หากกล่าวถึงโรคกระเพาะอาหาร หลายคนคงคิดว่าแค่กินยาสักอาทิตย์ หรือปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตเช่น งดอาหารบางอย่าง หรือกินอาหารให้ตรงเวลาก็จะทำให้อาการต่าง ๆ หายไป แต่หากกล่าวถึงโรคมะเร็งความคิดหรือความกังวลก็จะเกิดขึ้นมาทันที แตกต่างจากการคิดถึงโรคกระเพาะทั่วไป ในความเป็นจริงมะเร็งกระเพาะอาหารในประเทศไทยนั้นพบได้ไม่มากเมื่อเทียบกับมะเร็งชนิดอื่น ๆ เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ใหญ่
ภาพ PhotoMediaGroup / Shutterstock.com
แต่ในความเป็นจริงนั้นพบว่า ค่อนข้างมีความยากลำบากในการรักษา เพราะไม่ว่าผู้ป่วยจะเป็นมะเร็งชนิดไหนหรือจะรักษาด้วยวิธีใด ๆ ก็ตาม สิ่งแรกที่จะมีผลต่อการรักษาก็คือความแข็งแรงของผู้ป่วยว่า มีความแข็งแรงมากพอที่จะทนต่อการรักษารูปแบบต่าง ๆ จนครบตลอดรอดฝั่งหรือไม่ ซึ่งกระเพาะเป็นอวัยวะที่รองรับอาหารอวัยวะแรกของร่างกายที่ย่อยอาหารส่งพลังงานไปยังส่วนต่าง ๆ นั่นก็คือถ้ากระเพาะอาหารเสียไปไม่สามารถทำงานได้ ผู้ป่วยก็จะขาดอาหารทำให้ไม่สามารถทนกับการรักษาแบบต่าง ๆ ได้จนครบและทำให้ผลการรักษาแย่ลง นอกจากนี้ผู้ป่วยส่วนมากที่มาตรวจก็มักจะมาพบแพทย์ในตอนที่ตนเองมีอาการเยอะมากแล้ว นั่นคือ กินไม่ได้มีอาเจียนหลังกิน เป็นต้น
ภาพ Andrey_Popov / Shutterstock.com
สำหรับการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารนั้นเกิดได้จากสองกระบวนการหลัก อย่างแรกคือ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามกระบวนการอักเสบของกระเพาะอาหารแล้วเรื้อรังจนเยื่อบุกระเพาะอาหารกลายเป็นมะเร็งซึ่งกระบวนการนี้จะมีเชื้อแบคทีเรียตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Helicobacter pylori (H. Pylori, เอชไพโลไร) เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้กระบวนการอักเสบไม่หายและนำไปสู่การเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร ดังนั้น การรักษาอาการอักเสบเรื้อรังร่วมกับกำจัดเชื้อโรคตัวนี้จึงอาจมีผลป้องกันการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารได้ในอนาคต แต่ปัญหาก็คือการติดเชื้อนี้นั้นแม้ว่ารักษาหายแล้วก็มีโอกาสติดซ้ำได้ เนื่องจากเป็นเชื้อโรคที่ปะปนมากับอาหาร ดังนั้นในคนไข้ที่แม้ว่าจะรักษาหายแล้วก็ต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อซ้ำ กลไกการเกิดอีกแบบคือเกิดจากการที่ผู้ป่วยมีความผิดปกติทางพันธุกรรมตั้งแต่กำเนิด แล้วทำให้กระบวนการเกิดมะเร็งเกิดขึ้นได้เร็วกว่าปกติ ซึ่งแม้ว่าเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถจะป้องกันได้แต่เราก็สามารถจะเฝ้าระวังได้
มะเร็งกระเพาะอาหารจะพัฒนาและแพร่กระจายได้รวดเร็วกว่ามะเร็งลำไส้ใหญ่ที่สำคัญการตอบสนองต่อยาเคมีไม่ค่อยดีซึ่งถ้าตรวจพบผู้ป่วยในระยะท้าย ผู้ป่วยอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานนักแม้ว่าจะได้รับการรักษาอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม แต่ถ้าหากตรวจพบในระยะแรกการรักษาก็สามารถหวังผลให้หายขาดได้ ในประเทศที่พัฒนาแล้วบางประเทศที่พบผู้ป่วยเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารมาก จะแนะนำให้ประชาชนทุกคนเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งกระเพาะอาหารตั้งแต่อายุ 50 ปีขึ้นไป ไม่ว่าคนนั้นจะมีหรือไม่มีอาการทางกระเพาะอาหารก็ตาม
ภาพ Atstock Productions / Shutterstock.com
สำหรับการรักษานั้นมีหลายรูปแบบทั้งการให้ยาเคมี การให้รังสีรักษา และการผ่าตัด ซึ่งจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ขึ้นกับระยะของโรค ตำแหน่งของมะเร็งว่าอยู่ส่วนใดของกระเพาะอาหาร ความแข็งแรงของผู้ป่วย แต่การรักษาหลักเพื่อให้หายขาดจากโรคยังคงต้องใช้การผ่าตัดเป็นหลัก สำหรับการผ่าตัดรักษานอกจากจะต้องตัดเนื้อกระเพาะอาหารให้หมดจากมะเร็งแล้ว ยังจำเป็นต้องตัดต่อมน้ำเหลืองโดยรอบที่คาดว่ามะเร็งจะกระจายตัวออกไปทั้งหมดจึงจะได้ผลการรักษาที่ดี ซึ่งวิธีการผ่าตัดจะมีรายละเอียดและความแตกต่างจากการตัดกระเพาะทั่วไปในโรคที่ไม่ใช่มะเร็งชัดเจน
ภาพ Image Point Fr/ Shutterstock.com
จากที่กล่าวมาข้างต้น มะเร็งของกระเพาะอาหารนั้นพบได้ไม่บ่อยนัก ดังนั้น ศัลยแพทย์ที่จะทำการผ่าตัดมะเร็งกระเพาะอาหารให้ได้ผลรับที่ดีจะต้องเป็นผู้มีประสบการณ์สูงในการผ่าตัดรักษามะเร็งกระเพาะอาหารมาก่อน ซึ่งผลการรักษาที่ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล นั้น พบว่าอัตราการอยู่รอดและผลการรักษานั้นเทียบเท่ากับในประเทศที่มีความเชี่ยวชาญในการผ่าตัดรักษาโรคนี้ ทั้งนี้ หากเป็นมะเร็งระยะแรก ๆ ก็จะสามารถทำการผ่าตัดแบบแผลเล็กหรือผ่าตัดผ่านกล้องได้อีกด้วย ที่ผ่านมาแม้ว่าประเทศไทยไม่ได้พบมะเร็งชนิดนี้มากนักและผู้ป่วยส่วนมากมาตรวจตอนที่มีอาการแล้วซึ่งมักจะไม่ใช่ระยะแรกทำให้ผลการรักษาไม่ดี ซึ่งโดยทั่วไปการตรวจทางเดินอาหารมักจะตรวจแค่เพื่อรักษาอาการของโรคแผลในกระเพาะเป็นหลักไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญของการคัดกรองมะเร็งกระเพาะอาหาร นอกเหนือจากข้อบ่งชี้ของการตรวจกระเพาะอาหารที่เป็นที่รู้กันอย่างกว้างขวางตามสื่อต่าง ๆ ทั่วไปแล้ว สิ่งที่มักจะถูกมองข้ามคือ ต้องทำการตรวจในรายที่มีญาติสายตรงเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารดังนี้
ภาพ Blaj Gabriel / Shutterstock.com
มีญาติสายตรงอย่างน้อย 1 คนเป็นตอนอายุน้อยกว่า 40 ปี
มีญาติสายตรงชั้นเดียวกันหรือชั้นรองอย่างน้อย 2 คน เป็นตอนอายุน้อยกว่า 50 ปี
มีญาติสายตรงชั้นเดียวกันหรือชั้นรองเป็นอย่างน้อย 3 คน ไม่ว่าจะอายุเท่าใดก็ตาม
มีญาติสายตรงชั้นเดียวกันหรือชั้นรองเป็นมะเร็งเต้านมและกระเพาะอาหารในคนเดียวกันตอนอายุน้อยกว่า 50 ปี
มีญาติสายตรงมะเร็งกระเพาะอาหาร และมีญาติสายตรงชั้นเดียวกันหรือชั้นรอง คนอื่นเป็นมะเร็งเต้านมที่อายุน้อยกว่า 50 ปี
รวมถึงคนที่พบมีความผิดปกติของพันธุกรรมที่ก่อให้เกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหลังจากการผ่าตัดรักษา บางคนจะไม่มีการเพาะอาหาร บางคนก็อาจจะมีน้อยลง ก็คงต้องปรับตัวเรื่องการกินอาหาร เนื่องจากการที่ไม่มีกระเพาะอาหารจะทำให้การดูดซึมแร่ธาตุและวิตามินบางชนิดแย่ลง จึงต้องได้รับคำแนะนำต่าง ๆ จากศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดว่าควรจะปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดอย่างไรและต้องได้รับการตรวจติดตามอย่างสม่ำเสมอ
ผศ. นพ.ไชยรัตน์ ทรัพย์สมุทรชัย
หน่วยศัลยศาสตร์ทางเดินอาหารและศัลยศาสตร์ทั่วไป
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
โบตั๋น สารอะดรีนาลีน ที่สัตว์หลั่งออกมาจากการถูกฆ่า จะไปกระตุ้นให้เกิดก้อน เนื้องอก เนื้อร้าย เซลล์มะเร็ง กระบวนการย่อยเนื้อสัตว์ทุกชนิด จะได้สารพิษก็คือแอมโมเนีย จะไปคั่งที่ไตทำให้เป็นโรคไตตามมาอีก เคราะห์ภัยไร้ประตู วิบากกรรมจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต กินเจเพื่อสุขภาพค่ะ กินเจเว้นกรรม
24 พ.ค. 2561 เวลา 18.30 น.
อย่ากินของย่าง เช่น หมูกะทะ มะเร็งทั้งนั้น ย่างไหม้ๆ
24 พ.ค. 2561 เวลา 14.50 น.
ดูทั้งหมด