*อ่านเรื่องย่อซีรีส์ "Mother เรียกฉันว่า…แม่" ตอนใหม่! ก่อนใคร ทุกวันจันทร์ ที่ LINE TODAY
ทิชา วิ่งสุดแรงเกิด เธอก้าวขายาว ๆ อย่างไม่คิดชีวิต เธออุตส่าห์หนีมาได้ตั้งไกลจะมาโดนจับที่นี่ได้อย่างไร ตำรวจไล่ตามมากระชั้นชิด ทิชาเหนื่อยหอบใจสั่นระรัว แต่ใจเธอไม่ได้คิดเรื่องความปลอดภัยของตัวเองแม้แต่น้อย เธอห่วงแต่เพียงคนที่เธอรัก เธอต้องหนี จะยอมโดนจับไม่ได้
นักประดาน้ำกำลังค้นหาร่างของเด็กหญิงคนหนึ่ง พยานผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่าเด็กหญิงอายุประมาณ 7-8 ปี วิ่งเล่นอยู่คนเดียวริมบ่อน้ำไร้คนดูแล คุณป้าชาวบ้านแถวนั้นยังช่วยตะโกนว่าให้ระมัดระวังเพราะบ่อน้ำบ่อนี้มันลึก ผู้ใหญ่ที่ว่ายน้ำแข็ง ๆ ก็มาพบจุดจบที่นี่หลายคนแล้ว ไม่ทันขาดคำ นักประดาน้ำก็งมกระเป๋าเป้สีฟ้า เขียนชื่อ ด.ญ.ของขวัญ ผู้เป็นเจ้าของ ขึ้นมาจากบ่อน้ำ
ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ทิชายังทำงานเป็นนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมขององค์กรไม่แสวงกำไรแห่งหนึ่ง หน้าที่หลักของทิชาคือสำรวจประชากรนกในพื้นที่และรายงานผลกระทบที่เกิดจากการก่อสร้างเขื่อนโครงการ เขื่อนสาคำ จังหวัดน่าน ทิชาเป็นผู้หญิงวัยสามสิบที่สวย สง่า พูดน้อย เธอเป็นคนมีความรู้เรื่องนกอย่างดีเยี่ยม แต่กลับเก็บตัวอยู่กลางป่าเขาไม่ยอมสุงสิงกับใครนอกจากเพื่อนร่วมงาน ชีวิตของเธอมีแต่งานและนกที่เธอรักเท่านั้น เธอไม่ได้ติดต่อแม่กับน้องสาว 2 คนมานานแล้ว แม้จะทราบข่าวว่าน้องสาวคนกลางกำลังจะแต่งงาน แต่ทิชาก็ไม่คิดว่าเธอสมควรไปร่วมแสดงความยินดี ทิชาออกจากบ้านหลังนั้นมาเป็นสิบปีแล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องกลับไปอีก เพราะเธอทำให้แม่ผิดหวังอยู่เรื่อย อย่างการมาเป็นนักวิจัยอยู่ต่างจังหวัดก็ไม่ใช่เส้นทางชีวิตที่แม่ของเธอขีดวางเอาไว้ให้
แต่องค์กรของเธอกลับถูกตัดงบประมาณทำให้ต้องหยุดดำเนินกิจการชั่วคราว ทิชาเองก็กำลังขอทุนไปทำวิจัยเรื่องนกที่ประเทศมาเลเซีย ทิชาจึงจำเป็นต้องคว้างานที่พอจะทำได้ในขณะนั้น ทำไปพลาง ๆ ก่อน รอจนกว่าจะรู้จุดหมายต่อไปแล้วเมื่อถึงเวลาเธอก็จะอพยพไปราวกับนกย้ายถิ่น
ทิชาไปเป็นครูโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง เธอรับหน้าที่สอนวิชาวิทยาศาสตร์และเป็นครูประจำชั้นห้องป. 2/1 ที่นั่นเธอได้พบกับเด็กหญิงคนหนึ่ง เด็กหญิงคนนี้มองผ่าน ๆ ก็ไม่ได้มีอะไรที่สะดุดตา ไม่ใช่เด็กเรียนเก่ง ไม่ได้ร่าเริง ไม่ใช่เด็กกล้าแสดงออก แต่ทิชามองเห็นตัวเองในแววตาของเด็กหญิงคนนี้ เธอรู้ในทันทีว่าเด็กหญิงตัวน้อยมีชีวิตที่ยากลำบาก
“สวรรค์มีจริงไหมคะ เคยมีนักวิทยาศาสตร์ตอบคำถามเรื่องนี้ไหมคะ” เด็กน้อยถามครู
“ครูคิดว่าสวรรค์กับนรกอยู่ในความคิดของคนเรา ไม่ได้เป็นสถานที่จริง ๆ แต่ข้อสำคัญคือถ้าเราอยากไปสวรรค์ ก็ต้องทำความดีในตอนที่เรามีชีวิตอยู่ คนที่บอกว่าสวรรค์มีจริง คงอยากให้ทุกคนเป็นคนดีมากกว่า”
“เขาหลอกเราหรือคะ” แววตาใสซื่อตั้งคำถาม หาความหมายของการมีชีวิต ทิชาไม่แน่ใจว่าควรจะตอบคำถามนี้ยังไง เธอไม่คุ้นเคยกับเด็ก ๆ ให้เธออธิบายเรื่องวิวัฒนาการของสัตว์ปีกยังง่ายเสียกว่า
ของขวัญ อายุ 8 ขวบ อาศัยอยู่กับแม่และแฟนของแม่ แม่ของเธอทำงานที่ร้านอาหารกว่าจะเลิกงานก็ดึกดื่น ส่วนอาตั้มผู้ชายที่สองแม่ลูกพึ่งพิงก็เป็นคนไม่เอาถ่าน วัน ๆ ก็สำมะเลเทเมา เล่นเกม เหมือนเด็กไม่รู้จักโต ของขวัญก็ไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ถึงรักอาตั้มนักหนา รักมากถึงขนาดพาตัวเองกับลูกย้ายมาอยู่ที่จังหวัดน่านอันแสนไกลแห่งนี้ ของขวัญรู้แต่เพียงว่าเธอมีหน้าที่ไปโรงเรียน กลับถึงบ้านแล้วรีบออกจากบ้านให้เร็วที่สุด รอเวลาจนกว่าแม่จะกลับมาเธอถึงจะปลอดภัย ถ้าอยู่บ้านเธอก็ต้องทำตัวเงียบ ๆ ไม่ร้องไห้งอแง
“หนูกลัวแล้ว หนูขอโทษ” คือคำพูดติดปากที่ของขวัญพูดบ่อยที่สุดเวลาอยู่บ้าน
ทำตัวให้เล็กที่สุด ขดตัวนอนอยู่ในกระเป๋าเดินทางเหมือนตุ๊กตาไร้ชีวิต ถ้าทำแบบนั้นได้เธอก็จะรอด
ของขวัญมาโรงเรียนด้วยร่างกายผอมโซ ไม่มีเรี่ยวแรง เสื้อผ้าหน้าผมมอมแมม ขาดการดูแลเอาใจใส่ แถมตามเนื้อตัวยังมีร่องรอยฟกช้ำตลอดเวลา ทิชาเห็นกับตาว่าของขวัญถูกเด็กผู้ชายหัวโจกในห้องแกล้ง ทิชารู้สึกเป็นห่วงของขวัญ แต่ความรู้สึกที่มีต่อของขวัญก็เป็นเพียงความห่วงใยของครูประจำชั้นที่มีต่อนักเรียนในความดูแล หาได้มีเยื่อใยหรือความรู้สึกสนิทสนมผูกพันเป็นพิเศษ
ในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ทิชายังคงแวะเวียนไปยังพื้นที่ก่อสร้างเขื่อนสาคำเพื่อสำรวจดูนกเหมือนที่เคยทำอยู่ทุกวัน แต่แล้ววันหนึ่งทิชาก็ได้พบกับ ปราชญ์ นักข่าวหนุ่มไฟแรงที่มาทำข่าวคดีฆาตกรรมนักเคลื่อนไหวชาวไทลื้อที่ขัดขวางการสร้างเขื่อน ปราชญ์พยายามจะสัมภาษณ์ทิชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขารู้ว่าทิชาเป็นลูกสาวคนโตของ วรินทรา เจนกิจโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทรับเหมาก่อสร้างที่ประมูลโครงการรัฐบาลใหญ่ ๆ รวมถึงการสร้างเขื่อนสาคำแห่งนี้ ทิชาคือแหล่งข่าวชั้นดี และแน่นอนว่าทิชาไม่ยอมให้ความร่วมมือกับปราชญ์เด็ดขาด เธอไม่อยากพูดถึงแม่ ไม่อยากให้แม่รู้ว่าเธอหลบซ่อนอยู่ที่นี่ เธอต้องการเป็นอิสระจากแม่ผู้ทรงอิทธิพลของเธอ
ทิชาบังเอิญเจอของขวัญเดินเตร็ดเตร่เร่ร่อนอยู่คนเดียวกลางดึก แถมยังกระเตงตะกร้าใส่แมวมาด้วยหนึ่งตัว ทิชาแปลกใจที่เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ มาเดินอยู่คนเดียว ทิชาชวนของขวัญให้มานั่งกินข้าวด้วยกัน ของขวัญมีสมุดจดเล็ก ๆ ติดตัวที่ของขวัญจะจดคำของที่เธอชอบลงไปในสมุด ของขวัญบอกว่าอาหารที่เธอชอบมากที่สุดคือ “นมชมพู” แม้ทิชาจะไม่เห็นด้วยว่านมชมพูเป็นอาหารเพราะคุณค่าสารอาหารน้อย แต่ทิชาก็สั่งมาให้เด็กน้อยได้ดื่มกิน ของขวัญดื่มนมชมพูอย่างเอร็ดอร่อย ส่งยิ้มให้ครูประจำชั้นอย่างไร้เดียงสา ทิชายิ้มตอบ ของขวัญได้จดคำของที่ชอบคำใหม่
“เวลาที่ครูทิชายิ้ม”
ของขวัญไม่ยอมให้ทิชาไปส่งที่บ้าน เพราะกลัวแม่ดุ ทิชายอมแต่ก็ต้องเสียใจในวันรุ่งขึ้นและวันต่อ ๆ มา เพราะหลังจากนั้นของขวัญไม่มาโรงเรียนอีกหลายวัน ทิชากับเพื่อนครูพยายามรายงานเรื่องข้อสงสัยว่าของขวัญอาจโดนทารุณกรรมจากที่บ้านให้กับผู้อำนวยการฟังเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไร้ผล บางทีผู้ใหญ่ก็มองว่าเด็กเล่นซนก็ต้องโดนตี โดนทำโทษเป็นธรรมดา
ทิชาตัดสินใจไปเยี่ยมของขวัญที่บ้านเพื่อดูให้เห็นกับตาว่าของขวัญยังปลอดภัยดี แต่สิ่งที่เห็นคือของขวัญมีผ้าปิดแผลที่กกหู แม่ของของขวัญไม่ให้ความร่วมมือกับครู ส่วนของขวัญก็โกหกว่าตัวเองหกล้มเพราะซุ่มซ่ามเอง เห็นชัด ๆ ว่าเด็กรักแม่และต้องการปกป้องแม่ ทิชาไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ ถ้าแจ้งความดำเนินคดีกับแม่ของขวัญก็อาจจะต้องอยู่ในสภาพเด็กกำพร้ากลายเป็นเรื่องใหญ่โตที่ทิชาไม่สามารถควบคุมได้ ทิชาพยายามดึงตัวออกมาจากสถานการณ์นี้เพราะเธอก็ได้จดหมายตอบรับจากสถาบันวิจัยที่มาเลเซียแล้ว อีกไม่นานเธอก็จะไป
แต่ก็มีเสียงเล็ก ๆ บางเสียงในหัวใจของทิชาที่บอกว่าเธอต้องช่วยเด็กคนนี้ เสียงเล็ก ๆ นั้น แม้จะเบาบางจนแทบไม่ได้ยิน แต่ก็ร้องเรียกขอความช่วยเหลืออย่างสุดกำลัง ทิชา เธอต้องช่วยเด็กคนนี้!
ที่บึงน้ำแห่งหนึ่ง เห็นวัตถุบางอย่างลอยอยู่กลางน้ำไกล ๆ เมื่อมองดูใกล้ ๆ มันคือ “กระเป๋านักเรียนของของขวัญ!”
- จบตอนที่ 1 เล่นซ่อนแอบ -
>> คลิกกลับไปหน้าหลัก >> https://today.line.me/th/pc/article/Zn1p5Q
(ORhDpositive: O+) อ่านแล้วสงสารของขัวญจริงๆเหมือนเห็นตัวเองในอดีต😢😢😢😢
05 มี.ค. 2563 เวลา 17.27 น.
(ORhDpositive: O+) อยากดูๆๆๆๆๆ
05 มี.ค. 2563 เวลา 17.26 น.
🌻🐞🌼Suphattana🌼🐞🌻 เล่นดีมาก ทุกคนเลย
06 มี.ค. 2563 เวลา 08.14 น.
ดูทั้งหมด