หุ้น การลงทุน

เปิดไทม์ไลน์ วิกฤติหุ้น RS มูลค่าบริษัทวูบ 8,533 ล้านบาท

การเงินธนาคาร
อัพเดต 10 ม.ค. เวลา 17.33 น. • เผยแพร่ 10 ม.ค. เวลา 10.24 น.

หุ้น RS หรือ บมจ. อาร์เอส เผชิญวิกฤติโดนถล่มขายจากปมผู้ถือหุ้นใหญ่ถูกบังคับขาย (Forced Sell) หุ้น ส่งผลให้มูลค่าบริษัทหรือมาร์เก็ตแคป หายวับกว่า 8,000 ล้านบาท ภายในเวลาเพียง 4 วัน

มูลค่าบริษัท RS ลดลงเหลือ 3,142 ล้านบาท จากที่เคยสูงถึง 11,167 ล้านบาท ลดลง 8,533 ล้านบาท หรือหายไปกว่า 73 % ในเวลาเพียงแค่ 4 วัน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

หุ้น RS ราคาปิด 5.35 บาท ในวันที่ 6 ม.ค. เหลือ 1.42 บาท (ราคาปิดภาคเช้าวันที่ 10 ม.ค.) หลังราคาร่วงติดฟลอร์ -30 % ติดต่อกัน 3 วัน ( 7-9 ม.ค. ) และวันที่ 10 ม.ค. ปรับลงอีกกว่า 20 % ในภาคเช้า

การเงินธนาคาร จะพาไปย้อนไทม์ไลน์ วิกฤติหุ้น RS

6 มกราคม 2568

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

มีกระแสข่าวลือผู้ถือหุ้นรายใหญ่นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ หรือเฮียฮ้อ ผู้ก่อตั้งและ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RS ที่ถือหุ้น 22.32% หรือ 487 ล้านหุ้น และถือหุ้นใน บมจ. อาร์เอสเอ็กซ์วายแซด (RSXYZ) สัดส่วน 16.35% หรือ 257 ล้านหุ้น ถูกบังคับขายหุ้น

ในวันดังกล่าวราคาหุ้น RS ปิดตลาดที่ 5.35 บาท ลดลง 0.05 บาท หรือ 0.93% ส่วนหุ้น RSXYZ ปิดที่ 1.55 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

7 มกราคม 2568

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

หุ้น RS ยังเผชิญแรงขายอย่างหนัก จากราคาเปิดที่ 5.35 บาท มีแรงเทขายถล่มจนราคาร่วงติดฟลอร์ที่ 3.74 บาท ลดลง 1.61 บาท หรือ -30.09%

หุ้น RSXYZ ราคาเปิดซื้อขายที่ 1.55 บาท ปิดที่ราคา 1.15 บาท ลดลง 0.40 บาท หรือ -25.81%

นายรองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกฎหมาย และโฆษก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า กรณีหุ้น RS ที่ปรับตัวลงแรง 2 วันติดต่อกันนั้น จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่ามีการนำหุ้นไปวางเป็นหลักประกันมาร์จิ้นโลนจำนวน 222 ล้านหุ้น มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท

ในวันดังกล่าวนั้น ตลท.ระบุว่ายังไม่ได้ส่งหนังสือไปยัง RS ให้มีการชี้แจงแต่อย่างใด เนื่องจากการนำหุ้นไปวางเป็นหลักประกันมาร์จิ้นโลนถือเรื่องของผู้ถือหุ้นเอง และหุ้นถือเป็นสินทรัพย์ส่วนบุคคลจะนำไปทำเช่นไรก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล โดยตลท.มีหน้าที่เพียงกำกับดูแลและการเปิดข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนเท่านั้น

วันที่ 8 มกราคม 2568

หุ้น RS ดิ่งฟลอร์วันที่ 2 ติดต่อกัน ที่ 2.60 บาท ลดลง 1.41 บาท หรือ -30.48% ด้าน RSXYZ ราคาเปิดซื้อขายที่ 0.83 บาท ปิดที่ราคา 0.80 บาท ลดลง 0.35 บาท หรือ -30.43%

RS ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าราคาหุ้นของบริษัทที่ปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมา เกิดจากกลไกของตลาดและปัจจัยภายนอก ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและสถานะทางการเงินของบริษัท

สำหรับข่าวจากสื่อมวลชนบางสำนักที่ระบุว่าผู้บริหารของบริษัทมีการขายหลักทรัพย์ Forced sell บริษัทไม่ทราบถึงประเด็นดังกล่าว และกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง

นอกจากนี้บริษัทยืนยันว่าไม่มีปัจจัยภายในที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและการดำเนินงานของบริษัทยังเดินหน้าไปตามวิสัยทัศน์และแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ในปี2568

RS ย้ำว่าบริษัทยังคงมุ่งมั่นมองหาโอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอตามพันธกิจที่มีเป้าหมายสำคัญในการยกระดับความสุขและความเป็นอยู่ที่ดี (Life Enriching) พร้อมดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส เพื่อให้ทุกธุรกิจในเครือเติบโตอย่างยั่งยืน

บล.กรุงศรี ประเมินว่า หากดูผลประกอบการของ RS พบว่าปี 2567 ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี 25 67 มีกำไรเพียง 12 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรกว่า 1,000 ล้านบาท

อีกทั้ง RS มีภาระหนี้สินที่ครบกำหนดชำระในระยะเวลา 1 ปีข้างหน้า กว่า 500 ล้านบาท แต่หากดูรายการเงินสดเทียบเท่าเงินสด ปัจจุบันอยู่ที่ราว 300 ล้านบาท สะท้อนความเสี่ยงที่อาจมีเงินไม่พอในการชำระคืนหนี้ดังกล่าวในอนาคตได้

อย่างไรก็ตาม RS ก็มีแนวทางดำเนินการได้หลายทาง เช่น รีไฟแนนซ์ หรือ การกู้เงินก้อนใหม่เพื่อมาชำระหนี้ดังกล่าว รวมถึงสามารถใช้เครื่องมือทางการเงินอื่นๆ เช่น การเพิ่มทุน แต่ทั้งนี้หากผลประกอบการไตรมาส 4/67 ที่จะรายงานออกมาในช่วงเดือน ก.พ.นี้ ออกมาดี ก็จะลดความเสี่ยงของประเด็นดังกล่าวลงได้

9 มกราคม 2568

หุ้น RS ยังอยู่ในวิกฤติ เปิดซื้อขายที่ 1.81 บาท ปิดที่ราคา 1.81 บาท ลดลง 0.79 บาท หรือ -30.38%

หุ้น RSXYZ ราคาเปิดซื้อขายที่ 0.85 บาท ปิดที่ราคา 0.96 บาท เพิ่มขึ้น 0.16 บาท หรือ +20.00%

RS ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงประเด็นพัฒนาการที่สําคัญของบริษัทเพิ่มเติม เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับผู้ลงทุนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

RS ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบของบริษัทพบว่า ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเกิดจากธุรกรรมทางการเงิน ส่วนบุคคลของผู้บริหาร ซึ่งใช้หุ้นจํานวนหนึ่งเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสําหรับธุรกรรมทางการเงินส่วนบุคคล เมื่อราคาหุ้น ปรับลดลง จึงเกิดการขายหลักทรัพย์ตามเงื่อนไข Forced sell ขณะที่อีกสาเหตุหนึ่งเกิดจากปัจจัยภายนอกและกลไกตลาด

นอกจากนี้ RS ยืนยันว่าธุรกรรมดังกล่าวที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับการดําเนินงาน และสถานะทางการเงินของบริษัท รวมทั้งไม่มีปัจจัยภายในที่ส่งผลกระทบต่อการดําเนินธุรกิจ และบริษัทยังเดินหน้าตามวิสัยทัศน์และแผนกลยุทธ์ที่วางไว้

ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัทได้ตระหนักถึงความสําคัญของเสถียรภาพในการบริหารและความมั่นคงของบริษัทและ อยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อออกมาตรการและทบทวนนโยบายการกํากับดูแลกิจการตามหลักธรรมาภิบาล รวมถึงการปรับปรุงนโยบายการบริหารความเสี่ยง เพื่อป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันและเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อ ผู้มีส่วนได้เสียในอนาคต

10 มกราคม 2568

ราคาหุ้น RS ร่วงต่อวันที่ 4 โดยเปิดตลาดที่ 1.70 บาท มีแรงซื้อและแรงขายเข้ามาอย่างหนาแน่น จนทำให้ราคาขึ้นไปสูงสุดที่ 1.81 บาท ในระหว่างการซื้อขายร่วงหนักไหลลงต่ำสุดที่ 1.27 บาท ก่อนกระเตื้องขึ้นมาปิดที่ 1.32 บาท หรือลดลง 27.07%

หุ้น RSXYZ ราคาร่วงตามจากราคาเปิดที่ 0.90 บาท และทำราคาต่ำสุดที่ 0.68 บาท และราคามาอยู่ที่ 0.73 บาท ลดลง 23.96%

ผลประกอบการย้อนหลังของ RS ในปี 2565 มีรายได้รวม 3,549 ล้านบาท กำไรสุทธิ 137 ล้านบาท ปี 2566 มีรายได้รวม 3,805 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,395 ล้านบาท และงวด 9 เดือนแรกปี 2567 มีรายได้รวม 2,767 ล้านบาท กำไรสุทธิ 12 ล้านบาท

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับ สถานการณ์หุ้นไทย-ตลาดหุ้นไทย ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 1
  • คุณหมี
    โดนเล่นซะแล้ว...
    11 ม.ค. เวลา 02.32 น.
ดูทั้งหมด