ตำรวจนำตัวหนุ่มเลือดร้อนที่ด่าทอคู่กรณีหลังเกิดอุบัติเหตุขับรถเฉี่ยวชนรถกระบะขนสินค้า ย่านพุทธมณฑลสาย 4 พาหลบชาวบ้านที่ไปรอกดดันหน้าสถานีตำรวจ ไปสอบสวนดำเนินคดี ขณะที่เจ้าตัวพร้อมมารดา กราบขอโทษสังคมที่เรื่องราวบานปลายจากอาการป่วยโรคซึมเศร้า
เป็นคลิปที่ตำรวจส่งต่อให้กับสื่อมวลชนหลังนำตัวนายรชฏ หวังกิจเจริญสุข ผู้ต้องหาที่ขับรถเก๋งป้ายแดง ประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถกระบะคู่กรณี แล้วเกิดมีปากเสียงจนเรื่องราวบานปลาย ถึงขั้นด่าทอและบอกว่าเกลียดประเทศไทย และท้าทายให้มีการถอดสัญชาติ แจ้งข้อกล่าวหาฐานหมิ่นประมาทซึ่งหน้า ก่อนจะพาไปสอบสวนปากคำที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม โดยพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะไม่ให้กลุ่มชาวบ้านที่รวมตัวกันกว่า 200 คน ที่หน้าสถานีตำรวจภูธร ทราบว่ามีการย้ายสถานที่สอบสวน เพื่อความปลอดภัยของผู้ต้องหา
หลังการสอบสวนเสร็จสิ้น พันตำรวจเอกชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยพันตำรวจเอกกัมปนาท ณ วิชัย ผู้กำกับการตำรวจภูธรพุทธมณฑล ได้เปิดเผยยืนยันผลกาตสอบปากคำว่า ได้สอบปากคำ รวบรวมพบายหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีตามข้อกล่าวหาครบแล้ว คาดว่า 1-2 วันนี้ จะนำตัวส่งให้พนักงานอัยการนำไปดำเนินคดีตามกฎหมายได้ พร้อมกับเปิดโอกาสให้มารดาและนายรชฏ ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.พุทธมณฑล ได้สอบปากคำหนุ่มแว่นหัวร้อน ขณะที่มีกลุ่มประชาชนไปรวมตัวที่หน้าสถานีตำรวจเพื่อกดดัน และรอพบหนุ่มแว่นหัวร้อน แต่สถานการณ์ได้คลี่คลายลงโดยตำรวจพยายามรักษาความปลอดภัยไม่ให้เกิดการเผชิญหน้า จากนั้นตำรวจได้อัดคลิปส่งให้กับสื่อมวลชน เป็นคลิปที่หนุ่มหัวร้อนพร้อมกับแม่ กล่าวคำขอโทษ ซึ่งมีใจความว่า
เนื่องจากบุตรชายไปศึกษาในต่างประเทศเป็นเวลานาน ไม่เข้าใจวัฒนธรรมที่ดีงามของประเทศไทย ก่อนหน้านี้ก็เคยมีการอธิบายเรื่องต่างๆ ให้ฟังหลายเรื่อง แต่ก็มีความไม่เข้าใจกันอยู่ มองว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องของการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ประกอบกับบุตรชายก็มีสภาพจิตที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และอยู่ระหว่างการรักษาตัวอยู่ ซึ่งคาดว่าเหตุที่ทำให้ลูกชายเกิดความเครียด คือในวันเกิดเหตุครอบครัวจะพากันไปทำบุญที่วัด และต้องมีการจัดเตรียมสิ่งของไปทำบุญ ทำให้บุตรชายไม่ได้กินยาและพักผ่อนน้อย จนเกิดเป็นความเครียดสะสม และขอกราบขอโทษสังคมอีกครั้ง ที่ไม่ได้ดูแลบุตรชายให้ดี
ขณะที่หนุ่มแว่นหัวร้อนกล่าวว่า เรื่องทั้งหมดเพราะตนเองเป็นคนรักรถ เมื่อเกิดอุบัติเหตุจึงทำให้เกิดความเครียด ประกอบกับอาการป่วยที่เป็นอยู่ ทำให้ตนเองควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ จนเรื่องราวบานปลาย พร้อมกันนี้ก็ได้กราบขอโทษสังคมที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน
ด้านพ่อของหนุ่มหัวร้อนกล่าวว่า ลูกชายใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เพิ่งกลับมาอยู่เมืองไทยได้เพียง 1 ปี ยังไม่สามารถปรับตัวในการใช้ชีวิตของคนไทยได้มาก และค่อนข้างจะเป็นคนที่รักรถของตัวเองมาก ซึ่งตนเองยังไม่ได้เห็นคลิปดังกล่าวและรู้สึกไม่แฟร์ที่ลูกถูกให้ออกจากงาน หลังจากนี้คงจะเตือนลูกชายในเรื่องของการขับรถว่าให้รู้จักมีน้ำใจให้มากกว่านี้ และยอมรับว่าลูกป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอยู่ระหว่างการรักษาตัวอยู่
เช้าวันนี้ตำรวจจะควบคุมตัวหนุ่มแว่นหัวร้อน ไปขออำนาจศาลจังหวัดนครปฐมฝากขัง ในข้อหาหมิ่นประมาทซึ่งหน้า
Px56 สันดานครับ สันดานล้วนๆ ไม่ซ้ำเติมครับ แต่คุณต้องได้รับบทเรียนในการดูถูกแผ่นดินที่เกิดครับ ขอโทษง่ายไป
24 ต.ค. 2562 เวลา 03.12 น.
PHoo 채유권 สังคมจะไม่ให้อภัย! สิ่งที่มึงหลุดจากปากมาแต่ละอย่างมันคือจิตใต้สำนึก
24 ต.ค. 2562 เวลา 03.12 น.
อย่าอ้างว่าป่วยซึมเศร้าเลย
งั้นถ้ากรูชนรถใคร
หรือใครชนรถกรู
กรูจะบอกว่าเป็นโรคซึมเศร้า
(ถ้าเป็นแบบนี้ส่งมันกลับไปอยู่ต่างประเทศเหอะ)
ถ้าขับรถอยู่ไทยแล้วเป็นแบบนี้หัวร้อนแบบนี้ ควรใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศนะ
24 ต.ค. 2562 เวลา 03.13 น.
Jeab💚💚 โรคซึมเศร้าอีกละงั้นอีกไม่นานคงฆ่าตัวตายดูแลดีๆล่ะ
24 ต.ค. 2562 เวลา 03.10 น.
PURE ถ้ามันฆ่าคนตาย จะมาอ้างป่วยซึมเศร้าแบบนี้ได่ไหม
24 ต.ค. 2562 เวลา 03.11 น.
ดูทั้งหมด