กระอัก!! ไฟเขียวขึ้นค่า ‘รถเมล์-รถทัวร์’ เริ่ม 21 ม.ค. 62

กระอัก!! ไฟเขียว “รถเมล์-รถทัวร์” ปรับขึ้นค่าโดยสารหลังต้นทุนพุ่ง ชี้หากรัฐไร้มาตรการเยียวยา พร้อมปรับอัตราใหม่ทันที 21 ม.ค. นี้

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ที่มีนายกฤชเทพ สิมลี รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน วันนี้ (14 ธ.ค.) ว่า ที่ประชุมมีมติปรับขึ้นราคารถโดยสารประจำทาง (รถเมล์) ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.), รถเมล์ร่วมบริการ ขสมก. ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล, รถโดยสาร บริษัท ขนส่ง จำกัด (รถทัวร์ บขส.) และรถร่วมบริการ บขส. โดยอัตราค่าโดยสารจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2562 เป็นต้นไป

สำหรับรถเมล์เก่าจะให้ปรับขึ้นราคา 1 บาทต่อเที่ยว ส่งผลให้รถเมล์ธรรมดา (รถเมล์ร้อน) ของเอกชนปรับขึ้นราคาจาก 9 บาทต่อเที่ยว เป็น 10 บาทต่อเที่ยว และรถเมล์ ขสมก. จากเดิม 6.50 บาทต่อเที่ยว เป็นไม่เกิน 10 บาทต่อเที่ยว ด้านรถเมล์ปรับอากาศ (รถแอร์) เพิ่มระยะละ 1 บาท จากเดิม 11-23 บาทต่อเที่ยว เป็น 12-24 บาทต่อเที่ยว

นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติปรับอัตราค่าโดยสารรถเมล์ใหม่ เช่น สำหรับรถเมล์ปรับอากาศที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) ซึ่งเป็นรถเมล์ใหม่ของ ขสมก. จำนวน 489 คัน จากเดิมเก็บค่าโดยสารในอัตรา 11-23 บาทต่อเที่ยว เป็น 4 กิโลเมตรแรก อัตรา 15 บาท, 10-16 กิโลเมตรอัตรา 20 บาท และ 16 กิโลเมตรขึ้นไปอัตรา 25 บาท

ส่วนรถเมล์ร้อนที่เป็นรถใหม่ สามารถเก็บอัตราค่าโดยสารได้ในราคา 12 บาท โดยรถเมล์ใหม่ทั้งรถร้อน และรถปรับอากาศที่จะเก็บค่าโดยสารในอัตรานี้ได้ต้องเป็นรถที่ติดอุปกรณ์ส่วนควบตามเงื่อนไขที่ ขบ.กำหนด อาทิ ติดจีพีเอส, กล้องซีซีทีวี, อุปกรณ์ความปลอดภัย และติดตั้งระบบอีทิคเก็ต เป็นต้น

“สาเหตุที่ต้องปรับค่าโดยสารขึ้น เพราะที่ผ่านไม่ได้มีการปรับอัตราค่าโดยสารให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบันที่ต้นทุนสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการรถโดยสารได้รับผลกระทบถึงขั้นหยุดวิ่ง และเลิกกิจการออกนอกระบบการให้บริการไปแล้ว 565 คัน จากทั้งหมด 3,712 คัน คิดเป็นประมาณ 18%” นายพีระพลกล่าว

ขณะเดียวกันยังมีรถเมล์บางส่วนที่หยุดวิ่งให้บริการโดยไม่แจ้งอีกกว่า 1,000 คัน ทำให้เกิดผลกระทบกับประชาชนต้องรอรถเมล์เป็นเวลานาน และต้องไปใช้ระบบขนส่งมวลชนโหมดการเดินทางอื่นที่มีราคาสูงขึ้น ดังนั้นเพื่อไม่ให้ผลกระทบเกิดขึ้นกับทั้งสองฝ่าย จึงจำเป็นต้องปรับราคาขึ้น เพราะหากไม่ปรับอาจมีรถเมล์ออกจากระบบการให้บริการอีกจำนวนมาก

นายพีระพล กล่าวต่อว่า สำหรับรถทัวร์ บขส. และรถร่วมบริการ บขส. ให้ปรับราคาขึ้นไม่เกิน 10% แบ่งเป็น 4 ช่วง ประกอบด้วย

• ระยะทาง 40 กิโลเมตรแรก เดิม 0.49 บาทต่อกิโลเมตร เป็น 0.53 บาทต่อกิโลเมตร
• ระยะทาง 40-100 กิโลเมตร เดิม 0.44 บาทต่อกิโลเมตรเป็น 0.48 บาทต่อกิโลเมตร
• ระยะทาง 100-200 กิโลเมตรเดิม 0.40 บาทต่อกิโลเมตรเป็น 0.44 บาทต่อกิโลเมตร
• ระยะทางเกิน 200 กิโลเมตร เดิม 0.36 บาทต่อกิโลเมตร เป็น 0.39 บาทต่อกิโลเมตร

ทั้งนี้ ที่ประชุมจะนำมติการปรับขึ้นราคาดังกล่าว พร้อมมาตรการเยียวยาประชาชน และผู้ประกอบการ เช่น การเพิ่มวงเงินค่าเดินทางในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมทั้งการใช้บัตรให้ครอบคลุมทั้งรถเมล์ ขสมก., รถเมล์ร่วมบริการ, รถ บขส. และรถไฟ, การสนับสนุนค่าเชื้อเพลิงให้กับผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิง และลดภาษีการนำเข้ารถโดยสาร เป็นต้น เสนอต่อนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในสัปดาห์หน้าเพื่อพิจารณาต่อไป

ทั้งนี้ หากกระทรวงคมนาคม และรัฐบาลเห็นด้วยกับมาตรการเยียวยา หรือมีมาตรการเยียวยาอื่นๆ เพิ่มเติม ที่ประชุมก็จะพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารใหม่อีกครั้ง แต่หากไม่มีมาตรการเยียวยาใดๆ ก็จะยึดมติที่ประชุมที่ให้ปรับราคาขึ้นในตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2562 ทันที