สลด! สาวฝ่ายบัญชีหายออกจากบ้านกลายเป็นศพลอยน้ำเจ้าพระยา

เมื่อเวลา 11:30 น.เมื่อ 14 ธันวาคม 2562 ร.ต.อ.ศักดา ศักเจริญทรัพย์ รอง สว.สอบสวน สน.บางคอแหลม ได้รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิตลอยน้ำ ในแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงหน้าวัดคลองบน จึงนำเรือตรวจการณ์เดินทางไปพร้อมอาสาสมัครกู้ภัย มูลนิธิร่วมกตัญญู ก่อนลากนำขึ้นที่ท่าน้ำสถานีตำรวจ

ที่เกิดเหตุพบศพหญิงสาว สภาพสวมใส่เสื้อสีน้ำเงิน กางเกงยีนขายาวสีน้ำเงิน ทราบชื่อภายหลัง น.ส.จิราทิพย์ เทพสุนทร อายุ 32 ปี เป็นพนักงานบัญชีอยู่บริษัทแห่งหนึ่ง แถวย่านพระราม 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานญาติให้เดินทางมาดูศพว่าใช้ญาติของตนหรือไม่ จนเมื่อญาติและเพื่อนร่วมงานเดินทางมาถึง พอเห็นสภาพศพต่างพากันร่ำไห้ด้วยความเสียใจสร้างความสะเทือนใจให้กับเจ้าหน้าที่และอาสาที่อยู่ในที่เกิดเหตุ

จากการพูดคุยกับนายธีรชัย แก้วคำ อายุ 39 ปี เพื่อนร่วมงานกล่าวว่า ตนเองทำงานกับผู้เสียชีวิตมานานพอสมควร ก็พอรู้จักนิสัยใจคอกันเป็นอย่างดี แต่ปกติแล้วผู้เสียชีวิตเป็นคนนิสัยดีและไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อนเลย เขาจะเป็นคนร่าเริงแจ่มใสตลอดเวลาเพื่อนร่วมงานแม้กระทั้งผู้บังคับบัญชาภายในโรงงานก็ต่างสนิทกับผู้เสียชีวิตเป็นอย่างดี ส่วนตนเองแล้วคิดไม่ออกเลยว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ และรู้สึกเสียใจกับการจากไปแบบกระทันหันแบบนี้"

ทางด้านนายประยงค์ เรืองเดช อายุ34 ปี สามีกล่าวว่า ตนอยู่กินกับผู้เสียชีวิตมานานหลายปีแล้ว มีลูกด้วยกัน 1 คนเป็นผู้ชาย กำลังเรียนหนังสืออยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งที่ต่างจังหวัด ส่วนแฟนเป็นพนักงานบัญชีอยู่บริษัทแห่งหนึ่ง แถวย่านพระราม 3 มานานแล้ว โดยปกติ ก็เป็นคนนิสัยร่าเริงแจ่มใสดี ตั้งแต่อยู่กินกันมาก็ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันเลย ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งจะไปออกรถกระบะสี่ประตูป้ายแดงกันมา ก็ยังมีความสุขกันดียังพูดจาหยอกล้อกันปกติตามประสาผัวเมียกันเหมือนคู่อื่นทั่วๆไป แต่พอมาช่วงเช้าของวันที่ 12 ธันวาคม 62 เวลา 08.06 น. ตนจำได้ว่าคนข้างบ้านโทรมาบอกว่าแฟนโทรมาให้ไปเอารถที่สะพานกรุงเทพด้วยนะ พอได้ยินแบบนั้นตนเองก็ตกใจ จึงรีบไปดูที่สะพานกรุงเทพทันที พอตนไปถึงก็พบกับตำรวจแล้วและในที่เกิดเหตุก็ยังพบรถ จยย. ที่แฟนขับมา แล้วก็พบกับโทรศัพท์ มือถือของแฟนอยู่บนเบาะรถ จยย. อีก 1 เครื่อง เมื่อเห็นแบบนั้นตนก็รีบวิ่งลงไปด้านล่างของสะพานแล้วเดินหาตามขอบตลิ่งแล้วตะโกนร้องเรียกชื่อของแฟนตน แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับกลับมาเลย

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาปลอบใจตนเองแล้วพามาสงบสติอารมณ์ที่ สน. พอทำใจได้เลยขอตัวกลับบ้าน ทุกวันก็เฝ้าภาวนาขอให้แฟนปลอดภัย และขอให้เจอกันอีกครั้ง แต่แล้วพอมาวันนี้เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจตนเองก็แทบจะไม่เชื่อเลยว่าแฟนเสียชีวิตและเป็นศพลอยมาติดอยู่ที่ท่าน้ำ สน. แล้ว พอมาถึงเข้าไปดูก็พบว่าใช่ ตนเองก็ไม่รู้จะพูดอะไร และรู้สึกเสียใจมากกับการจากไปแบบนี้ ทั้งนี้ก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการตรวจสอบของกฎหมาย แล้วเมื่อผลพิสูจน์ออกมาแล้วตนเองก็จะขอรับศพของภรรยาไปบำเพ็ญกุศลต่อ ที่บ้านเกิดจังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอชำนิ ต่อไป"

ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวน ได้ให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรเบื้องต้นที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช ก่อนให้รับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป