ครูพี่เลี้ยงบิดหูเด็ก พบตำรวจทั้งน้ำตา

ครูพี่เลี้ยงถูกผู้ปกครองแจ้งความ บิดหูลูกสาว 5 ขวบฉีกเป็นแผล ล่าสุดพบตำรวจแล้ว ให้การทั้งน้ำตา เหตุจากต้องการให้เด็กอยู่ในความสงบแต่เด็กไม่เชื่อฟัง เลยเกิดอาการพลาดพลั้งไป ยันไม่มีเจตนาทำร้าย แต่เล็บมือยาวจึงทำให้เป็นแผล…

จากกรณีผู้ปกครอง พาบุตรสาววัย 5 ขวบ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา หลังถูกครูพี่เลี้ยงบิดหูข้างซ้ายจนได้รับบาดเจ็บเป็นแผล ขณะที่โรงเรียนปฏิเสธการให้ข่าว โดยที่ครูพี่เลี้ยงคนดังกล่าวยังมาทำงานปกติ ตามข่าวที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้ (เด็กหญิง 5 ขวบถูกครูบิดหูฉีก โรงเรียนยังอุบเงียบ)

ล่าสุด ช่วงบ่ายที่ผ่านมา นางสาวสกุลตรา (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ครูพี่เลี้ยง เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.กนกนันท์ สุขศรี รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา เจ้าของคดี โดยครูพี่เลี้ยงเล่าทั้งน้ำตาว่า ตนเองไม่ได้มีเจตนาทำร้ายน้อง เพียงแต่ในช่วงนั้นอาจมีอารมณ์หงุดหงิดที่เด็กไม่เชื่อฟัง เพราะต้องการให้เด็กทุกคนอยู่ในความสงบ เลยพลาดพลั้งไปทำน้องได้รับบาดเจ็บ แต่ยืนยันได้ว่ามีไม่การบิดหูหรือหยิกน้องแต่อย่างไร ที่เกิดบาดแผล คาดว่ามาจากเล็บมือของตนเองยาว จากนั้นตนเองก็ได้พาน้องไปห้องพยาบาลเพื่อทำแผล และได้ไปบอกกับครูประจำชั้นหรือที่เป็นครูหัวหน้าโดยไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด

ด้าน รองผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า นางสาวสกุลตรา เพิ่งมาทำงานเป็นครูพี่เลี้ยงได้ประมาณ 4 เดือน ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นทางโรงเรียนมีแนวทางแก้ไข และมีกระบวนการสอบสวน หากพบว่ามีความผิดก็จะมีบทลงโทษตั้งแต่สถานเบาไปยังสถานหนัก ส่วนตัวนักเรียนนั้นทางโรงเรียนมีการดูแลค่ารักษาพยาบาล ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวทางโรงเรียนมีการประชุมครูตลอดในการดูแลเด็กนักเรียน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทางโรงเรียนก็ต้องขอโทษผู้ปกครองเช่นกัน

ขณะที่พ่อของเด็กหญิง 5 ขวบ เปิดเผยว่าในเบื้องต้นตนเองไม่ได้ติดใจอะไรมากหนัก แต่เมื่อลูกสาวมาบอกว่าโดนคุณครูบิดหูจนเป็นแผลก็เลยคิดว่าครูทำเกินกว่าเหตุ และครูที่ทำร้ายลูกสาวไม่มาพูดคุยกล่าวขอโทษหรือพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์เลย ตนจึงให้แม่ของเด็กเข้าแจ้งความ ส่วนด้านคดีก็ให้เป็นไปตามกระบวนการของกฏหมาย ซึ่งตนเองอยากให้ครั้งนี้เป็นบทเรียนของครู

ด้าน ร.ต.ท.กนกนันท์ สุขศรี รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า ด้านคดีต้องรอดูผลตรวจของแพทย์ รพ.ว่าใช้เวลารักษานานหรือไม่ หากไปนานไม่เกิน 1 อาทิตย์ ก็คงเป็นคดีลหุโทษ สามารถเปรียบเทียบปรับได้ที่ สภ.เมืองพัทยาได้เลย หากใช้เวลารักษานานก็ต้องส่งฟ้องศาลเพื่อดำเนินคดี.