“ดิเรกฤทธิ์” บี้กกต.ส่งศาล รธน. ตีความคดีหุ้นไอทีวี “พิธา” เผย ส.ว.ห่วงหากเลือกคนขัดคุณสมบัติ อาจมีความผิดเอง ชี้ช่องขอเลื่อนโหวตนายกฯ 13 ก.ค. รอให้คดีมีความชัดเจนก่อน
ที่รัฐสภา นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ส.ว. กล่าวถึง กกต.เตรียมส่งเรื่องหุ้นไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย อาจส่งผลกระทบต่อการโหวตนายกฯ ในวันที่ 13 ก.ค.ว่า เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะการโหวตเลือกนายกฯ นั้น สมาชิกรัฐสภาต้องเลือกผู้มีคุณสมบัติ ไม่มีลักษณะต้องห้าม จึงต้องพิจารณาว่า นายพิธา มีคุณสมบัติในวันที่จะโหวตเลือกหรือไม่ ดังนั้นหน้าที่ กกต. ที่เป็นหน่วยงานกลั่นกรองเบื้องต้นจะต้องรีบส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพื่อให้ความเป็นธรรมกับนายพิธาด้วย มิเช่นนั้นการโหวตนายกฯวันที่ 13ก.ค. จะเกิดการอภิปรายอย่างกว้างขวาง คนที่เลือก ถ้าเลือกไปจะไปขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้านายพิธาขาดคุณสมบัติ แล้วยังไปเลือก อาจผิดรัฐธรรมนูญได้ จะมีโทษทางอาญาด้วย ถือเป็นหัวใจสำคัญที่สมาชิกรัฐสภาใช้ประกอบการตัดสินใจให้ความเห็นชอบหรือไม่ ทั้งนี้เมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่อง ควรสั่งเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยด่วน เช่น มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวหรือไม่
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาเคยระบุ จะโหวตให้ผู้ได้เสียงข้างมาก แต่นายพิธาถูกยื่นตีความเรื่องคุณสมบัติ ส.ส. ยังยืนยันโหวตให้เหมือนเดิมหรือไม่ นายดิเรกฤทธิ์ตอบว่า จุดยืนตนประกาศต่อสาธารณะ ต้องประคับประคองประชาธิปไตยเคยประกาศไว้คือ
1.ส.ส.รวมกันเป็นเสียงข้างมาก เมื่อสภาฯมีหน้าที่เลือกรัฐบาล เราควรสนับสนุน
2.ต้องมีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ 2 เดือนที่ผ่านมา มีการร้องกล่าวโทษนายพิธา ถ้าไม่ผ่านคุณสมบัติ ก็เลือกไม่ได้ สุ่มเสี่ยงจะทำผิดรัฐธรรมนูญเอง ถือเป็นประเด็นสำคัญ อาจไม่ต้องถกเถียงกันว่าจะสามารถขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความสงบเรียบร้อยได้หรือไม่ การที่นายพิธา ถูกยื่นตีความ ไม่ใช่มีผลต่อการพิจารณาของ ส.ว. แต่มีผลต่อการพิจารณาทั้งสภาฯ ประเด็นนี้จะมีคนยกขึ้นมาว่ามาตรา 272 ห้ามเลือกคนขาดคุณสมบัติ มีลักษณะต้องห้าม ถ้า ส.ส.-ส.ว.ไปเลือก ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่า ขาดคุณสมบัติ จะทำผิดรัฐธรรมนูญ ต้องรับโทษเสียเอง ส่วนจะทำให้สถานการณ์รัฐสภาตึงเครียดหรือไม่ เป็นไปตามกลไกกฎหมายที่ต้องเคารพ และองค์กรที่เกี่ยวข้องในการพิจารณา ต้องทำให้กระจ่าง เมื่อถามว่า จะต้องเลื่อนโหวตนายกฯในวันที่ 13 ก.ค.หรือไม่ นายดิเรกฤทธิ์ตอบว่า ขึ้นอยู่กับรัฐสภา และสมาชิก 750 คน จะเห็นประเด็นว่า ถ้าเลือกแล้วไม่มีปัญหาทั้งสภาฯ ก็เดินต่อไปได้ แต่ถ้าเห็นว่าเลือกแล้วมีปัญหา สามารถใช้มติรัฐสภาเลื่อนได้ ถ้ามีเหตุผลจำเป็นเหมาะสม เพื่อประโยชน์การทำงานของประเทศ