คาดเงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหว 34.40-35.00 บาท/ดอลลาร์ จับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น เงินทุนต่างชาติ
ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (18-22 ธ.ค.66) ที่ระดับ 34.40-35.00 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณเงินทุนต่างชาติ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR ของ ธนาคารกลางแห่งประเทศจีน (PBOC)
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นและตัวเลขเงินเฟ้อคาดการณ์จากมุมมองของผู้บริโภคสหรัฐเดือนธันวาคม ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสอง ยอดขายบ้านใหม่ รายได้/รายจ่ายส่วนบุคคล และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก PCE/Core PCE Price Indices เดือนพฤศจิกายน ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/66 (final) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายนของยูโรโซนและอังกฤษด้วยเช่นกัน
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (12-15 ธ.ค.) เงินบาทพลิกแข็งค่าผ่านระดับ 35.00 บาท/ดอลลาร์ จากที่อ่อนค่าลงช่วงสั้น ๆ ต้นสัปดาห์ หลังจากที่รายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายนของสหรัฐ (CPI ขยับขึ้น 0.1% MoM แต่ตลาดคาด 0.0% MoM) กระตุ้นการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะไม่รีบส่งสัญญาณผ่อนคลายทางการเงิน โดยจะยืนอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิมต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกแข็งค่าช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ ท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ และการร่วงลงอย่างหนักของบอนด์ยีลด์สหรัฐ หลังผลการประชุมเฟดสะท้อนว่า เฟดอาจจบรอบการปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว ขณะที่ Dot plot บ่งชี้ว่า อาจมีการเริ่มปรับลดดอกเบี้ยลง 3 ครั้งในปี 2567
นอกจากนี้ สัญญาณตรึงดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไปของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ก็เพิ่มแรงกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์ ขณะที่เงินบาทได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากการฟื้นตัวกลับขึ้นมาของราคาทองคำในตลาดโลก และการขยับแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินในภูมิภาค
อ่านข่าวเพิ่มเติม