เมื่อฝุ่น PM 2.5 กลับมาในประเทศไทยอีกครั้ง และทำให้ค่าฝุ่นในเกือบทุกพื้นที่เกินค่ามาตรฐานที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอีกครั้ง อย่างที่ทราบกันดีกว่าปริมาณฝุ่นที่เกิดขึ้นนี้ ไม่สามารถแก้ไขอย่างฉับพลันได้ แต่ต้องเกิดจากการวางแผนระยะยาว นอกจากต้องสร้างจิตสำนึกเรื่องรักษ์สิ่งแวดล้อม เรื่องการมีต้นไม้ใหญ่ในเมืองแล้ว การจัดการพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรม การก่อสร้างสาธารณูปโภคต้องมีการวางแผนที่ดี เพื่อไม่ให้เกิดฝุ่นในปริมาณที่เกินมาตรฐานจนกระทบต่อสุขภาพของคนที่อาศัยอยู่ในแต่ละพื้นที่ด้วย
แม้ว่าสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นอาจจะทำไม่ได้ในทันที แต่เราก็ไม่ควรละเลยเรื่องการป้องกันเบื้องต้น เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อสุขภาพในอนาคต เราไม่ควรเพิกเฉยต่อปัญหาดังกล่าวเช่นเดียวกัน วันนี้ #ลัดเลาะรอบโลก ก็ขอพาไปสร้างแรงบันดาลใจด้วยการพาไปดูเมืองที่อากาศสะอาดที่สุดในโลก 5 อันดับ ไปดูกันว่ามีเมืองไหนบ้าง เพื่อที่เราจะช่วยกันเปลี่ยนแปลงคนละนิด เพื่อเมืองในฝันของพวกเรา
*อันดับ 5 เมน, สหรัฐอเมริกา *
บังกอร์ เป็นเมืองเล็ก ๆ ในรัฐเมน เป็นย่านที่ได้ชื่อว่าเป็นเรื่องที่มีอากาศสะอาดที่สุดในสหรัฐอเมริกา นอกจากอากาศสะอาดแล้ว ยังเป็นเมืองที่มีอัตราการฆาตกรรมต่ำ ถือว่าเป็นเมืองที่มีห้างที่ดี มีโรงพยาบาลหลักของรัฐ รวมไปถึงถ้าต้องการสร้างแรงบันดาลใจเพื่อความคิดสร้างสรรค์ ในเมืองก็เต็มไปด้วยอาร์ท แกลเลอรี โรงภาพยนตร์ และเสียงเพลงอีกด้วย แม้ว่ารัฐเมนจะเป็นรัฐที่เคยมีสถิติว่าโอโซนในพื้นที่แย่ที่สุด แต่เมืองบังกอร์ก็ยังเป็นเมืองที่มีอากาศสะอาดที่สุดในประเทศอยู่ดี
*อันดับ 4 แอดิเลด, ออสเตรเลีย *
ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดเมืองหนึ่งในโลก สำหรับ แอดิเลด ในประเทศออสเตรเลีย แม้ใครหลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าการอยู่ในเมืองจะมีค่าครองชีพที่สูง ก็ใช้ไม่ได้กับแอดิเลดเช่นเดียวกัน เพราะว่าค่าครองชีพไม่สูงมากแล้ว ยังเป็นเมืองที่ค่อนข้างสงบ และอากาศสะอาดมาก และในเมืองก็ยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ซึ่งก็เป็นอีกเมืองที่เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน
*อันดับ 3 ซูริค, สวิสเซอร์แลนด์ *
ประเทศสวิสเซอร์แลนด์นั้นขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีอยู่แล้ว และยังเป็นประเทศที่อากาศบริสุทธิ์บนโลกอีกด้วย สำหรับเรื่องอากาศ และคุณภาพชีวิตนั้น เป็นเรื่องที่หายห่วงไปเลยสำหรับซูริค แต่สิ่งที่ต้องยอมรับไปด้วยก็คือค่าครองชีพที่แพงที่สุดในโลก เพราะคุณภาพชีวิตที่ดีไม่ได้มาฟรี ๆ อย่างแน่นอน แต่ก็คุ้มค่าในระยะยาวที่ทำให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรง และสุขภาพจิตที่ดี
*อันดับ 2 โนวาสโกเชีย, แคนาดา *
ฮาลิแฟกซ์ เมืองที่ตั้งอยู่ที่ โนวาสโกเชีย ประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน อีกทั้งยังมีมหาวิทยาลัย และท่าเรือด้วย ฮาลิแฟกซ์เป็นเมืองที่เอาจริงเอาจังกับเรื่องอากาศสะอาดมาก มีการนำวิธีการต่าง ๆ มากมายมาประยุกต์ใช้เพื่อที่จะลดมลพิษ รวมไปถึงการใช้พลังงานทางเลือก
*อันดับ 1 ฮัมบูร์ก, เยอรมนี *
แฮมเบิร์กเป็นเมืองท่าหลักที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง และก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่จะได้เป็นเมืองที่มีอากาศสะอาดที่สุดในโลก เพราะว่าก่อนหน้านี้ เยอรมนีได้ลงทุนเงินกว่า 500 ล้านยูโรเพื่อที่จะทำให้อากาศในประเทศสะอาด ฮัมบูร์กเป็นเมืองแรกที่งดใช้พลังงานจากถ่านหิน เพื่อที่จะลดปัญหามลพิษทางอากาศ รวมไปถึงการสร้างความสำคัญของการดำรงอยู่ของสิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพที่ดี ความพยายามเหล่านี้จึงทำให้ฮัมบูร์กกลายเป็นเมืองที่มีอากาศสะอาดบริสุทธิ์ที่สุดในโลก
Charyen เริ่มจากที่ตัวเราก่อนครับ ช่วยกันครับ
01 ต.ค. 2562 เวลา 08.47 น.
Wat Vat Wach ส่วนเมืองไทยก็ติดอันดับ แต่ตรงกันข้ามเท่านั้นเอง
01 ต.ค. 2562 เวลา 05.15 น.
ประเทศไทยก็ติดอันแล้วนี้ครับอันดับ ยอดแย่
01 ต.ค. 2562 เวลา 06.45 น.
เเค่เห็นยังสงบ และอยากย้ายไปตอนนี้เลย แต่เงินสักแสน ยังไม่เคยได้หยิบ นี่แหละชีวิต
01 ต.ค. 2562 เวลา 07.47 น.
Zara Japan อาหารอร่อยผลไม้หลากหลายอาหารไร้สารพิษที่สำคัญค่าครองชีพที่ไม่แพงถ้าแพงมากเกิดการฆ่าตัวตายได้ง่ายมีเงินรวยหยู่ที่ใหนก็ได้สบายทุกหย่าง
01 ต.ค. 2562 เวลา 09.43 น.
ดูทั้งหมด