สนุกและฟินทุกตอนจริง ๆ สำหรับละครที่ฮอตสุดในตอนนี้ จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเรื่อง " บุพเพสันนิวาส " นั่นเอง หลายคนในตอนนี้คงจะจินตนาการว่าตัวเองนั้นเป็น " แม่หญิงการะเกด " หรือ " แม่หญิงจันทร์วาด " กันอยู่ใช่ไหมล่ะ
แต่ละครเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ความบันเทิงเพียงอย่างเดียว เพราะยังสอดแทรกความคิด ความเชื่อ ภาษาโบราณ เหตุการณ์และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เอาไว้ด้วย มีหลายตัวละครที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ หนึ่งในนั้นคือ" มารี กีมาร์ " หรือ " ท้าวทองกีบม้า " หรือที่รู้จักกันในละครว่า" แม่มะลิ " หญิงสาวเชื้อสายโปรตุเกส เบงกอล และญี่ปุ่นที่พำนักอยู่ในกรุงศรีอยุธยา มีชีวิตอยู่ในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชนั่นเอง
อย่างที่หลายคนก็ทราบกันดีว่าท้าวทองกีบม้า เป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์ขนมไทยหลากหลายชนิด ซึ่งดัดแปลงมาจากขนมของโปรตุเกส จนเธอได้รับการขนานนามว่า" ราชินีแห่งขนมไทย " ไปโดยปริยาย วันนี้นอกจากเราจะมาบอกเล่าเก้าสิบถึงขนมไทยที่ได้รับการรังสรรค์จากเธอแล้ว เราจะมาบอกกันด้วยค่ะว่าขนมแต่ละอย่างนั้นมีแคลอรี่มากน้อยเท่าไหร่กัน :)
ก่อนจะได้สมญานาม " ราชินีแห่งขนมไทย " ชีวิตของเธอก็ตรากตรำมาไม่น้อย หลังจากเจ้าพระยาวิชเยนทร์ หรือ คอนสแตนติน ฟอลคอน ( รับบทโดยพี่หลุยส์ สก็อต ) โดนตัดสินโทษประหารชีวิต ( บางเอกสารก็บอกว่าเธอเสียใจกับการจากไปของสามี แต่เอกสารบางฉบับก็บอกว่าเธอสมน้ำหน้า…แรงส์ แต่ก็พอจะเดาออกใช่มั้ยคะว่าในละครตัวของแม่มะลิรู้สึกอย่างไรกับสามีของเธอ )
ใครอยากรู้เรื่องราวของท้าวทองกีบม้ามากกว่านี้ก็ไปตามหาอ่านกันได้ทั่วไปเลยค่ะ แต่ตอนนี้กลับมาเข้าเรื่องของเรากันต่อดีกว่า ดูซิว่าเธอได้ทำขนมอะไรออกมาบ้าง แต่ละอย่างกินเข้าไปมีแคลอรี่เท่าไหร่?
1. ทองม้วน
ขนมอบกรอบ ทำเป็นแผ่นแล้วนำมาม้วนเป็นวง มีส่วนผสมที่ทำจากแป้ง มะพร้าว น้ำตาลปีบ ไข่ไก่ พืช และงาดำ มีรสชาติหอมหวานกำลังดี ซึ่งกินแล้วบางทีก็หยุดไม่ได้! เพราะฉะนั้นจงกินแต่พอดี เพราะทองม้วน 7 ชิ้นในปริมาณ 21 กรัม เท่ากับ 102 กิโลแคลอรี่ค่ะ ใครกำลังไดเอท ( ขอ Accent แบบแม่หญิงการะเกด ) อย่ากินเกินกว่านี้นะจ๊ะ
2. ทองหยิบ
" ทองหยิบ " ขนมสีเหลืองสดรูปดอกไม้ที่น่าจะครองใจใครหลาย ๆ คน มีกลิ่นหอมหวานน่ารับประทาน ได้รับอิทธิพลมาจากขนมของโปรตุเกส ทำจากทำจากไข่แดงตีจนฟู นำไปหยอดลงในน้ำเชื่อมเดือดจนสุก แล้วนำมาจับจีบ ปัจจุบันจัดเป็นขนมในงานมงคลต่าง ๆ
สำหรับใครที่ชอบกินทองหยิบ ควรกินแต่พอดีนะคะ เพราะ1 ชิ้นนี่ก็ให้พลังงาน 100 กิโลแคลอรี่เข้าไปแล้ว สมมติกินไป 5 ชิ้น ก็เท่ากับ 500 กิโลแคลอรี่! เอาเป็นว่ากินให้พอดี ๆ ให้หายอยากก็พอนะคะ
3. ทองหยอด
มีทองหยิบแล้ว ก็ต้องมี " ทองหยอด " ตามมาด้วย มีต้นกำเนิดมาจากโปรตุเกสเช่นเดียวกันค่ะ ส่วนผสมและวิธีทำคือทำจากแป้ง ไข่แดง และน้ำ หยอดลงในน้ำเดือด แล้วนำไปเคี่ยวกับน้ำตาล สุกแล้วก็จะกลายเป็นเม็ดสีเหลืองทอง
ทองหยอด 100 กรัมจะมีประมาณ 15 ลูก ให้พลังงาน 299 แคลอรี่ จัดว่าน้อยกว่าทองหยิบอยู่พอประมาณ ถ้าห่วงน้ำหนักแต่ยังอยากกินของหวาน ทองหยอดก็เป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ
4. ฝอยทอง
นี่น่าจะเป็นของโปรดของใครหลายคน สำหรับขนมที่ทำจากไข่เป็ด โดยคัดเอาไข่แดงล้วน ๆ ทำเป็นเส้นฝอยสีเหลืองทอง จนได้ชื่อว่า" ฝอยทอง " ที่แหล่งกำเนิดมาจากโปรตุเกสเช่นเดียวกัน ฝอยทองปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานสูงถึง 433 กิโลแคลอรี่ นับว่าสูงมากทีเดียว เพราะการที่ทำมาจากไข่แดงล้วน ๆ นั่นเอง
5. กะหรี่ปั๊บ
อีกหนึ่งเมนูที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ " กะหรี่ปั๊บ " ก็เป็นขนมที่มาจากมารี กีมาร์ผู้นี้เช่นเดียวกัน เชื่อว่าดัดแปลงมาจากโปรตุเกสที่มีชื่อว่า " ปัสแตล " ในคราแรกก็มีชื่อว่า " Curry Puff " จนต่อมาได้กร่อนเสียงเป็นภาษาพื้นเมืองแบบไทย ๆ จนเรียกว่า " กะหรี่ปั๊บ " ในที่สุด จัดเป็นขนมที่นิยมในหมู่ชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยค่ะ
สำหรับกะหรี่ปั๊บจะให้พลังงานสูงถึง 157 กิโลแคลอรี่/ชิ้นค่ะ แบบนี้กินสัก 2 ชิ้นน่าจะอยู่ท้องเลยไปเลยแหละ
6. ขนมหม้อแกง
มาถึงขนมขึ้นชื่อของจังหวัดเพชรบุรี จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก" ขนมหม้อแกง " มีไข่ แป้ง และกะทิ เป็นส่วนผสมหลัก อาจมีโรยหน้าด้วยเผือก เม็ดบัว ถั่ว และหอมเจียว เป็นขนมที่เชื่อว่าลูกมือของท้าวทองกีบม้าได้นำสูตรและวิธีทำติดตัวออกมาขณะที่แต่งงานออกเรือนมาแล้ว
สำหรับขนมหม้อแกงในปริมาณ 100 กรัม จะให้พลังงานอยู่ที่ 244 กิโลแคลอรี่ ซึ่งจัดว่าไม่เบาเลยทีเดียว
7. สังขยา
มาถึงอีกหนึ่งเมนูคลาสสิค นั่นก็คือ" สังขยา " นั่นเอง เมื่อพูดถึงสังขยา บางคนอาจนึกถึงถึงสังขยาใบเตย หรือสังขยาไข่ที่จิ้มกับขนมปัง แต่สำหรับสังขยาของท้าวทองกีบม้าเป็นคนละอย่างกันค่ะ…
ตรงนี้หลายคนอาจจะงง แต่ถ้าพูดชื่อ" ข้าวเหนียวสังขยา " ปุ๊บ ก็คงจะร้องอ๋อกันเลยใช่มั้ยล่ะ? เมนูนี้จัดอยู่ในอิทธิพลของโปรตุเกสเช่นเดียวกัน โดยทำจากกะทิและน้ำตาล นำไปนึ่ง กินคู่กันกับข้าวเหนียว จนเป็นที่มาของข้าวเหนียวสังขยานั่นเอง
ข้าวเหนียวสังขยาในปริมาณ 100 กรัม จะให้พลังงาน 249 กิโลแคลอรี่ จัดว่าอยู่ท้องพอสมควรเลยนะคะ
8. ขนมไข่เต่า
ขนมยอดฮิตที่เห็นทั่วไปตามท้องตลาด ริมถนน หน้าโรงเรียน และในสถานที่ต่าง ๆ มากมาย บางคนอาจไม่เคยได้ยินชื่อ" ขนมไข่เต่า " แต่คุ้นเคยกับ" ขนมไข่นกกระทา " มากกว่า ถึงหน้าตาจะเป็นลูกกลม ๆ ธรรมดา ๆ ส่วนผสมที่ใช้ก็ง่าย ๆ อย่างแป้ง มันเทศ ผงฟู เกลือ น้ำตาล และกะทิ นำไปทอดกับน้ำมัน แต่ต้องยอมรับเลยนะคะว่านี่คือเมนูโปรดของใครหลาย ๆ คนอย่างแท้จริง!
ขนมไข่เต่าหรือไข่นกกระทา 11 อัน ( 40 กรัม ) ให้พลังงานถึง 191 กิโลแคลอรี่ค่ะ เพราะฉะนั้นกินแต่พอดี ๆ กันนะคะ
9. ลูกชุบ
เมนูสุดท้ายที่หลายคนคุ้นเคย ขนมหวานหน้าตาน่ารักที่ทำเป็นรูปผัก ผลไม้ บางครั้งก็ทำเป็นรูปพริกขี้หนู มีส่วนผสมหลักมาจากถั่วเขียว ถูกบดและนำมาปั้นเป็นรูปทรงต่าง ๆ ตามด้วยการใช้สีผสมอาหารตกแต่งให้ดูน่ารับประทานมากขึ้น ใช่แล้ว สิ่งนี้เรียกว่า " ลูกชุบ " นั่นเอง เราเชื่อว่าหลายคนก็ทำเมนูนี้เป็นกันใช่มั้ยล่ะคะ
ลูกชุบ 1 ชิ้นจะอยู่ที่ 23 กิโลแคลอรี่/ชิ้นค่ะ ยังถือว่าทานได้ค่อนข้างเยอะกว่าเมนูอื่น ๆ แต่ก็อย่าให้เกินพอดีไปนะคะ
***********************************************
อันที่จริงขนมหวานของท้าวทองกีบม้ายังมีอีกหลายเมนูค่ะ บางเมนูก็เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี อย่างเช่น ขนมผิง บางเมนูหลายคนก็อาจไม่คุ้นชื่อ อย่างเช่น ขนมทองพลุ ขนมทองโปร่ง ( เรียกอีกชื่อว่าขนมหน้านวล ) หรือขนมสัมปันนี…
ที่เรานำมาให้ชมกันก็เป็นเมนูที่หากินง่ายและหลายคนน่าจะรู้จัก อย่างน้อยบทความนี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับใครหลาย ๆ คนนะคะว่าขนมที่เป็นของโปรดของเรา เรากินมาตลอด ให้แคลอรี่เท่าไหร่กัน หากรู้ว่ากินเยอะเกินไปก็จะได้ลดปริมาณลงบ้าง เราไม่ได้ห้ามไม่ให้กินนะคะ แต่เอาให้ " ฟินพอประมาณ " ก็พอ อย่าให้รบกวนน้ำหนักและเพิ่มไขมันในร่างกายจนเกินไป สุดท้ายนี้ต้องขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่คราวหน้าหนาออเจ้า บ๊ายบายค่ะ
ติดตามบทความใหม่ๆได้ที่ SistaCafe Facebook
SistaCafe เว็บไซต์รวบรวมบทความสำหรับผู้หญิง https://sistacafe.com
♥ ดาวน์โหลด App SistaCafe ฟรีได้แล้ววันนี้! ♥
iOS : AppStore
Android : PlayStore
Pachai Jitnarong ทองหยอด ตอนทำต้องหยอดในน้ำเชื่อมเดือดๆ ไม่ใช่หยอดในน้ำร้อน แล้วเอาไปต้มในน้ำเชื่อม ผิดวิธีอย่างแรง ฝอยทองทำจากไข่แดงของไข่เป็ดผสมกับไข่ขาวใสๆ ที่เรียกว่าน้ำค้างไข่ ผสมให้ได้ตามสัดส่วน ใส่ในกระบอกที่เจาะรูหลายๆรู แล้วโรยลงในน้ำเชื่อมเดือดๆ ส่วนสังขยาที่ทานกับข้าวเหนียวมูน ต้องมีส่วนผสมของไข่ น้ำตาลมะพร้าว และน้ำกะทิ เอามาขยำหรือตีให้เข้ากัน แล้วเอาไปนึ่งในน้ำเดือดจัด ที่เขียนส่วนผสมแค่กะทิและน้ำตาล ผิดอย่างไม่ควรให้อภัย จะเขียนบทความลงในสื่อออนไลน์แต่ไม่ศึกษาและตรวจทานอะไรเลย
20 มี.ค. 2561 เวลา 15.34 น.
Lec ชอบหมดเลย น้ำตาลพุ่งปรี้ด
20 มี.ค. 2561 เวลา 13.17 น.
ทองม้วน เป็นอะไรที่หยุดไม่ได้จริงๆ เคยกิน 10 ถุงใน 1ชม. ฮ่ะๆๆๆๆ ฟิน ฟินแหลก.
20 มี.ค. 2561 เวลา 12.00 น.
ดูทั้งหมด