‘ลูกยางสาว’ เร่งเชื่อมรอยต่อรุ่นพี่รุ่นน้อง รอคุย ‘โค้ชด่วน’ สานงานต่อ ปัดดึงโค้ชนอกคุมทัพ

นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมตลอดปี 2562 ที่ผ่านมาของทีมวอลเลย์บอลทีมชาติไทยถือว่า ทีมหญิงประสบความสำเร็จตามที่ตั้งไว้ ทั้งในกีฬาซีเกมส์ และชิงแชมป์เอเชีย แต่ที่ไม่ประสบความสำเร็จตามที่ฝันไว้คือไม่สามารถคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก็ไม่เป็นไร เพราะทุกคนได้ทำเต็มที่แล้ว ส่วนทีมชายไทยอาจไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะไม่สามารถป้องกันแชมป์ซีเกมส์ได้ แต่เพราะได้เปลี่ยนเด็กใหม่ ทำให้เราทำได้ไม่เต็มที่นัก ด้านทีมชายหาดก็ทำได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ แต่ในภาพรวมทั้งหมดก็ถือว่าน่าพอใจ

นายสมพร กล่าวอีกว่า สิ่งที่จะพัฒนาต่อจากนี้คือการเชื่อมต่อ โดยเฉพาะทีมหญิงที่จะมีรุ่นเก่าที่จะต้องพ้นไป กับรุ่นใหม่ที่จะก้าวขึ้นมาทดแทน ซึ่งเป็นรอยต่อที่เราจะต้องรีบเชื่อมให้ได้ ส่วนตำแหน่งผู้ฝึกสอนนั้น ก็ไม่มีการพูดคุยกันเบื้องต้นในระดับคณะกรรมการบริหาร และฝ่ายเทคนิคคิดว่า “โค้ชด่วน” นายดนัย ศรีวัชรเมธากุล ได้ทุ่มเทให้ทีมมาตลอด และได้แสดงสปิริตที่ไม่สามารถพาทีมไปโอลิมปิกได้ ซึ่งทางสมาคมฯ ก็คงต้องคุยกับโค้ชด่วนก่อน และหารือกันว่าจะมีแนวทางในการทำร่วมกันต่อไปได้อย่างไร

“ภารกิจต่อไปจะเป็นงานหนักในการสานต่อระหว่างรุ่นพี่ และรุ่นน้องนักกีฬา สร้างทีมใหม่ขึ้นมามองไปถึงระยะยาวในโอลิมปิกอีก 4 ปีข้างหน้า ซึ่งถึงตอนนี้ผมยังไม่ได้มีโอกาสคุยกับโค้ชด่วน รวมถึงตัวนักกีฬาทุกคนอย่างเป็นทางการเลย เพราะอยากจะให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปก่อน ให้พวกเขาได้พักผ่อนร่างกาย และจิตใจ จนถึงเวลาเหมาะสมค่อยมาคุยกัน คิดว่าจะได้ข้อสรุปไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ แต่เบื้องต้นก็ได้โทร.คุยกัน เพื่อให้กำลังใจกันให้เขากลับมาจากความเสียใจ”

นายกลูกยางไทยกล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนกระแสที่ให้มีการดึงโค้ชต่างชาติเข้ามาคุมทีมสาวไทยนั้น สมาคมฯ เคยคุยกันมาหลายครั้งแล้ว แต่ด้วยสระรีร่างกายนักกีฬาไทยอาจไม่เหมาะกับโค้ชยุโรปที่เน้นเทคนิคเรื่องความสูง เพราะนักกีฬาไทยตัวเล็ก และมีวิถีชีวิตที่ไม่เหมือนคนอื่น ถ้าโค้ชนอกเข้ามาแล้วไม่เหมาะสมก็ทำให้เรารู้สึกห่วงตรงจุดนี้ แต่สิ่งที่ขาดจริงๆ คือ อยากจะได้นักวิทยาศาสตร์การกีฬาที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาช่วยสร้างความเข้มแข็งให้นักกีฬาไทย เพราะที่ผ่านมามีอาการบาดเจ็บบ่อย

นายสมพรกล่าวว่า ส่วนนักกีฬาหญิงรุ่นเก่าก็จะมีบางส่วนอยู่กับทีมต่อไป ซึ่งต้องเป็นความสมัครใจของตัวนักกีฬาด้วย ถ้าเขายังมีร่างกายพร้อม และทางผู้ฝึกสอนเห็นว่า ยังช่วยรุ่นน้องได้ ก็ยังจะต้องพึ่งพาพวกเขาอยู่ แต่ถ้าพวกเขาขอพัก หรือทางผู้ฝึกสอนเห็นว่าจะอยากสร้างน้องๆ ชุดใหม่ขึ้น ก็จะมีการพูดกันในเรื่องนี้ เช่นเดียวกับเรื่องผู้ฝึกสอน สมาคมฯ ก็จะรับฟังเสียงจากนักกีฬาด้วยว่า เขาต้องการอย่างไร เพราะคงจะต้องดูปัจจัยหลายอย่าง

นอกจากนี้ นายสมพร ยืนยันว่า สมาคมฯ จะส่งนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันรายการ “เทสต์ อีเวนท์ ฟอร์ม โอลิมปิกเกมส์ 2020” ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ช่วงวันที่ 21-26 เมษายนนี้แน่นอน เพราะถือเป็นเกียรติที่สมาคมวอลเลย์บอลญี่ปุ่นได้เชิญทีมไทยไปเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ตั้งแต่ยังไม่ทราบผลการคัดเลือกชิงตั๋วโอลิมปิกเกมส์ 2020 ซึ่งญี่ปุ่นยืนยันว่า เชิญทีมไทยไปไม่ใช่ในฐานะที่จะได้หรือไม่ได้ตั๋วโอลิมปิก แต่เขาเชิญ เพราะเป็นทีมไทย โดยทางสมาคมฯ ก็จัดทีมที่ดีที่สุดไปเข้าร่วมแข่งขัน