“ไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ์” ผมเป็นแค่ “หลานอภิสิทธิ์” ผมไม่ได้มี “อภิสิทธิ์”

“ไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ์”  ผมเป็นแค่  “หลานอภิสิทธิ์”  ผมไม่ได้มี  “อภิสิทธิ์”

หากมีตำแหน่งนักการเมือง คิวท์บอย เขาคนนี้น่าจะเป็นหนึ่งในโผโดยไม่ต้องสงสัย  “ไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ์”  นักการเมืองหนุ่มหล่อหน้าใหม่ที่ก้าวเข้าสู่สังเวียนการเมืองไทยอันร้อนแรงอย่างเต็มตัว

การเป็นหลานคุณ  “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”  เป็นเหมือนคำต่อท้ายหลังชื่อจริงเขาไปแล้ว รวมถึงหน้าตาที่ละม้ายคล้ายกัน ทำให้ในสายตาคนอื่นนั้น สิ่งนี้กลายเป็นเหมือนตราประจำตัวเขาไปแล้ว

“มีทั้งข้อดีและข้อเสียครับ” ไอติมเปรยถึงการเป็นลูกหลานนักการเมือง “ข้อดีคือสำหรับคนที่สนใจงานด้านการเมือง จะสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับงานนี้ได้เร็วขึ้น” 

“ส่วนข้อเสียคือ การที่เราเข้ามาแล้วดันหน้าตาไปเหมือนกับนักการเมืองอีกท่านที่เป็นญาติของเรา คนที่ชอบเราก็อาจจะชอบเราไปเลย ส่วนคนที่ไม่ชอบ ก็อาจจะไม่ชอบเราเร็วไปเพราะคิดว่าเราจะต้องมีความคิดทัศนคติคล้ายกับญาติผู้ใหญ่ท่านนั้น”

มองจากคนนอกถึงเส้นทางของเขา เราสงสัยว่าการเป็นหลาน “คุณอภิสิทธิ์”  นั้นมี  “อภิสิทธิ์”  อะไรหรือไม่ แต่ไอติมให้บอกกับเราว่า  “ไม่”

“ผมได้ทุนตอนอายุ 13 ปี ไปเรียนมัธยม…ก็ไม่มีใครรู้ว่าผมเป็นลูกหลานใคร วัดกันที่ผลสอบ ผมสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ จบมาเป็นอันดับหนึ่งของรุ่น…ก็ไม่มีใครรู้ว่าผมเป็นลูกหลานใครผมเข้าบริษัทเอกชนได้และได้โปรโมท…ก็ไม่มีใครรู้ว่าผมเป็นลูกหลานใคร”

“ผมว่าจะมีแค่งานการเมืองนี่แหละที่คนมาตีตราว่าผมได้อภิสิทธิ์อะไรหรือเปล่า ยิ่งพอเป็นพรรคประชาธิปัตย์แล้วก็ยิ่งถูกเพ่งเล็ง  แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง การที่ผมเป็นลูกหลานหัวหน้าพรรค ไม่ได้แปลว่าผมจะไต่เต้าได้เร็วกว่าคนอื่น”

การตัดสินใจของเขาในเส้นทางสายนี้ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเป็นลูกหลานนักการเมืองหรือไม่ เพราะตัวของเขาเองมีความสนใจในด้านนี้อยู่แล้ว โดยเริ่มจุดประกายขึ้นตั้งแต่ตอนที่เขามีโอกาสได้ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ

“ความสนใจทางการเมืองของผมเริ่มจากตอนที่ผมไปเรียนที่ประเทศอังกฤษ ตอนอายุ 13 ปี ที่อังกฤษผมเห็นว่าระบอบการปกครองเราคล้ายกันมาก คือเป็นระบบรัฐสภามีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่ผลลัพธ์บางอย่างต่างกันมากโดยเฉพาะเรื่องความเหลื่อมล้ำ ถ้าถามคนอังกฤษส่งลูกไปเรียนที่ไหน เค้าตอบเลยว่าโรงเรียนใกล้บ้าน เจ็บป่วยไปโรงพยาบาลที่ไหน เค้าก็ตอบว่าโรงพยาบาลใกล้บ้าน

“ในขณะที่ประเทศไทยความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงสถานศึกษาและสถานพยาบาลสูงมาก อย่างเช่นโรงพยาบาลจุฬาฯ ที่มีคนไข้จำนวนเยอะมาก ด้วยเหตุผลที่ว่า คุ้มและดีกว่าโรงพยาบาลแถวบ้าน นี่เลยเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมอยากเข้ามาทำงานพัฒนาประเทศ  “

ถ้าอย่างนั้นแล้วอะไรที่ทำให้เขาคนนี้แตกต่างจากคุณอภิสิทธิ์กันล่ะ?  “ก็คนละคนนะครับ (หัวเราะ) อ๋อ ทีมฟุตบอลของผมเป็นแชมป์ห้าสมัยนะครับ” (ไอติมเชียร์ทีมลิเวอร์พูล ในขณะที่คุณอภิสิทธิ์เชียร์ทีมนิวคาสเซิล)

“ผมไม่ได้เลือกอยู่กับคุณอภิสิทธิ์ แต่ผมเลือกอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าเป็นพรรคประชาธิปัตย์ในแบบเดิมผมก็ไม่เลือก แต่ผมต้องการจะสร้าง ‘พรรคประชาธิปัตย์ยุคใหม่’ ที่…”

“หนึ่ง…ชัดเจนในเรื่องของเสรีนิยมประชาธิปไตย  สอง…คือ ประชาธิปัตย์ที่มีความเป็นประชาธิปไตยสูง อย่างที่เราได้เห็นก้าวสำคัญคือ การเปิดให้สมาชิกทั่วประเทศสามารถเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเข้ามาได้ ซึ่งเป็นพรรคเดียวที่ทำและผมหวังว่าพรรคอื่นจะทำตาม และสาม…คือประชาธิปัตย์ที่ตอบโจทย์สิ่งใหม่ๆ ในสังคมไทย ทั้งความเหลื่อมล้ำ ผู้สูงวัย สิทธิเสรีภาพที่ถูกลิดรอนไป เป็นต้นครับ”

“ขออย่างเดียวว่าให้เข้ามาด้วยความบริสุทธิ์ใจ อยากเข้ามาพัฒนาประเทศจริงๆ”  นักการเมืองหนุ่มหน้าหล่อพูดถึงคนที่อยากเข้ามาทำงานด้านนี้  “ถ้าเรามีความคิดหรือทัศนคติที่ต่างกันในการบริหาร เรามาเถียงกันได้ แข่งขันต่อสู้กันในเชิงนโยบาย แข่งขันเชิงความคิด”

“อย่ามองว่าเป็นอาชีพที่โก้หรู รวย ผมไม่รู้ว่าค่านิยมนี้มาจากไหน ผมโตมาในประเทศอังกฤษที่นักการเมืองก็ยังใช้ขนส่งสาธารณะเหมือนคนอื่น นักการเมืองคือคนที่แก้ปัญหาให้ประชาชน เป็นตัวแทนของประชาชน ถ้าคุณไม่ใช้ชีวิตแบบประชาชน คุณจะรู้ปัญหาและแก้มันได้ยังไง”

“ผมว่าก็มีคนที่เด็กกว่าหรืออายุเท่ากับผมเยอะนะที่อยากลงมาเล่นการเมือง”  ไอติมตอบเมื่อเราถามว่าคิดอย่างไรกับการที่มีคนมองว่า  “เด็ก”  ไปในเวทีการเมือง 

“ผมคิดว่านักการเมืองควรมีทุกรุ่น มองภาพเข้าไปในสภา มันควรหลากหลายรุ่นเพราะถ้าไม่มีความหลากหลายจากคนหลายกลุ่ม ความต้องการของคนบางกลุ่มก็จะไม่สะท้อนออกมา ทั้งเรื่องอายุ เพศ หรือด้านประสบการณ์  เช่น คนที่เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจ การศึกษา”

“สภา 500 คนถ้าเป็นผู้แทนของประชาชนจริงๆ ต้องมีความหลากหลาย  การที่มีคนอายุน้อยเข้าไปมันก็เป็นตัวแทนที่จะบอกเล่าปัญหาที่กระทบกับเยาวชนมากกว่าคนอื่นๆ เช่น การเกณฑ์ทหารที่ส่งผลกระทบโดยตรง สิ่งแวดล้อมที่พวกเราจะต้องอยู่กับมันไปอีกนานครับ”

ถ้าอย่างนั้นแล้วอยากให้คนรู้จักเราในฐานะอะไร?….

“ไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ์ ครับ"

พบกับตัวตนที่แท้จริงของนักการเมืองหนุ่ม 'ไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ' ในรายการ ‘The OutLINE’ คุยนอกกรอบ ตอบนอกเส้น with สุทธิชัย หยุ่น ที่จะพาไปทุกประเด็นที่ไม่เคยได้รู้มาก่อนของนักการเมืองเลือดใหม่คนนี้! ทุกเรื่องของเขาจะถูกเปิดเผยที่นี่ 7 ก.พ. นี้ 2 ทุ่มตรง บน LINE TODAY เท่านั้น