“กะเทยควรมีสิทธิ์เป็นทหาร”

'กะเทยควรมีสิทธิ์เป็นทหาร'

โดย ทานหญ้า พาคิด

จากการเกณฑ์ทหารที่เพิ่งผ่านไปนั้น เห็นได้ชัดเจนว่า กระบวนการรับมือในการเตรียมตัวเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ประจำปี 2561  ของน้องๆ กะเทย สาวประเภทสอง ผู้หญิงข้ามเพศ นั้นเรียกได้ว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก เกิดจากการร่วมด้วยช่วยกันของทั้งองค์กร มูลนิธิ เครือข่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องหรือทำงานเกี่ยวกับการสร้างความเข้าใจของสังคมกับบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ อาทิเช่น มูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ และ เครือข่ายเพื่อนกะเทยไทย  ที่รณรงค์ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจให้กับหน่วยงานราชการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการเกณฑ์ทหารและคนทั่วไปในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือตัวน้องๆบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศเอง ทำให้น้องๆได้รอดพ้นจากการเกณฑ์ทหาร 

แต่ทำไม กะเทยไทย ถึงไม่อยากเป็นทหาร? ทั้งๆที่ทหารก็เป็นอาชีพหนึ่งที่คนไทยให้ความเคารพยำเกรง ให้ความเชื่อถือว่าเป็นอาชีพที่เข้มแข็ง เสียสละตัวเองเพื่อให้คนไทยทุกคนได้มีความสุข และที่สำคัญ ใครที่ได้เป็นทหารจะได้พ่วงคำว่า รักชาติ เข้าไปอีกด้วย แล้ว กะเทยไทย ไม่รักชาติเหรอ ถึงไม่อยากเป็นทหาร แล้วคิดว่า คนไทยที่ไม่ได้เป็นทหารเขาไม่รักชาติกันเหรอ การแสดงออกถึงการรักชาติ มีอย่างเดียวหรือเปล่า? ทหารไทย ผูกขาดอาชีพทหารไว้ที่ความเป็นชายแต่เพียงผู้เดียว สร้างภาพจำให้คนไทยเชื่อว่าเป็นทหารแล้วเป็นคนดี เสียสละ รักชาติ มาตลอด แต่ทำไมทุกปีเมื่อมีการเกณฑ์ทหารแล้วชายไทยส่วนใหญ่ต่างหวาดกลัว ไม่อยากจับได้ใบแดง ไม่อยากเป็นทหาร รวมทั้งครอบครัวของพวกเขาต้องวิ่งเต้นหาทางกันทุกวิธีเพื่อไม่ให้ลูกหลานตนเองได้ไปเป็นทหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกะเทยทั้งหลายก็ยิ่งหวาดกลัว ต้องไปพบแพทย์เพื่อให้ยืนยันว่าตัวเองนั้นมี 'เพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด'

และวิธีการที่จะได้มาซึ่งเอกสารทางการแพทย์เพื่อยืนยันตัวเองนั้นยิ่งน่าเศร้า มีน้องกะเทยร่างใหญ่ หน้าตาไม่สะสวยเหมือนกะเทยพิมพ์นิยม ขนแขนขนขายุบยับไปหมด แต่งหญิงแล้วก็ยังดูเหมือนผู้ชายผมยาว ทาปากแดง ไม่ได้มีความเหมือนผู้หญิงแม้แต่น้อย แต่น้องก็บอกว่าน้องเป็นกะเทยโดยกำเนิด เป็นกะเทยโดยจิตใจ น้องเล่าประสบการณ์ให้ฟังว่า น้องต้องไปนั่งรอพบแพทย์ที่โรงพยาบาลรวมกับผู้ป่วยทางจิตเวชหลากหลายอาการ จนน้องรู้สึกได้ว่า นี่เราก็ถือเป็นคนป่วย เป็นโรคเช่นกันงั้นหรือ ถึงได้ต้องมานั่งอยู่ตรงนี้ น้องรู้สึกแย่มาก

เราคิดว่า การเกณฑ์ทหาร ควรยกเลิกไปได้แล้ว มันไม่ได้เป็นผลดีกับใครเลย ทั้งกับทหารเองและคนในประเทศ ไม่ว่าจะเพศใด หรือ คนที่มีรสนิยมทางเพศแบบไหน การเกณฑ์ทหารทำให้ทหารดูไม่น่าเคารพ ดูรังแกคนอื่นด้วยกฏหมาย ดูบ้าอำนาจ ดูมีผลประโยขน์แอบแฝง และ ไม่ได้ทำให้ดู รักชาติ ในสายตาคนในประเทศแต่อย่างใด เราเสนอว่า ทหารควร สร้างภาพลักษณ์ใหม่ โดยทำให้ ทหาร เป็น อาชีพอาชีพหนึ่ง มีความเป็นมืออาชีพ มีวิชาชีพ ซึ่งมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และเห็นคนไทยทุกคนเท่ากัน ไม่ว่าเพศอะไร หรือมีรสนิยมทางเพศแบบไหน ก็สามารถเป็นทหารได้ สามารถทำประโยชน์กับสังคมไทยได้ โดยไม่อาศัยคำว่า เสียสละ หรือ รักชาติ มาเป็นข้ออ้างอีกต่อไป เพราะอาชีพทหาร ไม่ได้ทำฟรี ทุกคนได้รับเงินเดือนจากการทำงานเฉกเช่นอาชีพอื่นๆ อาชีพทุกอาชีพที่ทำด้วยความสุจริต และเสียภาษีเพื่อพัฒนาประเทศชาตินั้น เรียกได้ว่า รักชาติ ทั้งนั้น 

และเมื่อ อาชีพ ทหาร ดูดี มีเกียรติขึ้นมาจริงๆแล้ว เราก็คิดว่า ทุกๆปีก็จะมีคนอยากเข้าเป็นทหารเองโดยไม่ต้องมีการบังคับจิตใจให้เข้าเป็นทหาร ด้วยการเกณฑ์ทหารอีกต่อไป และที่สำคัญ เมื่ออาชีพทหาร เป็นอาชีพเหมือนกับอาชีพต่างๆแล้ว เราก็คิดว่า เกย์ กะเทย สาวประเภทสอง ทอม ชายข้ามเพศ หญิงข้ามเพศ หรือ บุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศทั้งหลาย ก็จะมีคนที่อยากทำอาชีพทหาร มาสมัครสอบเป็นทหารด้วยความสมัครใจ เหมือนกับที่เราเห็น กะเทยเป็น แพทย์ เป็นครู อาจารย์ และในอนาคตเราก็หวังว่า เราจะเห็น พลเอกที่เป็นชายข้ามเพศ พลเอกที่เป็นหญิงข้ามเพศ เรายังหวังอีกว่าจะเห็น รัฐมนตรี หรือ นายกรัฐมนตรี เป็น คนข้ามเพศ คนรักเพศเดียวกัน คนที่มีความหลากหลากทางเพศ เพราะเราเชื่อในศักยภาพของคน ว่ามีไม่ต่างกัน แค่เราต้องลดอคติ สร้างความเข้าใจ ที่มีต่อความแตกต่างและหลากหลายของมนุษย์ เราต้องเชื่อและเคารพในการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ที่มีความแตกแต่างกัน แค่นั้นเอง.