การเมือง

“ชูวิทย์” แฉยับ ทุนจีนสีเทา ภาค 2 มอง “สันธนะ” ทรยศชาติ ฮั้วผลประโยชน์นายทุนจีน

THE ROOM 44 CHANNEL
เผยแพร่ 08 พ.ย. 2565 เวลา 08.20 น.

“ชูวิทย์” เปิดหมดเปลือก ทุนจีนสีเทา ภาค2 แฉบริษัทศูนย์เหรียญ ผู้ถือหุ้นจีน 100% ชนะการประมูลมิเตอร์ไฟฟ้า 1,500 ล้านบาท พร้อม เปิดโปง “สันธนะ” เสียผลประโยชน์หนัก ฮั้วนายทุนจีน

เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2565 เวลา 13.00 น. ที่ โรงแรม เดอะ เดวิส กรุงเทพ สุขุมวิท 24 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและนักธุรกิจชื่อดัง แฉหมดเปลือก “ทุนจีนสีเทา” ภาค 2 พร้อมเปิดโปงพฤติกรรม นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ระบุว่าเป็นตำรวจที่ตำรวจด้วยกันไม่เอา ภายหลังนายชูวิทย์ ถูกกล่าวหาว่าโรงแรม เดอะ เดวิส เปิดผับเกินเวลา และมั่วสุมเสพยาเสพติด เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นายชูวิทย์ กล่าวว่า “บริษัทศูนย์เหรียญ” ในประเทศไทย แบ่งเป็น 2 ประเภท คือมีคนไทย 51% และต่างด้าว (จีน) 49% แต่ปัจจุบันพบว่า บริษัท อักษรย่อ H ซึ่งจดทะเบียนตั้งแต่ปี 2543 เป็นบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ ปัจจุบันปี 2565 มีผู้ถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวเป็นต่างด้าว (คนจีน) 100%

รวมทั้งที่ผ่านมาไม่นาน บริษัทได้ชนะการประมูลมิเตอร์ไฟฟ้า เป็นจำนวน 1,500 ร้อยล้านบาท ซึ่งมีหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเกี่ยวข้อง และเป็นหน่วยงานหลัก

นอกจากนี้ บริษัทดังกล่าวยังมีการเพิ่มทุนเรื่อยๆ และเพิ่มผู้ถือหุ้น ทราบมาว่าเปลี่ยนผู้ถือหุ้นทุก 7 วัน ทั้งนี้ ยังชนะการประมูลทุกงาน เป็นคู่ค้ารัฐวิสาหกิจมาตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปี และมีหน่วยงานอื่นๆ เกี่ยวข้องอีกมาก

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า ภาครัฐต้องรีบจัดการทุนจีนเหล่านี้อย่างเร่งด่วน เพราะเป็นเหลือบไรกัดกินประเทศ

สำหรับกรณี นายสันธนะ นั้น นายชูวิทย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาหากใครรู้จักนายสันธนะ ตอนนี้ติดคุกหมดแล้ว มองว่าการมาหาเรื่องตนในวันนั้น เป็นการเรียกราคา เพราะเสียผลประโยชน์จากการที่นายทุนจีนถูกจับกุม โดยประวัติของนายสันธนะ ต้องฟังจากตำรวจด้วยกัน จึงจะรู้ว่าไม่มีใครอยากคบค้าสมาคมด้วย

ส่วนการที่นายสันธนะ เสียงดังใส่ตนวันดังกล่าว มองว่า “หมามาเห่า” โดยตนถือสุภาษิต “หมากัดอย่ากัดตอบ” เพราะคนละรุ่น ที่ผ่านมาตนมีบาดแผลเต็มตัว ติดคุกมา 3 รอบ ไม่กลัวอะไร อยากชนก็เข้ามาชน การที่นายสันธนะ มีผลประโยชน์กับนายทุนจีน มองว่าเป็นคนทรยศประเทศชาติ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อยากสอนนายสันธนะว่า หากจะเป็นนักแฉการพูดต้องมีสาระ ไม่ใช่เอาเสียงดังข่ม แต่หลักฐานสร้างขึ้นมา ใช้คนมาสร้างสถานการณ์แล้วอัดคลิป ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่นายสันธนะ มาหาตนที่โรงแรม ก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยอีก เพราะไม่อยากพูดคุยด้วย มองว่านายสันธนะเหมือน “สกังค์” เข้าใกล้ใครเขาก็หนีหมด

ดูข่าวต้นฉบับ