บันเทิง

มะหมี่ เกือบคลอดลูกแฝดที่เยอรมัน เผยเหตุเกือบไม่ได้บินกลับไทย ก่อนโควิดระบาด

The Bangkok Insight
อัพเดต 02 เม.ย. 2563 เวลา 04.18 น. • เผยแพร่ 02 เม.ย. 2563 เวลา 04.18 น. • The Bangkok Insight

ใกล้คลอดเข้าไปเต็มทีแล้ว สำหรับนักแสดงสาวสุดเซ็กซี่ มะหมี่ นภคปภา หลังจากที่เจ้าตัวประกาศข่าวดีว่าได้ตั้งท้องลูกแฝด ล่าสุดเธอได้โพสต์ข้อความเล่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่ไม่สามารถบินกลับไทยได้ เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ 'โควิด-19' และเนื่องจากเธอมีเลือดไหลไม่หยุด แถมยังมีอาการแพ้ท้องอย่างหนัก จึงต้องแอดมิทนอนอยู่ที่โรงพยาบาล จนเกือบได้คลอดที่เยอรมัน แต่พอพ้นขีดอันตรายหมอจึงออกใบรับรองแพทย์อนุญาตให้เธอเดินทางกลับประเทศไทยได้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

"พวกเราได้ลูกแฝด ❤️👩‍❤️‍💋‍👩 แม่เกือบได้คลอดที่เยอรมัน (มิวนิค) โชคดีมากๆ ทีเลือดหยุดไหล กว่าจะหยุดไหล แม่ต้องนอนโรงพยาบาลที่เยอรมันอาทิตย์กว่าห้ามขยับ ช่วงนั่นแม่ทรมานมาก พอเลือดหยุดไหล หมอออกใบรับรองแพทย์****ห้ามเดินทาง**** 😩😢😢หมอ บอกอันตราย แม่กับสามีต้องตะเวนหาอพาทเม้นที่ใกล้โรงพยาบาลเตรียมตัวเตรียมใจว่าต้องคลอดที่เยอรมัน (แอบน้ำตาไหล)

พอออกจากโรงพยาบาลได้ 1 อาทิตย์ เตรียมตัวเลือกโรงพยาบาลนัดหมอ แล้วทำการตรวจ วันนั้นรู้สึกดีใจมากเพราะหมอบอกว่าทุกอย่างดูดี สามารถเดินทางได้ 🤗❤️หมอเลยออกใบรับรองแพทย์ว่าเดินทางได้ สามีถามแล้วถามอีกว่าอยากกลับไหม ใจเราอยากกลับมากเพราะเริ่มจะหายแพ้ท้องและเริ่มอยากกินเผ็ด แต่ในใจสามีอยากให้คลอดที่เยอรมันเพราะอากาศที่เยอรมันดีกว่าเมื่องไทยไม่อยากให้กลับเพราะค่าฝุ่นเยอะมากช่วงนั้น และเป็นช่วงเริ่มต้นโรคระบาดโควิด-19 ที่จีน แต่ยังมาไม่ถึงเมืองไทย และเยอรมัน เลยบอกกับสามีว่าอยากกลับเมืองไทย อยากให้แม่ทำอาหารให้กิน สามีเลยบุคตั๋วกลับมาส่งพร้อมกัน

วันนั้นดีใจมากที่ได้กลับเมืองไทย หากคุณหมอไม่ออกใบรับรองให้แม่ตอนนั้น วันนี้แม่คงติดอยู่ที่เยอรมันเป็นแน่แท้ ไปๆมามาเยอรมันระบาดหนักกว่าไทยอีก ในความโชคร้าย ยังมีความโชคดี ที่ได้กลับมากินอาหารไทยแม้โควิด-19จะระบาดที่เมืองไทย แต่ถ้าเทียบกับเยอรมันแล้วถือว่าเมืองไทยยังไม่ระบาดหนักเท่าเยอรมัน…..#กราบขอบคุณที่พึ่งทางใจ #บทสวดมนต์ที่ทำให้เรานอนหลับ #แม่แพ้ยัน5เดือน #ตอนนี้แม่ทานได้เยอะขึ้น ไม่มีที่ไหนสุขใจเท่าบ้านเรา ❤️ #รักประเทศไทย"

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
ดูข่าวต้นฉบับ