริการไปร่วมประเวณี ได้ทั้งภายในร้านและนอกร้าน ซึ่งห้องให้บริการทางเพศของร้าน อยู่บริเวณชั้นบน ภายในอาคารเดียวกัน

ในการเข้าตรวจสอบ จับกุมในครั้งนี้ นำโดยพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ซึ่งมีอำนาจในการเข้าไปตรวจสอบสถานบริการตามที่มีข้อร้องเรียน โดยมีชาย หญิง ชาวไต้หวัน ชาวจีน และคนไทย แสดงตัวเป็นผู้จัดการร้าน หุ้นส่วน และคนเชียร์แขก ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อหาในเบื้องต้น ดังนี้ 1.ค้ามนุษย์ 2.เป็นธุระจัดหาหญิงมาเพื่อการค้าประเวณี 3.เป็นผู้ดูแลหรือผู้จัดการสถานการค้าประเวณี ซึ่งมีเด็กอายุกว่า 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปีทำการค้าประเวณีอยู่ด้วย 4.ตั้งสถานบริการโดยรับผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์เข้าทำงานในสถานบริการนั้น และ 5.เป็นผู้ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะมีการนำพนักงานหญิงทั้ง 18 คน ไปทำการสัมภาษณ์คัดแยกผู้เสียหาย โดยทีมสหวิชาชีพ ซึ่งหากพบว่ารายใดเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ก็จักได้ให้ความคุ้มครองและฟื้นฟูเยียวยาผู้เสียหายฯ ต่อไป

ทั้งนี้รายงานข่าวระบุว่า NGOs พบว่าร้านดังกล่าวนำเด็กหญิงอายุ 17 ปี (คนไทย) มาลักลอบค้าประเวณีครับ ซึ่งเข้าข่ายค้ามนุษย์ เมื่อ จนท.ตรวจสอบ พบว่าจริง ปรากฎหลักฐานตามบัตรประจำตัวประชาชน จึงเข้าจับกุมและช่วยเหลือในวันนี้ และร้านนี้ ไม่ใช่เป็นแค่บาร์เหล้าธรรมดา เพราะจากการตรวจสอบเข้าข่ายเป็นสถานค้าประเวณีหรือซ่อง เนื่องมีห้องบริการให้ร่วมประเวณีภายในร้านเลย (ชั้น 3-4) โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับเป็นเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ (จีน/ใต้หวัน) 2 คน และมาม่าซังคนไทย 1 คน.