เมืองไทย 360 องศา
การประกาศลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐของ “มาดามเดียร์” น.ส.วทันยา บุนนาค เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา แม้ว่าในข้อความที่โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก จะอธิบายเหตุผลมากมาย แต่พอจับความสำคัญว่า จากการประชุมสภา เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่เกิดเหตุการณ์ “สภาล่ม” หรือการทำให้องค์ประชุมไม่ครบ จนทำให้ร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ต้องตกไป เนื่องจากเกินกำหนด 180 วัน ต้องกลับไปใช้ร่างของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ที่เสนอผ่านคณะรัฐมนตรี และทำให้พลิกกลับมาใช้สูตรหาร 100 ดังที่ทราบกันแล้ว
โดยเหตุผลของเธอระบุตอนหนึ่งว่า “นับตั้งแต่วันแรกของการเปิดประชุมรัฐสภา 22 พฤษภาคม 2562 จนกระทั่งวันนี้ 16 สิงหาคม 2565 ครบรอบการทำงานของสภา 3 ปีเต็มเข้าสู่ปีสุดท้าย ตามวาระของรัฐบาล ตลอดช่วงระยะกว่า 3 ปีที่ผ่านมาภายใต้บริบทการเมืองไทยเกิดการเปลี่ยนแปลง การต่อสู้ทางความคิดหลากหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นอุดมการณ์ทางการเมือง ทั้งบนถนนและในรัฐสภา ที่สุดท้ายแล้วทุกฝ่ายก็ต่างใช้เวทีรัฐสภาเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนอุดมการณ์ของตน ดังที่เกิดการนำเสนอรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนเข้าสู่กระบวนการฝ่ายนิติบัญญัติ การอภิปราย วิพากษ์การทำงานของรัฐบาลทั้งในยามสถานการณ์ฉุกเฉิน และสถานการณ์ปรกติผ่านการทำงานของ ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ไม่ว่าจะเกิดข้อพิพาท ถกเถียงอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่ดำรงเห็นได้ชัดเจนคือ “การใช้เวทีรัฐสภาเป็นเครื่องมือและที่พึ่งให้แก่ประชาชน”
สิ่งที่น่าเศร้าใจก็คือเหตุการณ์การประชุมร่วมของรัฐสภาเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมาเมื่อวานนี้ ที่ปรากฏให้เห็นชัดว่า การทำหน้าที่ผู้แทนปวงชนของ ส.ส. ที่ถือเป็นหลักพึงกระทำพื้นฐานในฐานะนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งนั้น ไม่สามารถสะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนได้เหมือนเดิม ทั้งนี้ เดียร์เคารพในสิทธิ์การตัดสินใจของ ส.ส. ทุกท่าน ไม่ว่าจะหาร 100 หรือ 500 การเห็นต่างย่อมเป็นเรื่องปรกติที่เกิดขึ้นในครรลองระบอบประชาธิปไตย และนั่นก็นับเป็นข้อดีของระบอบประชาธิปไตยที่เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้นำเสนอความคิดเพื่อร่วมกันหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับประเทศ แต่ไม่ว่าจะมีความเห็นอย่างไร เดียร์ยังคงยึดมั่นในหลักการทำหน้าที่บนความถูกต้อง โดยการใช้สภาเป็นทางออกเพื่อให้ได้ข้อยุติของปัญหา
ในส่วนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวานนี้ ที่ทำให้ประชาชนเกิดข้อกังขาว่า รัฐสภายังคงเป็นที่พึ่งให้แก่ประชาชนได้อยู่หรือไม่ ? ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จึงไม่อาจปฏิเสธถึงข้อกังขาศรัทธาประชาชนที่มีต่อรัฐสภา ไม่จำเป็นว่าเราต้องเป็นฝ่ายไหนหรือสังกัดพรรคใด เมื่อสภาไม่สามารถตอบสนองเจตนารมณ์ของประชาชนที่ฝากความหวังให้ส.ส.ปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดความสามารถแล้ว ผู้แทนประชาชนก็ไม่อาจหลีกหนีความรับผิดชอบ”
แม้ว่าในการลาออกดังกล่าวจะพยายามรักษาน้ำใจกันให้มากที่สุดด้วยการแสดงความเคารพ หัวหน้าพรรค คือพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รวมทั้งผู้บริหารพรรคคนอื่นก็ตาม แต่สุดท้ายก็คือลาออก จากเหตุการณ์อัปยศในสภาจากกรณีดังกล่าวนั่นแหละ
อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจาก “แบ็กกราวด์” ของ น.ส.วทันยา ได้มีการเคลื่อนไหวในลักษณะที่เป็น “ตัวเอง” ในแบบ “กึ่งอิสระ” บ่อยครั้ง โดยเฉพาะการลงมติสวนมติพรรคในกรณีการโหวตไม่ไว้วางใจ หรืองดออกเสียงกับรัฐมนตรีคนสำคัญจากพรรคภูมิใจไทย เช่น นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทยมาตลอด โดยครั้งล่าสุดเมื่อมีญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ เธอก็เป็นหนึ่งที่งดออกเสียงกับ นายศักดิ์สยาม
และแม้ว่าจะเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ แต่สำหรับน.ส.วทันยา บุนนาค ถือว่าเป็นส.ส.ในเขตพื้นที่กรุงทพมหานคร ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่“อ่อนไหว” ทางการเมืองมากที่สุดพื้นที่หนึ่ง และจะว่าไปแล้วสำหรับน.ส.วทันยา ก็เคยรายงานข่าวคาดหมายกันว่าเป็นหนึ่งใน ส.ส.ที่มีโอกาสย้ายพรรคสูงมากคนหนึ่งในการเลือกตั้งครั้งหน้า
ดังนั้น พิจารณากันในทางการเมืองแล้วถือว่า การประกาศลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐในช่วงเวลานี้ถือว่า “ได้จังหวะ”เหมาะพอดี
ขณะเดียวกัน ภาพรวมในเวลานี้สำหรับพรรคพลังประชารัฐถือว่าเป็นช่วง “ขาลง” เมื่อเทียบกับช่วงการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 และแม้ว่าจะเป็นพรรคการเมืองเกิดใหม่ แต่กระแสสนับสนุน “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังแรง ทำให้พรรคชนะการเลือกตั้งในกรุงเทพมหานคร โดยกวาดส.ส.ไปถึง 12 เขต ครองแชมป์สนามกรุงเทพฯ แต่เมื่อเกิดสภาพความแตกแยกขัดแย้งภายในมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความ“อึมครึม” ระหว่าง“สองป.” คือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ทำให้เชื่อกันว่า การเลือกตั้งคราวหน้าพรรคพลังประชารัฐอาจมีสิทธิ์ “สูญพันธุ์” ก็เป็นไปได้สูง เมื่อพิจารณาจากผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ผ่านมา
อย่างที่ทราบกันดีว่า สนามเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ที่มี “ความอ่อนไหว” ทางการเมืองสูง และที่ผ่านมามักจะขึ้นอยู่กับ “กระแส”เป็นหลัก เหมือนกับคราวที่แล้วที่มี “กระแสลุงตู่” แต่เมื่อสถานการณ์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ได้เห็นการเคลื่อนไหวบางอย่าง โดยเฉพาะการ “ย้ายพรรค” ที่น่าจะเกิดขึ้น ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นชัดเจนในเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ ที่น่าจับตาก็คือ “กลุ่มดาวฤกษ์” ภายในพรรคพลังประชารัฐ ที่ก่อนหน้านี้เป็นการรวมกลุ่มกันในกลุ่ม ส.ส.กรุงเทพมหานคร จำนวนราว 6 คน และ น.ส.วทันยา บุนนาค ก็เคยอยู่ในกลุ่มดังกล่าวด้วย แม้ว่าระยะหลังจะไม่ได้เห็นการเคลื่อนไหวแล้วก็ตาม แต่เมื่อกระแส “ขาลง” แบบนี้ มันก็มีโอกาสแยกย้ายเป็นไปได้สูงยิ่ง
สำหรับความเป็นไปได้หากมีการย้ายพรรคเกิดขึ้นในสนามเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร ที่ต้องจับตาก็คือ “รวมไทยสร้างชาติ” ภายใต้การนำของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่เชื่อว่าจะชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯอีกครั้ง ในการเลือกตั้งครั้งหน้า หรือพรรคสร้างอนาคตไทย ของกลุ่ม “สี่กุมาร” เดิม นำโดยนายอุตตม สาวนายน และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เนื่องจากมีความคุ้นเคยกันตั้งแต่ยุคก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ ในช่วงเริ่มต้น
ดังนั้น หากพิจารณากันตามสถานการณ์แล้วในเวลานี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่กำลังจะได้เห็นการเคลื่อนไหว“ย้ายพรรค” ชัดเจนมากขึ้น เพื่อรองรับการเลือกตั้งที่จะมาถึงในอีกไม่นานข้างหน้า ขณะเดียวกันสำหรับพรรคพลังประชารัฐ ให้จับตาพื้นที่กรุงเทพฯ ให้ดีว่าจะรายการ “ชิ่งหนี” ตามมาอีกหลายคน !!
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO
🎄🏡นิฬปฉัฐฆ์🏡🎄 90ปีของการเปลี่ยนแปลงการปกครองประวัติศาสตร์มันก็ซ้ำรอยอยู่แบบนี้ มีชื่อทหารเป็นนายกเพราะการได้มาด้วยอำนาจที่ยิ่งใหญ่แล้วก็มีการตั้งพรรคเฉพาะกิจขึ้นมาเพื่อรองรับผู้ยิ่งใหญ่แล้วมันก็จะแตกสลายเมื่อผู้ยิ่งใหญ่หมดอำนาจ แล้วจะเอาอะไรไปพัฒนาประเทศ แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เห็นผู้ยิ่งใหญ่คนไหนที่มาด้วยอำนาจพิเศษเมื่อหมดอำนาจแล้วจะมีคนยกย่องเชิดชู ดูแล้วก็น่าจะประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนเดิม..จะว่าเขาไม่ได้เรียนประวัติศาสตร์ชาติไทยก็ไม่นะเพราะว่าแต่ละคนน่าจะเติบโตมาในช่วงนั้นพอดี
17 ส.ค. 2565 เวลา 02.09 น.
KANUENGSAG แค่เลือกผู้ว่ากทม. พรรคเพื่อไทย ก้าวไกลโกย สก.เขตหมดเกลี้ยงเลย เห็นๆกันอยู่แล้ว
17 ส.ค. 2565 เวลา 01.45 น.
KANUENGSAG บริหารประเทศมัวแต่แจกกล้วยไปวันๆ ใครจะอยู่ด้วย
17 ส.ค. 2565 เวลา 01.39 น.
adirek ลูกน้องช่องดังโจมตีรัฐตลอด ใกล้จะเลือกตั้งใหม่แล้วออกดีกว่า
17 ส.ค. 2565 เวลา 01.49 น.
[T][H]VEE[T][H] งอแงแล้วไม่ได้อ่ะไรก็ออกล่ะตามสูตร
17 ส.ค. 2565 เวลา 01.55 น.
ดูทั้งหมด