กีฬา

โชคดีเหลือเกิน! 12 นักเตะที่ได้เล่นกับทั้ง โรนัลโด้ & เมสซี่

ขอบสนาม
อัพเดต 15 ก.พ. 2561 เวลา 03.21 น. • เผยแพร่ 27 ม.ค. 2563 เวลา 04.40 น. • ขอบสนาม

การได้ลงเล่นเคียงข้างนักฟุตบอลระดับตำนานนับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมากแล้วสำหรับอาชีพนักฟุตบอล แต่ถ้าการได้ลงเล่นเคียงข้างตำนานถึง 2 คน อย่าง ลิโอเนล เมสซี่ และคริสเตียโน่ โรนัลโด้ คงเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว

 ว่าแล้ววันนี้ ขอบสนาม เราจะไปทุกท่านไปชม 12 นักเตะที่มีได้โอกาสลงเล่นกับทั้ง เมสซี่ และโรนัลโด้ มาแล้ว จะมีใครบ้าง ไปติดตามกันได้เลย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เฟร์นานโด กาโก้

มิดฟิลด์ที่แจ้งเกิดแบบเต็มตัว และที่เป็นที่รู้จักของแฟนบอลในช่วงที่เป็นแข้งนักเตะของ เรอัล มาดริด ซึ่งในช่วงเวลานี้เองที่เขาได้มีโอกาสได้ร่วมงาน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โดยเจ้าตัวลงเล่นให้กับทัพ "ราชันชุดขาว" ไปทั้งสิ้น 121 นัด ซัด 1 ประตู พร้อมแอสซิสต์อีก 13 ครั้ง ส่วนในนามทีมชาติอาร์เจนติน่า ก็เป็นพื้นที่ที่ทำให้เขาได้ลงเล่นเคียงข้างอีกหนึ่งสตาร์อย่าง ลิโอเนล เมสซี่ โดย กาโก้ ติดทีมชาติครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2007 รวมทั้งสิ้น 61 นัด ส่วนปัจจุบันในวัย 33 เจ้าตัวค้าแข้งอยู่กับสโมสร เวเลซ ซาร์สฟิลด์ ในศึกซูเปอร์ลีกา อาร์เจนติน่า

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

กาเบรียล ไฮน์เซ่

แบ็กซ้ายทีมชาติอาร์เจนติน่า มีโอกาสลงเล่นเคียงข้าง ลิโอเนล เมสซี่ ในนามทีมชาติอาร์เจนติน่า ที่เจ้าตัวมีโอกาสติดธงครั้งแรกในช่วงปี 2003 ก่อนรับใช้ชาติมากถึง 67 นัด ส่วนกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เจ้าตัวมีโอกาสลงเล่นร่วมกันที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงปี 2004-07 ช่วยกันพา "ปีศาจแดง" คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย ส่วนปัจจุบัน กาเบรียล ไฮน์เซ่ ได้ผันตัวเองกลายเป็นกุนซือสโมสร เวเลซ ซาร์สฟิลด์ ในบ้านเกิดเป็นที่เรียบร้อย

เคราร์ด ปิเก้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อย่างที่เราทราบกันว่าแท้จริงแล้ว ปิเก้ คือผลผลิตจากอคาเดมี่อย่าง ลา มาเซีย ก่อนย้ายมาเติบโตที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งที่นี่เองทำให้เขาได้มีโอกาสได้เล่นร่วมกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และเป็นหนึ่งในขุมกำลังที่ช่วยให้ CR7 คว้ารางวัลบัลลง ดอร์ สมัยแรกมาครองได้เมื่อปี 2008 ก่อนที่เขาจะย้ายกลับ บาร์เซโลน่า ในช่วงซัมเมอร์ฤดูกาล 2008-09 ซึ่งการกลับไปยังรังเกิดของเขาก็ได้ร่วมงานกับ ลิโอเนล เมสซี่ พร้อมช่วยกันพาทีมกวาดแชมป์อย่างมากมายแทบจะนับไม่ถ้วน ร่วมไปถึงการมีส่วนร่วมทำให้ เมสซี่ คว้าบัลลง ดอร์ มาครองได้ถึง 6 สมัย

อังเดร โกเมส

มิดฟิลด์ชาวโปรตุเกส ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้นำของทัพ "ฝอยทอง" ที่ทาง โรนัลโด้ ร่วมเล่นอยู่ด้วย ทำให้เขาทั้งคู่ได้มีโอกาสร่วมงานกันตลอดในช่วงหลัง ส่วนชีวิตของ โกเมส ที่ บาร์เซโลน่า ถึงแม้เขาจะไม่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมได้ แต่ระยะเวลา 2 ปี เขาก็ได้มีโอกาสร่วมงานกับ เมสซี่ ถึงแม้มันจะเป็นเพียงเวลาสั้นๆ แต่ก็คว้าแชมป์ได้ถึง 4 โทรฟี่เลยทีเดียว

อังเคล ดิ มาเรีย

ถือว่าเป็นหอีกหนึ่งนักเตะที่โชคดีเป็นอย่างมากเพราะได้ลงเล่นกับทั้ง โรนัลโด้ และเมสซี่ ในฐานะตัวหลัก โดยในช่วงที่เจ้าตัวลงเล่นให้กับ เรอัล มาดริด ก็เป็นแข้งตัวจริงของทีมเดินเกมรุกร่วมกับ โรนัลโด้ แบบสนุกสนาน จนพาทีมคว้าแชมป์มาถึง 5 โทรฟี่ โดยหนึ่งในนั้นคือแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อฤดูกาล 2013-14 ส่วนในนามทีมชาติอาร์เจนติน่า ดิ มาเรีย กำลังรอคอยการลงสนามนัดที่ 100 อย่างใจดใจจ่อ โดยปัจจุบันลงเล่นไปแล้ว 99 นัด ซึ่งเขาติดทีมชาติครั้งแรกเมื่อปี 2009 ในยุค ดิเอโก้ มาราโดน่า ซึ่งหลังจากนั้นก็ติด และเล่นเคียงข้าง ลิโอเนล เมสซี่ มาโดยตลอด

คาร์ลอส เตเบซ

ย้อนกลับในสมัยที่เจ้าตัวยังคงสวมเสื้อ "ปีศาจแดง" อยู่นั่น นี่คือ 3 ประสาน แดนหน้าร่วมกับ โรนัลโด้ และรูนี่ย์ ที่ยอดเยี่ยมที่สุดยุคนึงของ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะนอกจากจะพาทีมกวาดแชมป์ลีกได้แล้ว ยังเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมเถลิงบัลลังก์แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อปี 2008 อีกด้วย ส่วนในนามทีมชาติ เตเบซ ได้มีโอกาสร่วมเล่นกับ ลิโอเนล เมสซี่ และพาทีมเข้าชิงศึกโคปา อเมริกา ด้วยกันถึง 2 ครั้ง แต่ทว่าก็ไปไม่ถึงฝั่งฝันสักครั้งเดียว

เปาโล ดีบาล่า

แข้งวัย 26 ปี ติดทีมชาติอาร์เจนติน่าครั้งแรกเมื่อปี 2015 ก่อนที่จะได้ลงเล่นกับ เลโอ เมสซี่ นับตั้งแต่นั้นมา แต่ยังคงไม่ได้มีความสำเร็จอะไรมาพอให้กล่าวคำชื่นชมมากนัก เพราะลำพัง ดีบาล่า เองยังไม่อาจยึดเป็นตัวจริง ตัวหลักของทีมได้เท่าไหร่นัก ส่วนกับสโมสร ยูเวนตุส เขาได้ร่วมงานกับ โรนัลโด้ เมื่อช่วงฤดูกาลที่แล้ว ก่อนพาทีมคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรียอา และอิตาเลียน ซุปเปอร์คัพ ส่วนในซีซั่นนี้เขากลายเป็นกำลังสำคัญของทีม พร้อมประสานกับ CR7 ได้ลงตัว และยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก 

กอนซาโล่ อิกวาอิน

กองหน้าชาวอาร์เจนติน่า ติดทีมชาติครั้งแรกเมื่อปี 2009 ซึ่งนับตั้งแต่นั้นเจ้าตัวก็ผ่านการลงเล่นทัวร์นาเมนต์มากมายทั้งฟุตบอลโลก และโคปา อเมริกา และแทบทุกรายการ อิกวาอิน ก็มักเป็นพานเนอร์ในแนวรุกกับ ลิโอเนล เมสซี่ มาโดยตลอด ก่อนที่ชื่อของเขากับทัพ "ฟ้า-ขาว" จะหายไปนับตั้งแต่จบศึกฟุตบอล 2018 ส่วนในนามสโมสรในฤดูกาลนี้เจ้าตัวในประสานเกมรุกกับอีกหนึ่งยอดแข้งอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งมันเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงที่เขายังคงค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด แล้ว จนกระทั่งมาในฤดูกาลนี้ที่ได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง ซึ่งการผสานงานกับ CR7 ในสีเสื้อ ยูเวนตุส ถือว่าเป็นไปได้อย่างราบรื่น ทำให้ฤดูกาลนี้เจ้าตัวซัดไปแล้ว 8 ประตู กับอีก 8 แอสซิสต์ จากการลงเล่นทั้งหมด 28 นัด

เฮนริก ลาร์สสัน

หัวหอกชาวสวีเดน ได้มีโอกาสลงเล่นกับ เมสซี่ ในช่วงเวลาที่ บาร์เซโลน่า และเป็นหนึ่งในขุมกำลังชุดคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อฤดูกาล 2005-06 อีกด้วย ส่วนการได้ลงเล่นกับ โรนัลโด้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ เพียง 3 เดือน ในช่วงปี 2007 เท่านั้น เพราะทาง "ปีศาจแดง" ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในตอนนั้นได้ยืมตัว ลาร์สัน มาแก้วิกฤตกองหน้าของทีมที่กำลังขาดแคลน ซึ่งเจ้าตัวก็ลงเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปทั้งสิ้น 13 เกม ซัดประตูไปได้ 3 ลูก

เนลสัน เซเมโด้

แบ็คขวาวัย 26 ปี ย้ายไปร่วมทัพ บาร์เซโลน่า ในช่วงปี 2017 ก่อนจะได้ลงเล่นประสานกับ ลิโอเนล เมสซี่ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ส่วนในนามทีมชาติเขาลงสนามรับใช้ โปรตุเกส ไปแล้วทั้งสิ้น 13 นัด และล่าสุดคือการเป็นหนึ่งในขุนพลของทีมที่คว้าแชมป์ยูฟ่า เนชั่นลีก ซึ่งนั่นคือการที่เขาได้ร่วมงานกับกัปตันทีมอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อีกด้วย

เอเซเกล การาย

การาย ติดทีมชาติอาร์เจนติน่า ครั้งแรกเมื่อปี 2007 ก่อนที่อีก 7 ปีถัดมาจะเป็นกำลังสำคัญของทีมในการพาทัพ "ฟ้า-ขาว" ทะลุไปไกลถึงรอบชิงศึกฟุตบอลโลก 2014 ก่อนพ่าย เยอรมัน ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ส่วนในนามสโมสรเขาได้ลงเล่นเคียงข้าง โรนัลโด้ ประมาณ 2 ปี ในสีเสื้อของ เรอัล มาดริด แต่ด้วยความที่เจ้าตัวไม่ได้เป็นแข้งตัวหลักของทีม ทำให้สุดท้ายก็ต้องเก็บกระเป๋าออกจากสโมสร โดยปัจจุบัน การาย ยังคงค้าแข้งอยู่ในศึกลาลีกา สปน กับสโมสร บาเลนเซีย

เดโก้

มิดฟิลด์ชาวโปรตุเกสถือว่าเป็นแข้งยุคบุกเบิกของทั้ง โรนัลโด้ และเมสซี่ เลยก็ว่าได้ เพราะในนามทีมชาติโปรตุเกส เขาอยู่ในช่วงเริ่มต้นของ โรนัลโด้ ในนามทีมชาติ คอยสั่งสอนรุ่นน้องคนนี้อยู่บ่อยครั้ง ส่วนกับ เมสซี่ เขาคือคนที่แตะมือเปลี่ยนสตาร์คนนี้ลงไปเฉิดฉายครั้งแรกในสีเสื้อ บาร์เซโลน่า เป็นครั้งแรกซึ่งได้ว่า เดโก้ นี่เปรียบเสมือนแข้งนำร่องที่พาทั้งคู่ก้าวขึ้นมาประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ก็ว่าได้

ดูข่าวต้นฉบับ