โดย อ่าย ณัฏฐา
มรกตที่เราคุ้นตาจะให้โทนสีเขียวที่มีความเข้มอ่อนต่างกันไป โดยคุณภาพและราคาของมรกตนั้นขึ้นอยู่กับสีและรอยตำหนิต่างๆ เช่นเดียวกันค่ะ มรกตตามรรมชาติ เป็นพลอยที่มักจะมีตำหนิในเนื้อ ที่เกิดจากเส้นแร่ที่วิ่งอยู่ภายใน รอยร้าวตามธรรมชาติ หรือ จุดตำหนิของสีตามธรรมชาติ เมื่อเราตรวจสอบคุณภาพมรกตโดยทั่วไป จึงมักใช้สิ่งเหล่านี้เป็นตัวบอกว่ามรกตชิ้นนี้เป็นมรกตของแท้หรือไม่ โดยมรกตแท้ที่ใสหมดจดไม่มีตำหนิ จะถูกจัดเป็นมรกตที่มีคุณภาพดี หายาก และมักจะมีราคาสูง
ตำหนิ ริ้วรอยและรอยแตกที่เกิดขึ้นในมรกตจากธรรมชาติทำให้มรกตจัดเป็นอัญมณีที่บอบบางมากชนิดหนึ่ง นักออกแบบเครื่องประดับส่วนใหญ่จึงจำเป็นต้องใส่ใจในรายละเอียดของการออกแบบการใช้งานของเครื่องประดับที่ประดับด้วยมรกต ซึ่งการนำมาทำเป็นจี้หรือต่างหูที่มีโอกาสกระทบกระแทกกับสิ่งอื่นได้น้อยมักจะเป็นทางเลือกของมรกต อย่างไรก็ตาม หนึ่งในรูปแบบของเครื่องประดับที่มักจะถูกประดับด้วยมรกตคือแหวนหัวชูล้อมเพชร ที่มักถูกทำขึ้นเพื่อแสดงถึงความโดดด่นของมรกตเม็ดงามนั่นเองค่ะ
มรกตถูกจัดเป็นอัญมณีประจำเดือนพฤษภาคม และเป็นอัญมณีของชาววันพุธ หรือคนที่มีดาวพุธเป็นดาวประจำตัว ตามความเชื่อที่เล่าสืบกันมา มรกตถูกยกเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างคู่รัก เป็นตัวแทนของความรักที่จริงใจที่มักจะถูกใช้เป็นแหวนแต่งงาน หรือ มอบเป็นของขวัญให้กันในวันครบรอบแต่งงานในปีที่ 20 ค่ะ นอกจากนั้นแล้วยังเชื่อว่ามรกตเป็นอัญมณีศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถช่วยคุ้มครองคุณให้พ้นจากเรื่องร้ายและอันตรายต่างๆ มาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ อีกทั้งยังเชื่อว่า พลังของมรกต ช่วยทำให้คุณมีสมาธิเพิ่มมากขึ้น มรกตจึงเหมาะกับอาชีพที่ต้องใช้ความคิด การพิจารณา หรือแม้กระทั่งเหมาะกับนักเรียน นักศึกษาที่ต้องการสมาธิในการเรียนนะคะ
ด้วยความสวยงามของสีเขียวอันน่าหลงไหล นักสะสมอัญมณีส่วนใหญ่จึงไม่เคยมองข้ามมรกตไปได้เลยและมักจะมีมรกตชิ้นงามไว้ในคอลเลคชั่นของพวกเขาอยู่เสมอ หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่หลงใหลอัญมณีสีเขียว บอกได้เลยว่ามรกตเป็นอัญมณีทรงคุณค่าที่คุณควรมีไว้ในครอบครองค่ะ