"สาวโรงงาน"โร่แจ้งความถูกโซเซียลรุมด่าขโมยหมา

เมื่อเวลา 9.30 น. ของวันที่ 7 กรกฎาคม 2563 ที่สถานีตำรวจภูธรภูพิงค์์ราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ น.ส.เสาวลักษณ์​ ขันทอง อายุ 24 ปี อาชีพ พนักงานโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นายอนุวัฒน์​ สุธรรมน้อย อายุ 25 ปี น.ส.ปรียาพร ศรีบานเรือง 17 ปี และนายประเสริฐ​ แซ่ท้าว อายุ 24 ปี ได้เข้าขอแจ้งความและลงบันทึกประจำวันเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ชี้แจงข้อเท็จจริง ขอความเป็นธรรม หลังถูกโซเชียลมีเดีย รุมกล่าวหาว่าได้ขโมยสุนัขจากวัดผาลาด ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ไปเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 63

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 63 ได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งชื่อ Weerapong Weerakasitsrivichai โพสต์ตามหาสุนัขพันธุ์เฟรนบลูด็อก จำนวน 2 ตัว ว่า ได้หายไปจากวัดผาลาดเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 63 โดยมีหญิงสาวสองคนนำตัวขึ้นรถไปด้วย พร้อมทั้งนำภาพมาหญิงสาวสองคนโพสต์ประกอบ  หลังจากนั้นก็มีสื่อนำไปเสนอในสื่อออนไลน์ จนมีการวิพากษ์วิจารณ์โจมตีกล่าวหาว่าหญิงสาวทั้ง 2 คนเป็นจำนวนมาก ว่าเป็นผู้ที่ขโมยหมาของวัด

น.ส.เสาวลักษณ์​ ขันทอง กล่าวว่า วันนี้มาแจ้งความและขอลงบันทึกประจำวันเอาไว้ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อขอความเป็นธรรมจากสังคม หลังถูกกล่าวหาจนเสียหาย ว่าเป็นคนใจบาปขโมยสุนัขของวัด โดยเรื่องราวในวันที่พบสุนัขคือ ตนเอง แฟน และพี่สาว ได้ไปเที่ยวบนดอยสุเทพ ระหว่างทางกลับลงจากดอยสุเทพ ก็ได้เห็นว่ามีกลุ่มวัยรุ่นจอดรถแล้วโบกมือเรียกจึงจอดถามคิดว่ารถเสีย จึงพบว่ามีสุนัขพลัดหลง เป็นพันธุ์เฟรนบลูด็อก เป็นสุนัขที่มีราคาค่อนข้างสูง ที่ทราบเพราะว่าตนเองนั้นเป็นคนชอบเลี้ยงสุนัขอยู่แล้ว จึงสังเกตว่าสุนัขไม่มีปลอกคอ ก็เลยไม่ทราบว่าเป็นสุนัขของใคร จึงอาสารับไปเลี้ยงไว้ก่อน หากมีเจ้าของติดต่อมาก็จะคืนให้ โดยมีน.ส.ปรียาพร ศรีบานเรือง และนายประเสริฐ​ แซ่ท้าว ซึ่งเป็นผู้พบคนแรก ช่วยโพสต์ตามหาเจ้าของด้วย 

แต่พอมาถึงเมื่อวานนี้ กลับพบว่ามีการโพสต์ตามหาสุนัขพร้อมทั้งด่าทออย่างหยาบคายว่า “เปรตก่อนตาย ขโมยของวัดระวัง หมาธรรมดาในวัดมึงไม่เอา แต่หมาพันธุ์ดี มีราคากลับขโมยเอาไป เดรัจฉานเรียกพ่อนะมึง” จึงได้ติดต่อคืนสุนัขให้ และขอให้ลบโพสต์ เพราะตนเองไม่ได้ขโมย แต่ทางเจ้าของโพสต์ที่ชื่อว่า Weerapong Weerakasitsrivichai กลับไม่ยอมลบและบอกว่า ไม่ได้ว่าใคร หลังจากนั้น ก็มีสื่อบางสื่อนำข่าวไปนำเสนอ ทำให้ในโลกออนไลน์มารุมด่า จนเกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงและความดีที่สะสมมา

จากการโพสต์ของคุณลุงคนดังกล่าว ได้อ้างว่าตนเองไปเอาสุนัขมาจากหน้าวัด และสุนัขมีปลอกคอชัดเจน ทำไมถึงกล้าเอาไป ตนจึงอยากชี้แจงเรื่องนี้ว่า ตอนที่พบสุนัข สุนัขไม่ได้มีปลอกคอ รูปภาพที่มีสามารถยืนยันได้ ส่วนจุดที่พบห่างจากวัดผาลาดประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งไม่ตรงกับสิ่งที่คุณลุงพูดกล่าวหาในเบื้องต้น

“อยากจะให้คุณลุงเจ้าของสุนัข ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง รวมถึงโพสต์ข้อความที่แก้ข่าวให้กับตนเอง และขอโทษตนเอง ที่ทำให้เสียหาย เรื่องสุนัขไม่ได้ติดใจเอาความอะไร แต่เรื่องของการโพสต์และเรื่องที่ถูกล่าวหา ยอมรับว่าเสียความรู้สึก ตั้งใจทำความดี แต่กลับถูกมองเป็นคนไม่ดี ต่อจากนี้จะช่วยเหลือสุนัข ก็คงต้องดูให้ดีก่อน” น.ส.เสาวลักษณ์ กล่าว

ด้านร.ต.ท.หญิง ณิชา แพงไทสง พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรภูพิงค์์ราชนิเวศน์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งความและลงบันทึกประจำวันเอาไว้ แต่ไม่ได้ให้คำแนะนำอะไรไป แค่รับลงบันทึกประจำวันเอาไว้ตามระเบียบ

ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามนายวีระพงษ์ วีระกษิตศรีวิชัย ซึ่งเป็นเจ้าของสุนัขและเจ้าของเฟสบุ๊ค Weerapong Weerakasitsrivichai โดยนายวีระพงษ์ กล่าวว่า สำหรับตนเองเรื่องนี้ถือว่าจบแล้ว ที่โพสต์ไปทั้งหมด ไม่ได้ไปกล่าวหาใคร แค่โพสต์ตามหาสุนัข ส่วนเรื่องปลอกคอ พระที่วัดบอกว่าตอนที่เจอสุนัขในวัดยังมีปลอกคอ แต่จะไปหายตอนไหน ก็ไม่ทราบเหมือนกัน 

สำหรับตนได้สุนัขคืน ถือว่าสิ้นสุดเรื่องราวแล้ว ส่วนที่ทางน้องผู้หญิงบอกว่าเสียหายจากโพสต์และโดนด่าในโซเชียล ก็ให้น้องไปดำเนินการแจ้งความกับคนโซเชียลเอง ตนไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องนี้ตนเองก็โดนด่าเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อจากนี้ ก็ว่ากันไปตามนั้น