จุดเริ่มจากการร่วมงานปลูกต้นไม้กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ห้วยตึงเฒ่า จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2563
เปลี่ยนชีวิตไลฟ์โค้ชและนักพูดสร้างแรงบันดาลใจชื่อดัง “ฌอน บูรณะหิรัญ” ไปอย่างไม่คาดคิด
เมื่อไลฟ์โค้ชคนดังทำคลิปประชาสัมพันธ์โครงการความยาวเกือบ 4 นาที พร้อมเผยความรู้สึกว่า
“เมื่อกี้ได้เจอท่านประวิตร มันไม่เหมือนที่เราเห็นในรูป ที่เขาหลับและภาพดูร้ายหน่อย แต่พอได้เห็นตัวจริง เหมือนเป็นผู้ใหญ่ที่น่ารัก”
หลังคลิปเผยแพร่ไปในโลกออนไลน์ กระแสวิพากษ์วิจารณ์ก็ถาโถมเข้าใส่ฌอนไม่ทันตั้งตัว
เพียงแค่เอ่ยปากพูดถึงนักการเมืองคนดัง กลับกลายเป็นไฟลามทุ่งถูกตั้งคำถามมากมาย
โดยเฉพาะเรื่องการเปิดขอรับบริจาคเงินช่วยอาสาสมัครดับไฟป่าดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่
ที่ฌอนถูกกดดัน และเรียกร้องให้เคลียร์เรื่องเงินบริจาคทั้งหมด
ขณะที่การเมืองอีกฝ่ายพยายามผูกโยง เทียบเคียงกรณีเงินบริจาคของฌอน กับกรณีเงินบริจาคของคณะก้าวหน้า
ที่เปิดระดมทุนผ่านโครงการ “เมย์เดย์-เมย์เดย์ เราช่วยกัน” ช่วยเหลือศิลปินและประชาชนได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดเมืองเพื่อหยุดยั้งโควิด-19
สุดท้ายทั้งกรณีเงินบริจาคของฌอน บูรณะหิรัญ และเงินบริจาคของคณะก้าวหน้า
ถูกโยงเป็นประเด็นการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ปฐมบทดราม่าเงินบริจาคของฌอน บูรณะหิรัญ
เริ่มจากเพจดัง “แหม่มโพธิ์ดำ” ตั้งข้อสังเกตและชี้พิรุธเงินบริจาคช่วยอาสาสมัครดับไฟป่า
พร้อมนำจดหมายเปิดผนึกของทีมดับไฟป่ามาโพสต์โชว์ใจความสำคัญว่า ทีมอาสาดับไฟป่าไม่เคยได้รับเงินช่วยเหลือจากฌอนเลย
ตามมาด้วยกระแสขุดคุ้ยประวัติและรุมจี้ให้ฌอนโชว์บัญชีรับบริจาคทั้งหมด
ผ่านไปหลายวัน ฌอนมีความเคลื่อนไหววันที่ 27 มิถุนายน เมื่อโพสต์ชี้แจงในเพจ ระบุ
เปิดรับบริจาคตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม จนถึง 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา
มียอดเงินได้รับบริจาคทั้งหมด 875,741.53 บาท
พร้อมนำใบเสร็จสั่งซื้อหน้ากากเอ็น 95 และเจลแอลกอฮอล์ บริจาคให้โรงพยาบาลต่างๆ เพื่อรับมือสถานการณ์โควิด-19
แต่สุดท้าย คำชี้แจงของฌอนถูกตั้งข้อสังเกตว่า ใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ในการรับบริจาคที่ต้องการนำไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าหรือไม่
ที่สำคัญ ยังพบว่ามีการใช้เงินบริจาคถึง 254,516.53 บาท จ้างบริษัทตัวเองทำคลิปประชาสัมพันธ์โครงการไฟป่า
เผยแพร่ลงในแฟนเพจ อินสตาแกรมและยูทูบของฌอน แถมยังใช้เงินบริจาคบูสต์โพสต์ด้วย
นั่นยิ่งทำให้ทัวร์ลงหนักในแฟนเพจของฌอน
ถึงขั้นยอดติดตามเพจฌอน บูรณะหิรัญ ลดลงจาก 4 ล้านไลก์ เหลือเพียง 2.8 ล้านไลก์
กระแสสังคมยังต้องการคำตอบจากฌอน ถึงจำนวนยอดเงินบริจาคที่แท้จริง
จนเกิดกระแสเรียกร้องให้ไลฟ์โค้ชคนดังโชว์บัญชีเงินรับบริจาคทั้งหมดและชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างเปิดเผย
ล่าสุด 7 กรกฎาคม ฌอน บูรณะหิรัญ อัดคลิปชี้แจงเงินบริจาคผ่านเฟซบุ๊ก ระบุ
ขออภัยในความไม่รอบคอบในการรับบริจาคทั้งหมดและความหละหลวมนำเสนอ “ข้อมูลชุดแรก” ที่ไม่ครบถ้วน
ทีมงานสรุปยอดเท่าที่มีใบเสร็จ ทำให้แจ้งยอดบริจาค 875,741.53 บาท ทั้งที่ยอดจริงการใช้เงินบริจาคคือ 991,541.36 บาท
ส่วนบัญชีมีเงินเข้ามาทั้งสิ้น 1,338,644.01 บาท
มีผู้บริจาคขอคืนเงิน 2 ราย ดำเนินการคืนแล้ว 300 บาท
ฌอนชี้แจงด้วยว่า ทันทีที่ทราบมีข้อมูลตกหล่น ในวันที่ 29 มิถุนายน จึงยื่นเรื่องให้หน่วยงานใน จ.เชียงใหม่ เข้ามาตรวจสอบใบเสร็จ บัญชีรับบริจาคและอื่นๆ
จากนั้นวันที่ 2 กรกฎาคม แสดงหลักฐานทั้งหมดต่อเจ้าหน้าที่
ยืนยันไม่ได้นำเงินบริจาคไปใช้ส่วนตัว ส่วนประเด็นใช้เงินบริจาคผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ เพียงแค่ต้องการให้ทุกคนเรียนรู้และตระหนักรู้ถึงไฟป่า
จึงนำเงินส่วนหนึ่งมาใช้และเป็นจุดเริ่มต้นของการไม่รอบคอบ
ยืนยันไม่ได้นำเงินบริจาคเป็นค่าจ้างทีมงาน แต่เป็นค่าโฆษณาทางเฟซบุ๊ก
ตอนนี้อยากขอโทษทุกคนและเสียใจ โดยจะไม่ทำผิดซ้ำเดิมอีก
แต่จนแล้วจนรอดคลิปชี้แจง “ข้อมูลชุดที่สอง” ของฌอน ก็ยังเจอช่องโหว่เข้าอีกจนได้
เมื่อมีผู้ตั้งข้อสังเกตบัญชีเงินบริจาคที่ฌอนนำมาแสดงนั้น มีรายการจ่ายหนี้บัตรเครดิตถึง 2.6 แสนบาทรวมอยู่ด้วย
แถมยังโอนเงินหลักล้านเข้าบัญชีส่วนตัว
ปมเงินบริจาคของฌอนถูกโยนไปถึง “ผู้ใหญ่ที่น่ารัก” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ที่ต้องตอบคำถามว่าได้ใช้เงินว่าจ้างฌอนทำประชาสัมพันธ์งานปลูกป่าหรือไม่
แต่คำตอบที่ได้จาก พล.อ.ประวิตร ไม่น่ารักเท่าไหร่ “ผมไม่เคยรู้จักคุณฌอน ไม่เคยเห็นหน้ากันเลย”
คำถามเดียวกันถูกโยนต่อไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) หน่วยงานเจ้าภาพ
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. ยืนยันกระทรวงเป็นหน่วยงานจัดงานปลูกป่าขึ้นจริง
แต่ไม่ได้ว่าจ้างฌอน 3 แสนบาทตามที่มีกระแสข่าว และส่วนตัวก็ไม่รู้จักนายฌอนว่าเป็นใคร
สำหรับการดำเนินการทางกฎหมาย นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ เผยว่า
ขณะนี้สอบสวนผู้เกี่ยวข้องจำนวนหนึ่งแล้ว พร้อมจะส่งหนังสือไปถึงฌอน ตามที่อยู่ผ่านไปรษณีย์อำเภอแม่ริม ในวันที่ 8 กรกฎาคม
ขีดเส้น 7 วันให้เข้าให้ข้อเท็จจริง พร้อมกันนี้ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังธนาคารเพื่อตรวจสอบบัญชีรับบริจาค
รวมถึงขอความร่วมมือดาราหนุ่ม “โตโน่ ภาคิน” หนึ่งในผู้ร่วมบริจาคเงิน 1 แสนบาทให้กับฌอน
มาให้ปากคำในฐานะพยานด้วย
ประเด็นเงินบริจาคของฌอน ถูกการเมืองอีกฝ่ายยกเทียบเคียงกับเงินบริจาคของคณะก้าวหน้า
เรื่องระดมทุนจากโครงการ “เมย์เดย์-เมย์เดย์ เราช่วยกัน”
โดยมีเสียงเรียกร้องให้โชว์บัญชีเงินบริจาคทั้งหมดเพื่อความโปร่งใสและความบริสุทธิ์ใจเช่นกัน
เนื่องจากมีการใช้ชื่อของ “ช่อ” น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้าเป็นผู้เปิดบัญชี
ล่าสุดวันที่ 7 กรกฎาคม คณะก้าวหน้าออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า
เมื่อวันที่ 1-2 พฤษภาคม คณะก้าวหน้าจัดกิจกรรมคอนเสิร์ตระดมทุน “เมย์เดย์-เมย์เดย์ เราช่วยกัน”
วัตถุประสงค์ช่วยสนับสนุนศิลปินและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดเมืองหยุดยั้งโควิด-19
แจกจ่ายให้ประชาชนรายละ 3,000 บาท โดยไม่ต้องพิสูจน์ความจน ให้ทุกคนที่แสดงความประสงค์ขอรับเงินผ่านแฟนเพจคณะก้าวหน้า
พร้อมแจงเปิดบัญชีรับบริจาคตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึงวันที่ 3 กรกฎาคม 2563
มีการโอนเงินเข้าบัญชี 7,751,783 บาท จากธุรกรรมทั้งสิ้น 15,383 ธุรกรรม
โอนเงินออกทั้งสิ้น 7,529,000 บาท จากธุรกรรมทั้งสิ้น 2,286 ธุรกรรม มีเงินสดเหลือในบัญชีทั้งสิ้น 222,783 บาท ณ วันปิดบัญชี 3 กรกฎาคม 2563
เงินโอนออกทั้ง 7,529,000 บาทนั้น โอนเพื่อถึงมือประชาชน 2,443 ครั้ง ถึงมือประชาชน 2,431 คน
สังเกตว่าจำนวนประชาชนที่ได้รับเงินกับจำนวนครั้งที่โอนมากกว่าจำนวนผู้ได้รับเงิน 16 ครั้ง มาจาก 2 สาเหตุคือ
1. มีผู้ได้รับโอน แต่ตกหล่นในการใส่รายชื่อในประกาศ 4 คน
2. จำนวนครั้งที่โอนมากกว่าจำนวนผู้ที่ได้รับเงิน 12 รายการ เกิดจากธนาคารโอนไม่ผ่าน 5 ธุรกรรม และพนักงานโอนซ้ำ 7 ธุรกรรม
ในกรณีพนักงานโอนซ้ำนั้น ผู้รับหรือพนักงานที่โอนซ้ำ นำเงินกลับมาคืนครบ 6 รายการ ผู้ได้รับซ้ำไม่โอนคืน 1 รายการ
หลังจากวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ปิดรับบริจาค ยังมีผู้มีจิตศรัทธาสมทบเงินเข้าสู่โครงการอีก ทำให้มียอดเงินรวม 422,783 บาท
เงินจำนวนนี้จัดสรร 200,000 บาท ใช้ในโครงการจ่ายค่าน้ำประปาให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยในชุมชนต่างๆ
เงินส่วนสุดท้าย 222,783 บาทที่ยังไม่ถูกใช้ และไม่เคยโอนออกจากบัญชีไปใช้ส่วนตัว
โดยเตรียมตั้งโครงการบริจาคอุปกรณ์การเรียนให้นักเรียนยากจน
คณะก้าวหน้ายืนยันสร้างสังคมที่น่าอยู่กว่านี้ ด้วยการทำงานการเมืองอย่างตรงไปตรงมา
ขณะที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เดินหน้าฟ้องบุคคลและกลุ่มบุคคลที่กล่าวหาคณะก้าวหน้ายักยอกเงินบริจาค
แม้ปมเงินบริจาคของฌอน บูรณะหิรัญ และคณะก้าวหน้า ถูกผสมโยงเป็นประเด็นการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและความโปร่งใสในการใช้เงินบริจาคอย่างถูกต้องตามวัตถุประสงค์
เพื่อเคลียร์ตัวเองพ้นจากข้อครหาของสังคมให้ได้
ถ้าเคลียร์ไม่ได้ก็เอวัง ไม่ว่าจะ “ฌอน” หรือ “ช่อ” ก็ตาม
Witthaya W. เนื้อหาข่าวนี้ เขียนเพื่ออะไร สำนักข่าวนี้จะช่วยใคร อ่านสำนักข่าวก็รู้ว่ามาจากผู้ถือหุ้น เบื่อคำโกหกสำนึกนี้เวรกรรมมีรอผลลัพธ์สำนักนี้
12 ก.ค. 2563 เวลา 03.40 น.
chayakot(toi) ต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ตลอดนะความจริงกลัวไร
12 ก.ค. 2563 เวลา 03.44 น.
KAY น่าจะเป็นที่สันดานส่วนคัวนะ แบบคนไม่เคยมีเงิน อยากได้อยากมีนู่นนี่นั่นจนอดใจไม่ได้คิดว่าเค้าชื่นชอบและบริจาคให้ตัวเองเอาไปใช้ส่วนตัว
12 ก.ค. 2563 เวลา 03.10 น.
𐒄λⲄⲄ𐒅𐒢Ꮚ 𐒨𐒅λ𐒐 ขอทานมาแจก ไม่แจง ไม่จบ....
12 ก.ค. 2563 เวลา 03.01 น.
LT.Arun Malasri หากินง่ายๆหลอกเอาเงินคนอื่น
12 ก.ค. 2563 เวลา 02.32 น.
ดูทั้งหมด