อย่างที่ทราบกันดีว่า กีฬาซีเกมส์ คนไทยจะได้ยินเพลงชาติไทยบ่อยที่สุดสำหรับกีฬาในระดับนานาชาติ ถึงแม้ว่ากระแสกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้ จะไม่ร้อนแรงเท่ากับปีที่ผ่านๆมาในระยะเริ่มต้น แต่ก็ยังคงสร้างความนิยมให้กับช่องทีวีที่ทำการถ่ายทอดสด โดยเฉพาะช่องเล็กอย่างช่อง 5 และ ช่อง NBT ได้มีโอกาสขึ้นมาติดอันดับต้นๆได้
โค้งสุดท้ายของการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศเจ้าภาพทำเหรียญทองนำโด่ง ตามความคาดหมาย เป็นธรรมดาที่ประเทศเจ้าภาพจะสร้างผลงาน และจัดกีฬาที่ตัวเองถนัดลงมากที่สุด แต่ปัญหาของซีเกมส์ครั้งนี้ เกิดจากการที่เจ้าภาพไม่สามารถถ่ายสดได้ครอบคลุมทุกประเภทกีฬาสากล ทำให้ผู้ชมไม่ได้ดูกีฬาหลากหลายเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ในประเภทที่ทำการถ่ายทอดสด ก็ทำมาตรฐานการถ่ายทอดสดได้ดี ในระดับมาตรฐานกีฬาสากล
จากการรวบรวมเรตติ้งรายการถ่ายทอดสดของโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ (ทีวีพูล) ช่วงวันที่ 6-8 ธ.ค.พบว่า ปัจจัยเรื่องช่อง ช่วงเวลาของการถ่ายทอดสด และประเภทกีฬามีส่วนทำให้เรตติ้งสูง โดยรายการถ่ายทอดสดกีฬาว่ายน้ำ ทางช่อง 7 ในวันที่ 8 ธ.ค.ช่วงเวลาก่อน 6 โมงเย็นได้เรตติ้งสูงสุดอยู่ที่ 4.686 รองลงมาเป็นรายการมวยสากลสมัครเล่นของนักมวยทีมชาติไทย ต่อยกับฟิลิปปินส์ 3.731 อันดับ 3 เป็นถ่ายทอดสดเทควันโด ไทย ชนะฟิลิปปินส์ในรอบชิงชนะเลิศที่สูสีกันสุดๆ ทำเรตติ้งได้ 3.572 โดยใน 5 อันดับแรกมีรายการถ่ายทอดสดกรีฑา ที่ทำเรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 3.321
ส่วนกีฬาที่ได้เรตติ้งสูงสุดของช่อง 3 ในวันที่ 6 ธ.ค.ได้แก่ รายการถ่ายทอดสดมวยสากลสมัครเล่น ทำเรตติ้ง 3.364 ซึ่งเป็นวันที่มีการถ่ายทอดกีฬามวย และตะกร้อ ทำเรตติ้งได้ดี
ในขณะที่ช่อง 5 ที่ได้ถ่ายทอดสดฟุตบอลหญิงนัดชิงชนะเลิศ เวียดนาม ชนะไทย ถ่ายทอดสดทางช่อง 5 ในวันที่ 8 ธ.ค.ทำเรตติ้งได้ 2.095 สูงสุดของช่อง 5 โดยที่เป็นการถ่ายทอดสดในคิวที่เป็นของช่อง 7 แต่ทำข้อตกลงให้ช่อง 5 ถ่ายทอดสดทั้งนี้ ช่อง 7 เลือกที่จะเข้ารายการปกติ “MasterChef Junior Thailand” ซึ่งทำเรตติ้งได้ 4.656
ส่วนรายการถ่ายทอดสดในวันที่ 7 ธ.ค.ของช่อง 5 นั้น กีฬาวอลเลย์บอลหญิงไทย แข่งกับเวียดนามในรอบพบกันหมด ทำเรตติ้งไว้ 1.993 สูงสุดของวัน
ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดครั้งนี้เป็นการทำงานร่วมกันของทีวีพูล ทำธุรกิจร่วมกันกับช่องในกลุ่มสมาชิกของทีวีพูล ได้แก่ ช่อง 3 ช่อง 5 ช่อง 7 ช่อง 9 และช่อง NBT ซึ่งตามข้อตกลง ในวันที่ออกอากาศ ทุกช่องต้องออกอากาศให้เสร็จสิ้นจนถึงกีฬาประเภทสุดท้ายในแต่ละวัน โดยวันที่ 8 ธ.ค. ช่อง 7 ต้องถ่ายทอดสดฟุตบอลหญิง ไทย- เวียดนาม แต่คาดว่าด้วยเหตุผลธุรกิจบางอย่างของช่อง 7 ทำให้เจรจากับช่อง 5 มาออกอากาศแทน
สำหรับช่องขนาดกลางและเล็ก ทั้งช่อง 9 ช่อง 5 และ ช่อง NBT การได้ถ่ายทอดสดกีฬาซีเกมส์ นับเป็นโอกาสที่ดี ในการสร้างเรตติ้งให้ช่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่อง NBT สามารถขึ้นไปติดอันดับ 6 ได้ในวันที่ 5 ธ.ค.มาแล้ว แต่สำหรับช่องใหญ่ ทั้งช่อง 3 และช่อง 7 ต่างก็มีเหตุผลทางธุรกิจที่แตกต่างกัน จึงไม่สามารถถ่ายทอดสดบางรายการในช่วงเวลาสำคัญของช่องได้ โชคดีที่มีช่อง 5 และช่อง NBT ที่สามารถสละเวลาออกอากาศได้มากกว่า หากจะมีข้อแนะนำเพื่อเพิ่มมาตรฐานในการถ่ายทอดสด ก็ขอให้ผู้บรรยายกีฬาบางท่าน ทำการบ้านให้มากกว่านี้ เช่น เทเบิลเทนนิส และเซปัคตะกร้อของช่อง NBT
ในส่วนของผลงานนักกีฬาไทย วันแรกๆ ผลงานด้านเหรียญทองอาจจะยังไม่ดีนัก เนื่องจากยังเป็นการแข่งขันที่รู้จักกันในวงแคบ ไม่ใช่กีฬาระดับสากล ที่คนไทยรู้จัก โดยที่กีฬาระดับสากล มักจะจัดแข่งในวันท้ายๆ ซึ่งผลงานนักกีฬาไทยดีขึ้นเป็นลำดับ น่าเสียดายที่นักกีฬาไทยพลาดไปหลายเหรียญทอง ทำให้ได้เหรียญเงินรวม มามากกว่าชาติอื่นๆ
นักกีฬาไทยเริ่มทำผลงานรวม เร่งเครื่องมาอยู่ในอันดับ 2 ของตารางคู่คี่มากับเวียดนาม แม้ว่าปีนี้ เราจะไม่มีกีฬายกน้ำหนักเข้าร่วมแข่งขัน เนื่องจากถูกสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติแบน ซึ่งกีฬาประเภทนี้ นักกีฬาไทยเคยได้ผลงานทำเหรียญทองเป็นกอบเป็นกำเสมอในระดับอาเซียน แต่หลายประเภทกีฬาก็ประสบความสำเร็จเกินเป้าหมาย มีทั้งสมหวังและผิดหวัง บางประเภทกีฬา มีความผิดพลาด พลาดท่าอย่างน่าเสียดาย แต่ก็เป็นเรื่องปกติ กีฬามีบางวันเล่นไม่ดี บางวันเข้าฟอร์มเก่ง
ล้มเหลว ไม่ใช่ล้มเลิก ผิดหวัง พ่ายแพ้ เป็นเรื่องธรรมดาของการกีฬา แต่ไม่ใช่ตลอดไป
บทเรียนของความพ่ายแพ้ นำไปปรับปรุงเพื่อพัฒนา ทัพนักกีฬาไทยยังมีเป้าหมายที่ใหญ่กว่าในปีหน้า กับกีฬาโอลิมปิค 2020 ที่ญี่ปุ่น โดยเฉพาะความหวังเหรียญทองสูงสุดของไทยจาก “น้องเทนนิส พาณิภัค” นักกีฬาเทควันโด ที่กวาดเหรียญทองจากกีฬาเทควันโดระดับนานาชาติมาแล้วทุกสถาบัน รอเพียงเหรียญทองโอลิมปิคอีกเหรียญเดียว ก็จะสร้างเกียรติประวัติได้อย่างสมบูรณ์แบบ
หวังว่าผู้รับผิดชอบการกีฬาของไทย จะให้การสนับสนุน สมาคมกีฬา และนักกีฬาของไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้นักกีฬาไทย ได้สร้างผลงานที่ดีในกีฬาโอลิมปิค ในเดือนก.ค.-ส.ค. ปีหน้า และยังต้องลุ้นกันต่อว่า นักยกน้ำหนักของไทยจะได้เข้าร่วมแข่งขันหรือไม่
ก็ขอชักชวนคนไทยส่งกำลังใจให้นักกีฬาไทย คว้าเหรียญทองโอลิมปิค ให้มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม หากนักกีฬาไทยทำอย่างเต็มความสามารถแล้ว ไม่ว่าผลแพ้ชนะจะเป็นอย่างไร คนไทยก็พร้อมที่จะปรบมือ และเป็นกำลังใจให้ สำหรับคนที่ทำหน้าที่ เป็นนักกีฬาทีมชาติไทยอย่างสมศักดิ์ศรี
Mana Ditjaroen เบื่อ
10 ธ.ค. 2562 เวลา 13.09 น.
wk.. สำรวจจากไหนว่ะ อยากรู้น่ะ
10 ธ.ค. 2562 เวลา 12.29 น.
Super cat ตอนสมัยเป็นกีฬาแหลมทองดูน่าสนุกว่านี้
10 ธ.ค. 2562 เวลา 12.10 น.
@ NIPON © อ๊วกกกก
10 ธ.ค. 2562 เวลา 11.33 น.
Poj Kt ซีเกมส์ที่ฟิลิปปินส์ดูเพื่อเชียร์นักกีฬาไทย แต่ซีโกงที่มาเลเซียไม่ดู แม่งโคตรน่าเกลียด
10 ธ.ค. 2562 เวลา 11.10 น.
ดูทั้งหมด