ไวรัสโคโรนาลามไม่หยุด ตายเพิ่มเป็น 17 ราย ติดเชื้อมากกว่า 500

เมืองอู่ฮั่น ของจีน ซึ่งมีประชากรเกือบ 9 ล้านคน เมืองที่พบการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ครั้งแรกตั้งแต่เดือนธันวาคม ปีที่แล้ว ประกาศ “ซัตดาวน์” หรือปิดเมืองแล้วเมื่อวันพุธ โดยทางการสั่งปิดระบบขนส่งมวลชนเป็นการชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการหยุดยั้งการระบาดของเชื้อไวรัสมรณะ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในอู่ฮั่นได้รับคำเตือนอย่าเดินทางออกนอกเมือง ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่ชาวจีนหลายล้านคนเดินทางไปฉลองเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง สนามบินและสถานีรถไฟถูกปิดไม่ให้บริการผู้โดยสาร เช่นเดียวกับรถบัสโดยสาร, รถไฟใต้ดิน, เรือโดยสารข้ามฟาก รวมทั้งเครือข่ายขนส่งทางไกล จะปิดให้บริการจากเวลา 10.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ในวันที่ 23 มกราคมนี้

นอกจากนี้ คนที่อาศัยอยู่ในเมืองอู่ฮั่นยังได้รับคำเตือนให้หลีกเลี่ยงสถานที่สาธารณที่มีฝูงชนจำนวนมากและลดการชุมนุมในที่สาธารณะ ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ล่าสุดวันนี้ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน หรือเอ็นเอชซี (NHC) ยืนยัน เพิ่มเป็น 17 ศพแล้ว และติดเชื้อมากกว่า 540 คนใน 13 มณฑล ซึ่งรวมทั้งเขตปกครองตนเองและเทศบาลนคร โดยแหล่งต้นตอการระบาดของโรคเบื้องต้นเชื่อว่าอยู่ที่ตลาดอาหารทะเลเมืองอู่ฮั่น ซึ่งลักลอบขายสัตว์ป่าผิดกฎหมายด้วย
ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีน เตือนว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ อาจกลายพันธุ์ และแพร่ระบาดในวงกว้าง แต่เจ้าหน้าที่จีนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ กำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสปอดอักเสบลึกลับนี้ จีนได้ยกระดับการตอบสนองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในทุกมณฑลที่พบผู้ป่วยติดเชื้อดังกล่าว โดยจะดำเนินการตามมาตรการ "5 ด่วน" นั่นคือ การตรวจด่วน การรายงานด่วน การกักกันด่วน การวินิจฉัยด่วน และการรักษาผู้ป่วยด่วน นอกจากนี้ จีนยังประกาศจะดำเนินการอื่น ๆ เช่น การจัดสรรทรัพยากรทางการแพทย์ให้มาดูแลผู้ป่วยอย่างเข้มข้น การติดตามดูอาการอย่างใกล้ชิด การจัดการภายในโรงพยาบาลต่าง ๆ ตั้งแต่การติดตามสถานะ การป้องกัน การควบคุมการติดเชื้อ และความปลอดภัยทางชีวภาพในห้องปฏิบัติ ทั้งยังมีแผนเปิดตัวโครงการรรณรงค์ด้านสุขภาพ และการส่งเสริมสุขอนามัยในสิ่งแวดล้อมด้วย
หลี่ ปิน รองหัวหน้าคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน กล่าวว่า ขณะนี้จำนวนผู้ป่วยเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นผลมาจากความเข้าใจอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับโรค การพัฒนาวิธีการวินิจฉัย และการใช้สารทดสอบขั้นสูงเพื่อตรวจสอบการติดไวรัส จากการวิจัยของผู้เชี่ยวชาญพบว่ากรณีการติดต่อจากคนสู่คนและการติดเชื้อของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ส่วนใหญ่เกิดในอู่ฮั่น พร้อมกล่าวว่าการแพร่ของโรคมีลักษณะการกระจายในระดับชุมชน และกรณีเหล่านี้เกิดขึ้นผ่านระบบทางเดินหายใจเป็นหลัก
ในการแถลงสั้น ๆ ต่อสาธารณชนครั้งแรกตั้งแต่เริ่มต้นการระบาดของไวรัส หลี่ ปิน แถลงว่า มีหลักฐานว่า โรคนี้ระบาดผ่านทางเดินหายใจ แต่จีนก็ยังไม่สามารถยืนยันแหล่งต้นตอของไวรัสที่แท้จริงได้
นายหลี่ กล่าวว่า แม้เส้นทางการระบาดของไวรัส ยังไม่เข้าใจได้โดยสมบูรณ์ แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าไวรัสอาจกลายพันธุ์ และเสี่ยงที่จะระบาดเร็วขึ้น เขากล่าวเพิ่มเติมว่า มีเหยื่อ 2,197 คนที่รู้ว่าสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย จนถึงขณะนี้ ยังไม่พบผู้ป่วยรายใหญ่แพร่เชื้อไปสู่ประชาชนมากกว่า 10 คน มีเจ้าหน้าที่แพทย์อย่างน้อย 15 คนในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งคาดว่าสัมผัสผู้ป่วย ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวด้วย
เจ้าหน้าที่จีนยอมรับว่า ขณะนี้จีนอยู่ในช่วงสำคัญที่สุดในการป้องกันและควบคุม มีการยืนยันก่อนหน้านี้ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ติดต่อคนสู่คน ขณะนี้ ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร แต่มีแนวโน้มจะเลวร้ายลง เพราะจะมีประชาชนหลายล้านร้อยคนทั่วประเทศ เดินทางภายในประเทศในช่วงเทศกาลตรุษจีน หรือปีใหม่ของจีน ซึ่งมีวันหยุดยาวนานนับสัปดาห์ และยังมีอีกหลายพันคนจะเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศด้วย นายหลี่ กล่าวเพิ่มว่า เทศกาลนี้จะเพิ่มความเสี่ยงการระบาดของโรคและความยากลำบากในการป้องกันและควบคุม
ไวรัส 2019-nCoV หรือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งไม่เคยระบาดในคนมาก่อน อาการของการติดเชื้อ รวมทั้งมีปัญหาระบบทางเดินหายใจ, เป็นไข้, ไอ, หายใจถี่และหายใจติดขัด
นอกจากระบาดในหลายมณฑลของจีนแล้ว ยังมีรายงานการระบาดไปทั่วโลกด้วย โดยพบผู้ป่วย 3 คนในไทย, 1 คนในเกาหลีใต้, 1 คนในญี่ปุ่นและอีก 1 คนในสหรัฐ และ มาเก๊าก็รายงานยืนยันด้วยว่า พบผู้ป่วยรายแรก ซึ่งผู้ป่วยเป็นนักธุรกิจหญิง ที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นเมื่อสุดสัปดาห์
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า อาจมีเหยื่ออีกจำนวนมากที่รอดพ้นการตรวจ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน ของอังกฤษ ระบุว่า อาจมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 1,700 คน
ด้านองค์การอนามัยโลก หรือฮู (WHO) แถลงว่า จะตัดสินใจในวันพฤหัสบดีนี้ ว่าจะประกาศให้การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่กำลังระบาดรุนแรง เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินโลกหรือไม่ หลังมีการหารือกันมาหนึ่งวันเต็มเมื่อวันพุธ ซึ่งหากฮูประกาศให้เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสุขภาพระหว่างประเทศ ก็จะเป็นครั้งที่ 6 ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยการประกาศ "สถานการณ์ฉุกเฉินโลก" ถือเป็นคำเตือนระดับสูงสุดที่ฮูสามารถดำเนินการได้ เช่นเดียวกับที่เคยปฏิบัติในการป้องกันและควบคุมการระบาดของไข้หวัดหมู, ไวรัสซิกา และอีโบลา ซึ่งหากมีการประกาศดังกล่าว ก็จะมีการเรียกร้องเร่งด่วนให้นานาชาติร่วมมือกันป้องกันและควบคุม