จะเสี่ยงโชคทั้งที!!! ต้องมีความหวัง! ลองแวะไปยัง ๑๐ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ดู อาจจะมีคำตอบ!!!

ส่วนใหญ่จะเป็นที่นิยมของคนไทยเรา ในการที่จะหาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อสร้างกำลังใจ และแรงจูงใจในการที่จะแสวงหาโชคในแต่ละครั้ง แต่นั้นก็ขึ้นอยู่กับวาสนาของแต่ละคน ว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ลองดูว่าสถานที่เหล่านี้จะเป็นอย่างไรบ้าง.

1. ศาลคุณปู่คุณย่าเมืองทอง

ผู้ที่เคยผ่านไปอาคาร อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี และสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ถ.แจ้งวัฒนะ จ.นนทบุรี คงคุ้นกับภาพฝูงรูปปั้นม้าลายหลายขนาดนับพันตัวตั้งเรียงรายอยู่บนทางเท้า จากการที่มีประชาชนนำมาถวายในการแก้บนศาลคุณปู่คุณย่าเมืองทอง ภายหลังจากสมหวังในสิ่งที่ตัวเองปรารถนาแล้ว ซึ่งหากดูจากจำนวนสิ่งของที่แก้บนแล้วยิ่งเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์และน่า ศรัทธาอย่างมาก โดยเฉพาะบรรดานักเสี่ยงโชคเดินทางมากราบไหว้ขอหวยกันตลอดทั้งวัน

Tips: เปิด ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ผู้คนนิยมแก้บนด้วยของเซ่นไหว้ เช่น ผลไม้ ขนมหวาน อาทิทองหยิบ ฝอยทอง ร่มผ้าที่ใช้ในพิธีแห่นาคมากางถวายเพื่อกันแดดและฝน ด้วยความที่ศาลตั้งอยู่ ริมทางเดิน โดยเฉพาะม้าลายปูนปั้นที่ชาวบ้านเชื่อว่าคุณปู่คุณย่าชอบมาก

2. ต้นโพธิ์ ริมถนนใหญ่รามอินทรา ตรงหลัก กม. 13

ที่นี่ไม่มีคำว่าเงียบเหงา เพราะใกล้ๆ วันก่อน 1 และ 16 จะพบว่ามีผู้คนจำนวนมากไปยืนรอนั่งรอให้ใบโพธิ์หล่นลงมาจากต้น แล้วนำไปตีเป็นตัวเลข หรือบางคนก็จุดธูปไหว้ ขอเทพเทวดาอารักษ์ที่เชื่อว่าสิ่งสถิตอยู่ในต้นโพธิ์ดลบันดาลให้คืนนี้ฝันโชคลาภ ปล. ต้นโพธิ์ต้นนี้อยู่ในเขตของโรงงานแห่งหนึ่ง แต่กิ่ง ก้าน และใบ แผ่กว้างใหญ่ออกมาด้านนอก ซึ่งไม่เป็นอุปสรรคในการขอหวยของนักเสี่ยงโชคแต่อย่างใด

Tips: สิ่งของที่นิยมนำมาแก้บนส่วนใหญ่เป็นน้ำอัดลม หมากพลู และผ้าสามสี

3. ศาลแม่นาคพระโขนง วัดมหาบุศย์

ในจำนวนแหล่งขอหวยทั่วประเทศ วัดหมาบุษย์หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าวัดแม่นาคพระโขนงเป็นลำดับต้นๆ ที่มักจะถูกกล่าวถึง ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากชื่อเสียงของแม่นาคพระโขนงที่โด่งดังมานานนับร้อยปี และบรรยากาศวันแห่งนี้ที่ดูขลังดั่งมีมนตร์สะกดรายล้อมไปด้วยสิ่งลี้ลับที่ยากจะบรรยาย แม่นาคพระโขนงได้ดึงดูดนักเสี่ยงโชคจากทั่วทุกสารทิศให้มาแสวงหาโชคลาภในทุกๆ งวด อย่างไม่ขาดระยะมาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะสมปรารถนา

Tips: สิ่งของที่นำมาแก้บนแม่นาคพระโขนงส่วนใหญ่มักจะเป็นชุดเด็ก ชุดไทย พวงมาลัยสามสียาวสามศอก ขนมหวาน ผลไม้จำพวกกล้วย มะพร้าว เป็นต้น

4. ศาลพุ่มพวงดวง วัดทับกระดาน อ. สองพี่น้อง จ. สุพรรณบุรี

สถานที่อีกแห่งที่เป็นแหล่งขอหวยอันดับต้นๆ ของเมืองไทย หรือบางคนแอบเรียกให้จำง่ายๆ ว่าวัดพุ่มพวง เพราะหลังจากการเสียชีวิตของราชินีลุกท่งตลอดกาลพุ่มพวง ดวงจันทร์ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2535 วัดทับกระดานกลายเป็นแหล่งอนุสรณ์สำหรับระลึกถึงเธอ โดยเฉพาะในช่วงแรกๆ ที่มีการนำหุ่นพุ่มพวงไปตั้งในศาลาการเปรียญวัดทับกระดานนั้น ได้มีแฟนเพลงไปกราบขอโชคลาภเป็นจำนวนมาก และได้มีการบอกเล่าแบบปากต่อปากถึงความแม่นยำของพุ่มพวงดวงจันทร์ จนกลายเป็นข่าวขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยครั้ง เหตุนี้เองบรรดานักเสี่ยงโชคจากทั่วทุกสารทิศจึงเดินทางมาขอโชคลาภจากพุ่มพวงดวงจันทร์แทบทุกวันเลย

Tips: เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น. สำหรับสิ่งของแก้บนที่พุ่มพวงชอบและนำมาแก้บน ได้แก่ ชุดไทย ดอกกุหลาบสีแดง ส่วนวิธีขอโชคลาภจากแม่พุ่มพวงนั้นส่วนใหญ่จะใช้วิธีเขย่าเซียมซีละเอาเลขที่ได้จากไม้มาเซียมซีมาตีเป็นเลข

5. ศาลเจ้าแม่งูจงอาง ถ. พระราม 2

ถ้าใครที่เคยผ่านไปผ่านมาแถวถนนพระราม 2 บ่อยๆ อาจจะเคยได้ยิน ชื่อเสียงกิตติศัพท์ของเจ้าแม่งูจงอาง ซึ่งเป็นเรื่องราวของงูจงอางความยาวกว่า 2 เมตรที่ชาวบ้านเชื่อว่าจะบันดาลโชคลาภให้กับผู้ที่เคารพศรัทธาจนสร้างเป็นศาลให้กราบไหว้ขอพรในสิ่งที่ปรารถนา

Tips: นิยมแก้บนด้วยการนำหุ่นงูมาถวาย รวมไปถึงไข่ไก่ เป็ด ไก่ หมู ชุดไทยบายศรี ซึ่งถ้าสังเกตจากหุ่นงูที่เรียงรายอยู่ในศาลเจ้าแม่ ก็เชื่อว่าก็คงมีผู้โชคดีจำนวนไม่น้อยเลย

6. ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง

คนไทยแต่โบราณมีความเชื่อว่าต้นไม้ใหญ่อย่างต้นตะเคียนทองมีเทวดาอารักษ์ หรือเจ้าแม่ตะเคียนทองสิงสถิตอยู่ และมีความศักดิ์สิทธิ์สามารถบันดาลโชคลาภให้สมดังปรารถนาได้ ดังนั้นผู้คนจำนวนมากที่ศรัทธาและให้ความเคารพจึงนิยมเดินทางไปอธิษฐานบนบานขอโชคลาภกันเป็นประจำ อย่างที่เคยเป็นข่าวบนหน้าหนึ่งบนหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ซึ่งในประเทศไทยนั้นมีศาลเจ้าแม่ตะเคียนทองอยู่หลายแห่งที่นักเสี่ยงโชคนิยมเดินทางไปขอโชคลาภกันประจำ เช่น เสาตะเคียนทอง วัดสูง อ. เสาไห้ จ. สระบุรี วัดบึงแก้ว อ. ชนบท จ. ขอนแก่น ที่มีต้นตะเคียนเก่าแก่อายุ 700 ปี วัดสวนมะม่วง อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เป็นต้น

Tips: กลเม็ดเคล็ดลับในการขอโชคลาภจากเจ้าแม่ตะเคียนทองแตกต่างกันออกไป บางคนนิยมเอาแป้งมาโรยและเอามือลูบๆ คลำๆ บางคนก็เขย่าเซียมซีและเอาเลขที่ได้จากไม้เซียมซีนั้นมาตี ส่วนสิ่งของที่นิยมมาแก้บนจะเป็นผ้าสามสี น้ำอบ ชุดไทย หรือบางคนอาจแก้บนด้วยการจ้างนางรำมารำถวาย

7.ต้นโพธิ์ โค้งศาลอาญารัชดาฯ

ได้ชื่อว่าเป็นโค้งร้อยศพที่อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แต่ด้วยความเฮี้ยนและความศักดิ์สิทธิ์ของต้นโพธิ์ ก็มีผลให้นักเสี่ยงโชคและผู้คนในบริเวณใกล้เคียงนิยมมาขอหวยเป็นประจำ ต้นโพธิ์ต้นนี้ขึ้นอยู่บนเกาะกลางถนน บริเวณสะพานลอย หน้าศาลอาญารัชดา มานานนับสิบปี ซึ่งที่ผู้มาขอโชคลาภส่วนใหญ่จะต้องปีนบันไดไม้ไผ่ลงไปบริเวณโคนต้นโพธิ์ แล้วจุดธูปอธิษฐานขอเลขเด็ด

Tips: ผู้คนส่วนใหญ่จะมาขอโชคลาภในเวลาค่ำไปจนถึงดึก ส่วนสิ่งของที่นำมาถวายแก้บน ชาวบ้านนิยมใช้ผ้าแพรสามสี พวงมาลัย หมากพลู ฯลฯ แต่ขอแนะนำนักเสี่ยงโชคว่า เวลาขึ้นลงบันไดเพื่อกราบไหว้นั้น ต้องใช้ความระมัดระวังนิดนึง มิฉะนั้นอาจเกิดอันตรายได้!

 8. ศาลเจ้าพ่อเสือบางเขน

บริเวณสี่แยกถนนรามอินทรา ซอย 5 ตัดกับพหลโยธิน 48 พอใกล้วันที่ 1 และ 16 ของเดือน ก็จะมีนักเสี่ยงโชคพากันแห่ไปจุดเทียนธูปกราบไหว้ขอหวยกันจนแทบจะเรียกว่าเป็นมหกรรม จะแม่นแค่ไหนนั้นก็ดูจากรูปปั้นเสือที่นำมาแก้บนวางเรียงรายกันตาม 2 ข้างถนนยาวยืด

Tips: เปิดทุกวัน การแก้บนนิยมเอาเนื้อหมูเนื้อวัวสดๆ เลือดหยดติ๋งๆ มาวางไว้ที่หน้าศาล รวมทั้ง รวมทั้งภาพยนตร์หุ่นรูปเสือมาวางไว้ หรือเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ หลายรูปแบบตามกล่าวบนบานศาลกล่าว

9. ขอลาภรูปหล่อ ดร. ตั้ว พลานุกรม

ผู้ก่อตั้งองค์การเภสัชกรรม อนุสาวรีย์ของท่านตั้งอยู่หน้าองค์การเภลัชกรรม ถ. พระราม 6 เยื้องโรงพยาบาลรามา หลังจากมีกระแสข่าวว่าได้สร้างความเฮงให้กับพนักงานในองค์การเภสัชกรรมเป็นจำนวนมาก ทำให้มีประชาชนแวะเวียนเข้ามากราบรูปหล่อ ดร. ตั้ว พลานุกรม อย่างไม่ขาดสาย ด้วยเชื่อมั่นในบารมีของท่านว่าจะบันดาลโชคลาภและหายจากโรคภัยไข้เจ็บ

Tips: เปิดเฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ นิยมแก้บนด้วยพวงมาลัยและเครื่องเซ่นไหว้ตามแต่ศรัทธา

10.ศาลเจ้าพ่อยี่กอฮง

เชื่อไหมว่าในกรุงเทพมหานครที่ห้อมล้อมไปด้วยตึกสูงระฟ้ายังมีสถานที่ ศักดิ์สิทธิ์บนดาดฟ้าของสถานีตำรวจพลับพลาไชย เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อยี่กอฮง เจ้าพ่อยี่กอฮง มีนามเดิมว่า นายเตี่ยง แซ่แต่ เป็นต้นตระกูลเตชะวณิชย์ ที่ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติไว้มากมาย

Tips: ก่อน วันที่ 1 และวันที่ 16 จะมีผู้มาขอหวยลาภกันเยอะที่สุด ถ้าบนบานศาลกล่าวประสบความสำเร็จ จะแก้บนด้วยข้าว ขาหมู โอยั๊ว น้ำชาดอกดาวเรือง และซิก้ามาถวาย

ที่มา www.triptravelgang.com