แพทย์ผวา!'คนไข้'คลั่งใช้กรรไกรแทงพญ. ย้ำหมอก็คือคน

จากกรณี เกิดเหตุสะเทือนขวัญเมื่อสาวใหญ่ที่เป็นคนไข้ก่อเหตุคุ้มคลั่งตะโกนว่า"เป็นลูกเทพลูกเทวดา ถ้าตรวจช้าแบบนี้มาตายพร้อมกันไปเลย" ก่อนจะกระโดดล็อกคอแพทย์หญิงวัย 25 ปี ในขณะกำลังออกตรวจคนไข้ในหอผู้ป่วย จากนั้นก็คว้ากรรไกรพุ่งเข้าจะแทงลำคอ แต่ยังโชคดีเหลือเกินที่แพทย์หญิงยกแฟ้มเอกสารขึ้นมาบังเอาไว้ได้ทันเวลา ทำให้คมกรรไกรจิ้มไปที่แฟ้มแทน ท่ามกลางเสียงร้องขอความข่วยเหลือจนพยาบาลเข้ามาช่วยเหลือได้ทัน เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางวันของวันที่ 9 ธ.ค.ภายใน รพ.รัฐชื่อดังใน จ.ขอนแก่น หลังหายตกใจผู้เสียหายก็ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ชุมแพ เพื่อดำเนินคดี

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.  ผู้ใช้เฟซบุ๊ก @Victor Vitchayut ได้โพสต์ระบุว่า "ผมขอพูดในฐานะของแพทย์ใช้ทุนจบใหม่ และในฐานะอดีตนายกสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทย จากเรื่องราวที่เกิดขึ้น ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่ควรถูกจมหายไป กับความเงียบ แต่ควรเป็นสิ่งที่สังคม ควรใช้สะท้อนและเรียนรู้ร่วมกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้น"

"เหตุการณ์ การทําร้ายแพทย์(ทางร่างกาย) ที่กําลังปฏิบัติหน้าที่ ไม่ว่าจะจากใครก็ตาม ถือเป็นการกระทําที่ไม่สมควรเกิดขึ้น ปกติได้ยินแต่ในข่าว แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับเพื่อนของตัวเอง ผมทนไม่ได้ที่เห็นเพื่อนแพทย์ โดยเฉพาะ แพทย์ที่มีความตั้งใจอย่างสูงที่อยากจะทํางานเพื่อชาวชนบท และอุทิศตนเพื่อผู้ขาดโอกาส จะต้องมาเจอเหตุการณ์ ในลักษณะนี้"

"สิ่งนี้น่าจะเป็นสิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นบทบาทของแพทย์ในสังคมของเราที่เปลี่ยนไปจากเดิมมาก และคงถึงเวลา ที่เราต้องมองหาทางออกที่ปรับตัวให้ทันตามยุคสมัย และตามความคาดหวังจากประชาชน โดยคํานึงถึง ความเป็นมนุษย์ของแพทย์ด้วยเช่นกัน กระบวนการยุติธรรม และกระบวนการเยียวยา ผมเชื่อว่ามีอยู่ ซึ่งนี่คือ การรับมือซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้น"

"แต่มันเหมาะสมมากน้อยแค่ไหน??? แล้วกระบวนการ ซึ่งป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านี้ละ ??? ส่วนตัวมองว่าศรัทธาวิชาชีพอาจจะไม่ใช่ทางออก ไม่ต้องศรัทธาความเป็นหมอของเราก็ได้ แต่เคารพความเป็นมนุษย์ที่ไม่ต่างกัน ของเรานี่แหละ พอแล้ว คงต้องขอบอกว่า เป็นกําลังใจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการผลักดันเรื่องราวเหล่านี้ และถ้าผมมีส่วนช่วยสร้างสังคมที่ผู้ป่วยและแพทย์ มีกฎกติกาและความเข้าใจในลักษณะวิชาชีพของเราได้มากขึ้น ผมพร้อมจะช่วยอย่างเต็มที่ เพราะแพทย์ ก็คือประชาชน เพราะหมอ ก็คือคน".

ขอขอบคุณผู้ใช้เฟซบุ๊ก @Victor Vitchayut