เคยไหม? ทำงานหนักทุกวัน แต่ต้องมาผิดหวัง เพราะแทนที่เราจะได้เลื่อนตำแหน่ง กลับกลายเป็นคนอื่นที่ไม่ได้ทำงานเก่ง แต่เป็นที่รู้จักในองค์กรมากกว่าเท่านั้น
.
เบนจามิน เลเกอร์ (Benjamin Laker) ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทักษะการเป็นผู้นำจาก Henley Business School ระบุว่า สาเหตุที่คนบางส่วนรู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง ทั้งๆ ที่ตั้งใจทำงานมากนั้น เป็นเพราะพวกเขาคิดว่า เพียงแค่ทำผลงานให้ดี ทุกคนก็จะเห็นเอง
.
แต่ในความจริงแล้ว ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะในทุกๆ องค์กร มักจะมีพนักงานที่ถูกมองข้ามเวลามีการเลื่อนตำแหน่ง มอบหมายโปรเจกต์สำคัญ หรือให้โอกาสในการเป็นผู้นำอยู่เสมอ แม้พวกเขาจะทำงานได้ดีก็ตาม แต่เป็นเพราะคนอื่น ‘มองไม่เห็น’ ต่างหาก
.
.
ทำไมการทำงานเก่งอย่างเดียวถึงไม่พอ?
.
เลเกอร์เล่าว่า เขาได้รู้จักกับนักวิเคราะห์การตลาดที่ทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งมา 5 ปี แต่กลับยังไม่ได้เลื่อนตำแหน่งให้ขึ้นเป็นหัวหน้าสักที ทั้งที่หลายผลงานที่เธอทุ่มเทสร้างขึ้นมาล้วนแต่ได้รับคำชื่นชมและผลตอบรับอย่างดีเยี่ยม ยิ่งไปกว่านั้น กลายเป็นว่าเพื่อนร่วมงานที่ชอบพูดถึงผลงานของตัวเองบ่อยๆ กลับได้เลื่อนตำแหน่งแทนเสียเอง ซึ่งนั่นทำให้เธอรู้สึกว่า ตัวเองไม่ได้รับความยุติธรรมเอาเสียเลย
.
ด้วยเหตุนั้น เลเกอร์จึงอธิบายว่า เพราะหัวหน้าหรือผู้จัดการไม่มีเวลามาตามดูงานของพนักงานทุกคนตลอดเวลา ฉะนั้น ถ้าเราไม่แสดงออกมาให้คนอื่นเห็นอย่างชัดเจนว่า ตัวเองมีความสามารถอย่างไร และสามารถทำอะไรได้บ้าง ก็เท่ากับว่า เรากำลังคาดหวังให้พวกเขาบังเอิญมาเห็นผลงานของเราเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยากมาก หรือแทบจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย
.
ดังนั้น คนที่ก้าวหน้าในอาชีพการงานจึงเป็นคนที่แสดงให้หัวหน้าเห็นว่าตัวเองสร้างผลงานอะไรได้บ้าง ซึ่งนั่นไม่ใช่การโอ้อวด แต่เป็นการเน้นย้ำให้หัวหน้าจดจำได้ พร้อมกับทำให้ตัวเองมั่นใจว่าจะไม่ถูกลืมนั่นเอง
.
.
5 วิธีโชว์ความสามารถและผลงานอย่างชาญฉลาด
.
แม้หลายคนจะมองว่า การพูดถึงความสามารถหรือผลงานของตัวเองให้คนในที่ทำงานฟังบ่อยๆ นั้นแทบไม่ต่างอะไรกับการโอ้อวด แต่ ‘ซารา สเปนเซอร์ (Sara Spencer)’ โค้ชชาวอเมริกันผู้เชี่ยวชาญในการให้ความรู้ด้านภาวะความผู้นำ ก็ได้แนะนำวิธีโชว์ความสามารถและผลงานอย่างชาญฉลาด โดยไม่ให้ดูเป็นการโอ้อวดเอาไว้ ดังต่อไปนี้
.
1. พูดถึงผลลัพธ์พร้อมบทบาทของตัวเอง โดยแทนที่จะพูดว่า “ฉันเป็นคนทำให้งานนี้สำเร็จ” เราอาจพูดว่า “ฉันนำทีมในการพัฒนาโปรเจกต์นี้จนสำเร็จ” เพราะการพูดแบบนี้ นอกจากจะช่วยแสดงให้เห็นว่าเรามีทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่นแล้ว ยังถือเป็นการเน้นบทบาทที่เรามีด้วย แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องระบุบทบาทของตัวเองให้ชัดเจน เช่น “ฉันเป็นผู้นำ…” “ฉันออกแบบ…” เป็นต้น เพื่อให้หัวหน้าเห็นว่า เรามีส่วนสำคัญในความสำเร็จนั้น ไม่ได้แค่เป็นสมาชิกทีมธรรมดาๆ
.
2. อัปเดตความคืบหน้าอย่างสม่ำเสมอ อย่ารอจนงานเสร็จค่อยรายงานหรือแจ้งให้ทราบ แต่ให้คอยแจ้งความคืบหน้าเป็นระยะๆ เช่น รายงานว่าปัญหาที่พบเจอก่อนหน้านี้ถูกแก้ไขไปแล้วอย่างไรบ้าง เพราะวิธีนี้จะทำให้หัวหน้าเห็นทั้งความสามารถ ความก้าวหน้า และอุปสรรคที่เราจัดการได้
.
3. พูดในที่ประชุม แม้หลายคนอาจจะชอบนั่งเงียบในที่ประชุม เพราะคิดว่าแค่ฟังก็เพียงพอ แต่การพูดแสดงความคิดเห็นหรือถามคำถาม จะทำให้หัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานให้ความสำคัญและจดจำเราได้ นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมยังแสดงให้คนอื่นเห็นได้ว่าเราคิดวิเคราะห์ตามอยู่ตลอดนั่นเอง
.
4. ใช้เทคนิค ‘Strategic Echoing’ ซึ่งเป็นการต่อยอดไอเดียของคนอื่น โดยเชื่อมโยงกับความรู้ของตัวเอง เช่น ถ้าเพื่อนร่วมงานขอคำแนะนำเกี่ยวกับการทำโปรเจกต์ เราก็อาจเสนอวิธีที่ช่วยให้โปรเจกต์ประสบความสำเร็จได้ โดยยกตัวอย่างจากโปรเจกต์ที่เราเคยทำสำเร็จมาก่อน เพราะวิธีนี้จะช่วยแสดงให้คนอื่นเห็นถึงประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของเรา
.
5. แสดงความขอบคุณเมื่องานสำเร็จ และหมั่นยกย่องผลงานของคนอื่นอยู่เสมอ เพราะการแสดงความขอบคุณไม่เพียงแต่สร้างบรรยากาศในการทำงานที่ดีเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์และความสัมพันธ์ดีๆ อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่า เราเห็นคุณค่าของทีมด้วย
.
.
แม้การตั้งใจทำงานและหมั่นสร้างผลงานที่ดีอยู่เสมอจะเป็นสิ่งสำคัญในการทำงาน แต่การสร้างการรับรู้ก็สำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้น เราจึงควรรู้จักแสดงผลงานของตนเองให้เป็นที่ประจักษ์บ้าง เพราะนั่นถือเป็นการสร้างความมั่นคงในอาชีพรูปแบบหนึ่ง ขอแค่รู้จักเลือกใช้วิธีโชว์ผลงานอย่างชาญฉลาด เพียงเท่านี้เราก็กลายเป็นที่โดดเด่นในที่ทำงานได้แล้ว
.
.
อ้างอิง
- If No One Sees You, No One Promotes You—Be Seen, Be Valued : Benjamin Laker, Forbes - https://bit.ly/4hx2EYF
- How to Showcase Your Achievements Without Bragging : Sara Spencer, Linkedin - https://bit.ly/4iCJf9G
.
.
#trend
#worklife
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast