“แอมป์” เผยไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ลูกคนที่สองหลุดเพราะปากไว ไม่เชื่อเรื่องถือเคล็ด

"แอมป์ พีรวัศ" เผยก่อนหน้านี้ภรรยาตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 แต่หลุดไปแล้ว เชื่อเป็นเพราะตนปากเปราะรีบประกาศข่าวดีออกไป ไม่เชื่อเรื่องถือเคล็ด 3 เดือน ยันไม่ยุ่งเรื่องรัก "มาริโอ้-จันจิ" กลัวเป็นหมา

เป็นคุณพ่อที่ติดลูกไม่น้อยทีเดียว สำหรับคุณพ่อลูกหนึ่ง "แอมป์ พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์" ที่บอกว่าตอนนี้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน "น้องเทรย์" พัฒนาการเป็นไปตามวัย และดูจะก้าวกระโดดเกินไปซะด้วยซ้ำ บอกตนค่อนข้างเลี้ยงลูกปล่อย ใครมาเจอก็เอ็นดู ไม่ได้หวงห้ามไม่ให้จับหรือแตะต้องตัวลูก

"ตอนนี้ลูกอายุ 1 ขวบเกือบ 4 เดือนแล้วครับ ก็พัฒนาการดี คือเดินยังไม่ทันแข็งตอนนี้กำลังจะวิ่งแล้ว และเริ่มมีปากมีเสียง คือพูดยังไม่ชัดพูดได้เป็นคำๆ ป๊า ม๊า หม่ำ คือพูดได้ ตอนนี้กำลังสอนให้รู้จักอวัยวะต่างๆ พัฒนาการเรียกว่าดีเลยครับ เลี้ยงไม่ยากเลย ผมได้ลูกคนนี้มาถือว่าโชคดีมาก เพราะเขาไม่งอแง ไม่ได้เป็นเด็กเจ้าอารมณ์ เป็นเด็กที่ใครเลี้ยงก็ได้ คือเจอใครก็ให้อุ้มได้หมดและผู้ใหญ่เมตตาดี"

"ถามว่าแอบกลัวลูกหายไหม ไม่หรอกผมว่าสมัยนี้เด็กหายค่อนข้างยาก เพราะที่ไหนๆ ก็มีกล้องวีดีโอ และเราก็ไม่ได้เลี้ยงเขาบุฟเฟ่ต์ขนาดนั้น คือคุณแม่เขาก็จะตามตลอด ประเด็นที่เด็กจะหายมันก็มี คือถ้าไปในที่ที่คนเยอะๆ และไม่ได้ดูแล คือบางทีเผลอแว๊บเดียวก็หายเลย โดยเฉพาะช่วงที่กำลังเดินคุณพ่อคุณแม่ที่ติดโทรศัพท์ก็ต้องระวัง คือก้มแป๊บเดียวเงยหน้ามาอีกทีลูกอาจจะหายไปแล้ว ตอนนี้อาจจะมีสายจูงเด็ก แต่เราต้องเลือกดีๆ นะ ถ้าเลือกไม่ดีสายจูงอาจจะรั้งคอ บาดคอเด็กได้"

ยอมรับติดลูกมาก ถ้าว่างก็จะหาเวลาอยู่กับลูกให้ได้มากที่สุด เพราะพอลูกโตเป็นวัยรุ่นก็คงทำไม่ได้แล้ว

"ก็ไม่ได้หวงลูกมาก คือถ้าเด็กได้เจอคนเยอะๆ พัฒนาการเขาจะไว และมีปฎิสัมพันธ์กับคนอื่นมันเป็นเรื่องที่ดีนะ ไม่ได้แย่ ส่วนสาเหตุที่ถ่ายภาพรูปลงไอจีเยอะ เพราะผมเชื่อว่าช่วงเวลาที่ลูกจะอยู่กับเราผมเชื่อว่าไม่เกิน 13 ปี เผลอๆ ปัจจุบันอาจจะแค่ 10 ปีเท่านั้น และช่วงนี้เป็นช่วงที่น่าเก็บเกี่ยวที่สุด ผมว่างผมก็จะอยู่กับลูก อยู่กับเขาให้มากที่สุดเพราะถ้าเขาเข้าโรงเรียนเขาก็จะติดเพื่อน ไม่ติดพ่อแม่แล้ว และเด็กรุ่นใหม่ก็น่าจะติดพ่อแม่น้อยลง เพราะติดมือถือ"

"แต่ในช่วงที่เขายังไม่รู้อะไร เราก็พยายามเป็นพ่อที่ได้เล่นกับเขา เขาอาจจะจำไม่ได้ แต่เรามีช่วงเวลาที่ดีกับลูกมันอบอุ่นตรงนี้ เวลาเขาโตมาถ้าเขาได้มาดูเทปหรือมาดูอะไรที่เราเก็บๆ ไว้ เวลาเกิดเรื่องสิ่งเหล่านี้แหละที่จะดึงเขากลับมาได้ง่าย สอนให้เขารู้ว่าครอบครัวเราแข็งแรง ครอบครัวเรารักกัน เรื่องอนาคตค่อยมาว่ากัน คือเราไม่ได้คาดหวังให้เขาเป็นคนดี เอาเป็นว่าให้เขาเป็นเขา แล้วเดี๋ยวเราค่อยดูเอา"

"ผมค่อนข้างจะปล่อยนะ จะไม่พูดคำว่าอย่านะลูก คือถ้าเราพูดบ่อยๆ ลูกก็จะไม่กล้าคิด เราก็ปล่อยให้เขาคิดให้เขาโดนแล้วเราถึงจะบอกเขาได้ ลูกผมร้องไห้แป๊บเดียว เวลาเขาล้มเราจะไม่รีบวิ่งไปหาหรือไปโอ๋เขา เพราะถ้าเราโอ๋เขาถ้าเขาอยากได้อะไรหรือต้องการเราเขาจะต้องไห้ แต่ถ้าเราไม่โอ๋เขา เขาก็จะแข็งแกร่ง เพราะเขาจะคิดได้ว่ามันไม่มีคนปลอบ เขาก็จะหยุดร้องเอง"

เชื่อลูกคนที่สองต้องหลุดไปเพราะตนปากไว บอกข่าวดีไปก่อน เพราะไม่เชื่อเรื่องถือเคล็ด

"แพลนอยากมีคนที่สองเหรอ ตอนแรกมีแล้ว แต่หลุดไปแล้ว เมียด่าผมใหญ่เลยเพราะผมเคยไปพูดว่ากำลังจะมี กำลังจะมา พอพูดได้อาทิตย์เดียวหลุดเลย อาจจะเป็นไปได้กับคำโบราณที่ว่าถ้าเรายินดีมากๆ เขาก็จะไม่มา ก็เพิ่งเร็วๆ นี้เองครับ ที่ผมเคยออกมาบอกว่าเดี๋ยวจะมีข่าวดีนั่นแหละ หลังจากนั้นก็หลุดเลย"

"จากนี้ผมก็ปล่อยธรรมชาติครับ คือจะมาก็มาไม่ได้ดึงดันว่าจะมีหรือไม่มี คือใจผมอยากมีลูกเยอะๆ เพราะว่าอาชีพพ่อแม่ ถ้ามีลูกก็ดีมันมีเป้าหมายว่าผมจะหาเงินเพื่อใคร เก็บอะไรเพื่อทำไม คือแทนที่เราจะเลี้ยงสุนัข เราก็เลี้ยงคนๆ หนึ่งออกมาให้ได้ดีดีกว่า"

"ถ้าติดอีกครั้งก็คงต้องรอแล้วล่ะ ไม่พูดแล้ว คือก่อนหน้านี้ที่พูดเพราะไม่เชื่อไง คิดว่าคำโบราณมันคงไม่จริง แต่พอเจอกับตัวเองก็คิดว่าถ้าเราเงียบๆ ไปก่อนก็น่าจะดีกว่า คือเราพร้อมที่จะมีก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี ไว้เลยสามเดือนไปก่อน พอขึ้นหลัก 4 โชว์เลย จะเป็นเพศไหนผมได้หมด"

"คือจะลูกชายหรือลูกสาวก็ดีทั้งนั้นแหละ พอโตขึ้นมาก็ต้องเลือกอีก คือเกิดมาเป็นผู้ชายถ้าโตขึ้นมาเราก็ไม่รู้ว่าน้องเทรย์จะเป็นเทรซี่หรือเปล่า (หัวเราะ) ก็แล้วแต่เขา คือเราไม่ปิดกั้น ถ้ารู้ก่อนเราจะได้เลี้ยงในอย่างที่เขาอยากเป็น คือถ้าลูกอยากเป็นเราก็อยากเลี้ยงลูกให้ถูกจริตเขา ก็ดูห่างๆ ว่าเขาจะไปทางไหน แต่ผมว่าลูกผมไม่น่าจะเป็นเพราะเขาชอบผู้หญิง เข้ากับผู้หญิงง่ายกว่าผู้ชาย"

เผยแซว "จันจิ จันจิรา จันทร์พิทักษ์ชัย" ว่าจะมีข่าวดีกับ "มาริโอ้ เมาเร่อ" เพราะสนิทกัน ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ลั่นไม่ยุ่งเรื่องรักเพื่อน ไม่อยากเป็นหมา

"ที่ไปแซว เพราะโอ้เขาพูดจริงๆ แต่เป็นคำพูดในโฆษณา คือผมฟังจากในรถว่าโอ้มีข่าวดีจะบอก เราก็เลยไปแซวจันจิว่ามีข่าวดีอะไรจะบอกหรือเปล่า ถือว่าเป็นมุข คือผมสนิทกับเขา คือจันจิกับภรรยาผมเขาเรียนโรงเรียนเดียวกันมา ส่วนผมกับโอ้เราก็เจอกันบ่อยๆ ถามว่าจันจิมีเข้ามาว่าไหม ไม่มี มันก็แค่ขำๆ ไม่มีอะไร"

"ถามว่ามีวี่แววเรื่องข่าวดีของโอ้กับจันจิไหม ไม่รู้เหมือนกันต้องไปถามเขา แต่ผมว่ามันเป็นเรื่องน่ายินดีหมดแหละ ผมว่ามันเป็นเรื่องของเขา ผมก็ไม่ได้ไปเชียร์อะไรนะ เพราะว่าความรัก เพื่อนเข้าไปยุ่งจะเป็นหมา เพราะฉะนั้นเราอยู่เป็นคนดีกว่า ไม่อยากเป็นหมา เอาเป็นว่าเขามีความสุขก็ดี คนมีลูกก็ยินดี คนแต่งงานเราก็ดีใจด้วย มันจะได้เริ่มอะไรใหม่ๆ”