ตำรวจแจงยิบ ทุกประเด็นคาใจ หลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการสรุปคดี แตงโม นิดา ตกเรือ ยันไม่มีการพูดว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่เป็นเรื่องของการประมาทจนเป็นเหตุให้มีคนเสียชีวิต แต่ประมาทอย่างไรนั้น พูดไม่ได้
หลังตำรวจแถลงสรุปคดี แตงโม นิดา มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการสรุปคดีที่อาจไม่ตรงใจของใครหลายคน แต่ทางตำรวจยืนยันจากพยานหลักฐานว่า เกิดจากความประมาท
ล่าสุด (27 เม.ย.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ ถกไม่เถียง ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ หลังจากที่ตำรวจได้มีการแถลงสรุปคดีแตงโม และเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย
- ตำรวจขออภัยปม ‘ภาพโป๊ะแตก’ ยันไม่มีผลให้สาระสำคัญทางคดีเปลี่ยน!
- ‘อีเจี๊ยบ’ ฟาดต่อ! หลังฟังตำรวจแถลงปมภาพ ‘โป๊ะแตก’ บอกสั้น ๆ ตูงง!!
- งัด GPS สำคัญโชว์! คนถอดรหัส ชี้ ความเร็วเรือดูดร่าง ‘แตงโม’ จริง
ฟังชัด ๆ ตำรวจแจงยิบ ทุกประเด็นคาใจ สรุปคดี แตงโม ตกเรือ หลังทัวร์ลงยับ!
พล.ต.ต.ยิ่งยศ เผยว่า คดีแตงโมตกเรือนั้น ทางตำรวจไม่มีการพูดว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่เป็นเรื่องของการประมาทจนเป็นเหตุให้มีคนเสียชีวิต แต่ประมาทอย่างไรนั้น พูดไม่ได้
เรื่องภาพตำแหน่งการยืนของคนบนเรือ ในช่วงเวลาเดียวกับที่นายอัจฉริยะเอามาเปิด ซึ่งไม่ตรงกับทางตำรวจนั้น ตนไม่ยืนยันที่มาของภาพที่นายอัจฉริยะนำมาเผยแพร่ ส่วนภาพที่ทางตำรวจแสดงให้ดูนั้น ได้รับการยืนยันจากทางการ ก่อนจะวิเคราะห์ว่าใครเป็นใคร อยู่ตรงไหน ต้องวิเคราะห์จากเหตุผล จากพยานหลักฐานหลาย ๆ อย่าง เช่นคลิป ภาพจากบุคคลก่อนหน้านั้น คลิปจากคนละแวกใกล้เคียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งดีเอ็นเอบนเรือ ก่อนหน้าเกิดอะไรขึ้น เรามีหลักฐานทั้งก่อนและหลัง เพราะเราเชื่อว่าน่าจะเป็นแบบนี้ แต่เราเชื่อบนพื้นฐานจากพยานหลักฐานที่เรามี
กว่าจะมาสรุปได้ว่าตำแหน่งต่าง ๆ เป็นของใคร ทั้งก่อนหน้ามีอะไรเกิดขึ้น ตอนหลังมีอะไรเกิดขึ้น พบหลักฐานว่ามีใครอยู่ตรงจุดไหนบ้าง โดยเอาหลักฐานต่าง ๆ มาวิเคราะห์ร่วมกัน ทั้งคลิป ทั้งภาพนิ่ง ทั้งการสื่อสารของคนบนเรือ และดีเอ็นเอ อันนี้คือหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยมีผู้ชำนาญการสารพัดผู้เชี่ยวชาญที่มาร่วมวิเคราะห์ด้วย ถ้าตนเอาคนที่พิสูจน์ได้แต่ไม่มีอำนาจหน้าที่มาดำเนินการ ศาลที่ไหนจะรับฟัง เราสันนิษฐานจากพยานหลักฐานต่าง ๆ มาประกอบด้วย ทั้งพยานแวดล้อม สัญญาณจีพีเอส คำให้การณ์ พยาน ผู้เชียวชาญ ดังนั้นไม่สามารถฟันธงจากคลิปอันเดียวได้เลย
สำหรับเรื่องบาดแผลของ แตงโม ที่มีการวิเคราะห์ว่าเป็นการตกจากท้ายเรือนั้น พล.ต.ต.ยิ่งยศ เผยว่า มันมีทั้งความเป็นไปได้และความเป็นไปไม่ได้ ทางตำรวจมีการใช้ทีมงานหลายทีมมาวิเคราะห์ร่วมกัน ร่วมกับงานวิจัย case study จากต่างประเทศ แต่ก็เอาไปวิเคราะห์กับพยานแวดล้อมอย่างอื่นด้วย
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุมีคนบนเรือโทรหาพรรคพวก ว่าแตงโมตกลงตรงนี้ เวลานี้ ซึ่งมีประวัติการโทรเมื่อเวลา 22.30 น. ต่อมาอีก 10 นาทีกว่า ๆ มีการโทรขอความช่วยเหลือ หลังจากพยายามวนเรือหากันเอง แต่ทางตำรวจก็ไม่ได้เชื่อตามคำให้การของเขา แต่ได้มีการทดสอบสิ่งที่เกิดขึ้นจากความน่าจะเป็น ประกอบกับคำให้การ พยานแวดล้อม หลักฐานอื่น ๆ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ดู case study จากต่างประเทศหลายเคส จึงสรุปออกมาเป็นความน่าจะเอ็นในลักษณะนี้
เรื่องบาดแผลที่มีลักษณะเป็นรอยตัดจนถึงเอ็น จนทำให้ไม่สามารถงอขาช่วยเหลือตัวเองได้ เป็นรอยแผลขนาดใหญ่ คุณหมอที่มาร่วมวิเคราะห์บอกว่า ถ้ามีบาดแผลในลักษณะนี้ ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย เนื่องจากบาดแผลมีความสาหัสอย่างมาก แตงโม ไม่สามารถตะเกียกตะกายได้ หลักฐานมีทั้งทำให้เห็นด้วยและเห็นต่าง แต่ไม่สามารถเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ต้องนำน้ำหนักพยานมาชั่ง ว่าอันไหนเชื่อได้มากกว่ากัน เพื่อหาความเป็นไปได้ที่มากที่สุด จากพยานหลักฐานทั้งหมด เราเชื่อว่าตกท้ายเรือ
ประเด็นเส้นผมที่เจอบนเรือ มีการเก็บได้มากกว่า 3 เส้น แต่มีเพียง 3 เส้น ที่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นของแตงโม ส่วนที่เหลือไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากไม่มีรากผม หลังเกิดเหตุแรก ๆ ที่ไม่พบเส้นผม เพราะอาจมีการหลบตัว เนื่องจากเส้นผมเปียกอาจไปติดตามซอกหลืบ ทำให้ไม่สามารถหาเจอได้
ส่วนที่มีการตรวจเรือถึง 4 ครั้งนั้น ตรวจครั้งที่ 1 เพราะมีคนแจ้งว่ามีคนตกเรือ เป็นการตรวจเพื่อพิสูจน์ว่าเรือลำนี้เป็นเรือลำที่เกิดเหตุจริงไหม หลังจากสอบปากคำแล้ว จึงนำมาสู่การตรวจครั้งที่ 2 เพราะว่ามีคนบอกว่าแตงโมจะไปปัสสาวะท้ายเรือ จึงไปตรวจเพื่อให้แน่ใจว่าห้องน้ำใช้ไม่ได้จริงไหม ตรวจครั้งที่ 3 ศพแตงโมมีบาดแผล จึงไปตรวจเรืออีกครั้งเพื่อหาร่องรอยการทำร้ายร่างกาย ซึ่งเป็นการตรวจตอนกลางคืน เพื่อดูคราบเลือด ว่ามีร่องรอยการทำร้ายร่างกายกันจริงหรือเปล่า และครั้งที่ 4 แพทย์ลงความเห็นว่า แผลเกิดจากของมีคม จึงไปตรวจว่าของมีคมอะไรบ้างที่เข้ากับบาดแผล เป็นการตรวจแบบละเอียด จึงไปพบเข้ากับเส้นผมที่ซ่อนอยู่บริเวณซอกหลืบของเรือ ส่วนตัวดูว่า ยังไงก็มองไม่เห็น ยังไงก็ต้องขยายดูถึงจะเห็นได้ชัดเจน
และที่เจอเส้นผมในครั้งที่ 4 นั้น มันมีความเป็นไปได้ว่าสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป ทำให้เส้นผมที่เคยซ่อนตัวอยู่อาจจะถูกเปลี่ยนลักษณะทางกายภาพ ทำให้สามารถหาได้ง่ายมากกว่าในครั้งแรก ๆ ซึ่งการตรวจพบเส้นผมช้า อาจจะทำให้น้ำหนักพยานหลักฐานลดน้อยลง แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงได้ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของคดีได้
ประเด็นบาดแผลของแตงโม ทางตำรวจได้มีการตรวจบนเรือแล้ว ไม่พบว่ามีคราบเลือดบนเรือ มีการตรวจใบพัดเรือ ในวันที่ตรวจครั้งที่ 4 เพื่อไปตรวจว่าใบพัดกับแผลเข้ากันได้ไหม พบว่ามีโอกาสเข้ากันได้ แต่ใบพัดแช่อยู่ในน้ำนาน อาจเกิดการชะล้าง มีความเป็นไปได้ที่จะตรวจไม่พบ DNA ของแตงโม ที่ขาของแตงโม มีเศษของใบพัดหรือไม่ ไม่สามารถยืนยันได้ ใบพัดแข็งแรงมาก เป็นเหล็กกล้า สนิมยังไม่เป็นเลย โดยส่วนตัวจึงคิดว่าไม่น่าจะมีเศษใบพัดอยู่ในแผลแตงโม เพราะใบพัดแข็งแรงมาก แต่เมื่อตรวจลักษณะบาดแผลของแตงโมกับใบพัดพบว่ามีความเข้ากันได้ ซึ่งคำยืนยันของแพทย์ต้องนำไปยืนยันในชั้นศาล
ขอบคุณที่มา รายการ ถกไม่เถียง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
A โก้ ตายแล้วคุณตำรวจ สรุปคือไม่รู้ใช่มั่ยคะ
28 เม.ย. 2565 เวลา 15.49 น.
🐕 ซื่อสัตย์กว่า 🧑 ขุดหลุมฝังตัวเองนะคะ
28 เม.ย. 2565 เวลา 14.54 น.
ถนัดศิลป์ เป็นงง V งงเป็น
28 เม.ย. 2565 เวลา 18.21 น.
ปณพ หา ผม คนอื่น ไม่เจอ เจอ แต่ แตงโม
29 เม.ย. 2565 เวลา 10.54 น.
ดูทั้งหมด