วันนี้ (12 ก.พ.) นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่ากทม.และอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความแสดงความเห็นกรณีข่าวการเจรจารถไฟความเร็วสูงไทย-ญี่ปุ่น โดยระบุว่า ไม่แปลกใจ! ถ้าญี่ปุ่นไม่ร่วมลงทุน “ชินคันเซ็น” กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ มีรายละเอียดดังนี้
ผมไม่แปลกใจเลยที่มีข่าวว่ารัฐบาลญี่ปุ่นปฏิเสธที่จะร่วมลงทุนกับรัฐบาลไทยในการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ตามข้อเสนอของรัฐบาลไทย แม้กระทรวงคมนาคมของไทยได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง และยังไม่มีการเจรจาเรื่องการลงทุนแต่ประการใดก็ตาม เนื่องจากผมเคยเขียนบทความเรื่อง “ฟันธง! ไฮสปีดเชียงใหม่ ญี่ปุ่นจะไม่ร่วมลงทุน” ไว้เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2558 โดยมีใจความสรุปได้ดังนี้
การศึกษาความเป็นได้ของโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีของญี่ปุ่นที่เรียกกันว่า “ชินคันเซ็น” ทั้งโดยรัฐบาลไทยและรัฐบาลญี่ปุ่นได้ผลลัพธ์ตรงกันว่า ผลตอบแทนทางการเงิน (Financial Internal Rate of Return หรือ FIRR) ไม่คุ้มค่ากับเงินลงทุน ด้วยเหตุนี้ ผมจึงคาดการณ์ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะไม่ร่วมลงทุนกับรัฐบาลไทยเพื่อก่อสร้างชินคันเซ็น กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เพราะไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยงร่วมกับรัฐบาลไทย แต่รัฐบาลญี่ปุ่นจะให้รัฐบาลไทยกู้เงิน รวมทั้งจะรับเหมาก่อสร้าง ขายขบวนรถไฟ และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
นอกจากเหตุผลดังกล่าวแล้ว รัฐบาลญี่ปุ่นได้เห็นตัวอย่างการลงทุนก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา โดยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน แต่รัฐบาลไทยลงทุนเองทั้งหมด 100% โดยรัฐบาลจีนไม่ต้องร่วมลงทุนเลย แต่จีนจะรับจ้างก่อสร้างงานบางส่วนที่ผู้รับเหมาไทยไม่ถนัด อีกทั้ง จีนจะขายขบวนรถไฟ รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะทำให้ จีนไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงในกรณีที่โครงการขาดทุน แต่จีนจะได้รับประโยชน์จากการได้งานก่อสร้าง การขายขบวนรถไฟและวัสดุอุปกรณ์ รวมทั้งการมีเส้นทางออกทะเลเพิ่มอีกเส้นทางหนึ่ง
ในกรณีของรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ซึ่งจะมีการต่อเส้นทางไปถึงหนองคาย จะทำให้ได้เส้นทางเชื่อมกับลาวและจีน เส้นทางนี้จีนจะได้รับประโยชน์ด้วย แต่จีนก็ไม่ต้องร่วมลงทุน ดังนั้น เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ซึ่งญี่ปุ่นไม่ได้รับประโยชน์จากเส้นทางนี้เลย แล้วจะมีเหตุผลใดที่ญี่ปุ่นจะร่วมลงทุนด้วย ด้วยเหตุนี้ ผมจึงไม่อยากให้รัฐบาลไทยคาดหวังว่าญี่ปุ่นจะร่วมลงทุน แม้ว่าผมต้องการให้ญี่ปุ่นร่วมลงทุนด้วยก็ตาม
ความไม่พร้อมของรัฐบาลไทยในการก่อสร้างชินคันเซ็น กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ได้แสดงออกมาให้เห็นเป็นระยะๆ เช่น ต้องการลดความเร็วสูงสุดของชินคันเซ็นจาก 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง เหลือเพียง 180-200 กิโลเมตร/ชั่วโมง กลายเป็นรถไฟความเร็วปานกลาง หรือต้องการลดจำนวนสถานีระหว่างทางลง เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อลดค่าก่อสร้าง
ผมอยากเห็นชินคันเซ็น กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ที่เป็นรถไฟความเร็วสูงจริงๆ พร้อมทั้งมีจำนวนสถานีที่เหมาะสม และที่สำคัญ จะต้องมีการพัฒนาพื้นที่รอบๆ สถานี และพื้นที่ใกล้เคียงให้เป็นเมืองใหม่ เมืองอัจฉริยะ (Smart City) แหล่งพาณิชยกรรม แหล่งท่องเที่ยว ศูนย์ราชการ เมืองอุตสาหกรรม และสถาบันการศึกษา เป็นต้น ซึ่งจะช่วยทำให้มีการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น มีธุรกิจที่เกี่ยวข้องเกิดขึ้น มีการซื้อขายมากขึ้น และมีจำนวนผู้โดยสารชินคันเซ็นเพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งจะนำไปสู่การประหยัดเวลาการเดินทาง ลดการเผาผลาญน้ำมันเชื้อเพลิง ลดมลภาวะ และลดอุบัติเหตุจราจร
หากรัฐบาลทำได้เช่นนี้ ถึงแม้ว่าชินคันเซ็นจะให้ผลประโยชน์ทางตรงในรูปแบบรายได้จากค่าโดยสารไม่คุ้มค่ากับเงินลงทุนก็ตาม แต่ชินคันเซ็นก็จะช่วยให้เราได้รับผลประโยชน์ทางอ้อมในการกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดที่มีชินคันเซ็นผ่านรวมทั้งจังหวัดใกล้เคียง รัฐบาลก็จะสามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น
ผมอยากให้รัฐบาลดูตัวอย่างการก่อสร้างชินคันเซ็นเส้นทางแรกของญี่ปุ่นจากกรุงโตเกียว-โอซาก้า ซึ่งเป็นรถไฟความเร็วสูงเส้นทางแรกของโลกด้วย แม้ว่าผู้เกี่ยวข้องกับโครงการถูกเจ้าหน้าที่ของธนาคารโลกพูดถากถางว่า “ไม่มีนโยบายที่จะปล่อยเงินกู้ให้กับโครงการที่เป็นการทดลอง” เมื่อคราวที่ผู้เกี่ยวข้องเดินทางไปขอกู้เงินจากธนาคารโลก แต่สุดท้ายรถไฟความเร็วสูงเส้นทางแรกของโลกก็เกิดขึ้นจนได้จากฝีมือและการทำงานอย่างมุ่งมั่นและทุ่มเทของวิศวกรญี่ปุ่น
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงไม่อยากให้รัฐบาลถอดใจ แต่อยากให้รัฐบาลมี “ใจสู้” เดินหน้าก่อสร้างชินคันเซ็นกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ รวมทั้งพัฒนาพื้นที่รอบสถานีให้สำเร็จให้ได้ แม้ว่าเราจะต้องลงทุนเองทั้งหมดก็ตาม แต่ถ้ารัฐบาลเห็นว่าไม่มีความพร้อมทางการเงินก็ควรชะลอโครงการนี้ออกไปก่อน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ที่จะมาสานต่อ ส่วนรัฐบาลนี้ก็ควรเร่งก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา รวมทั้งพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟ และเตรียมการต่อขยายเส้นทางไปถึงหนองคายเพื่อเชื่อมโยงกับจีนให้ได้เส้นทางรถไฟความเร็วสูงที่สมบูรณ์แบบสักเส้นทางหนึ่งก่อน และที่สำคัญ จะต้องเร่งก่อสร้างรถไฟทางคู่ ขนาดรางกว้าง 1 เมตร ให้ครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด
การทำเช่นนี้ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับรัฐบาล
Tommy💖💞🥰 ปชป. ประเมินทุกโครงการไม่คุ้มครับ อาทิ ถนนวงแหวนรอบในกรุงเทพฯ รัชดาภิเษก วงแหวนรอบนอกกรุงเทพ รถไฟฟ้า บ่อบำบัดน้ำเสีย สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ประเมิรโครงการที่ทำขาดทุนว่ามีกำไรแน่ เช่น อุโมงค์ระบายน้ำ รถเมล์BRT รถดับเพลิง ไฟประดับ เพราะว่าหากินง่ายกว่าเอาใกล้มือ
ถึงว่าพรรคนี้มีแต่พูดไม่ทำ โตไปไม่แน่ใจว่าโกง
12 ก.พ. 2561 เวลา 04.21 น.
eiei อ่อ ผู้บริหารรัฐบาลตอนนี้ กำลังแดกอยู่
12 ก.พ. 2561 เวลา 04.14 น.
Pattavee ลดจำนวนสถานี ผมเห็นด้วยนะ เพราะมันจะเหมือนรถประจำทาง
ไม่งั้นจะเป็นรถไฟความเร็วสูง ระหว่างเมืองได้ยังไง
ดูรถไฟฟ้า ยิงมีสถานีมาก ยิ่งใช้เวลานานขึ้น เบื่อ
12 ก.พ. 2561 เวลา 04.02 น.
toey(ปิด31ธค นะคะ) โอกาสขาดทุนสูงเพราะคนไทยมีทัศนคติเชิงลบกับรถไฟ ต่างจากคนญี่ปุ่นที่ใช้รถไฟมากกว่ารถเมล์+taxi
12 ก.พ. 2561 เวลา 04.07 น.
Wanchai ใบจักรสองสมอ มันเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะของอำนาจอคติ
12 ก.พ. 2561 เวลา 04.04 น.
ดูทั้งหมด