ทั่วไป

ยาเสพติดทำโรคจิตพุ่ง พบเหตุรุนแรงเพิ่ม3เท่า

เดลินิวส์
อัพเดต 26 มิ.ย. 2562 เวลา 07.57 น. • เผยแพร่ 26 มิ.ย. 2562 เวลา 06.48 น. • Dailynews
“จิตแพทย์”เผยคนไทยติดยาทำป่วยโรคจิตกว่า 3.2 แสนคน ก่อเหตุรุนแรงในสังคมเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว ทั้งทำร้ายตัวเอง ทำร้ายผู้อื่น ลักทรัพย์ แนะสังเกต 7 อาการเสี่ยง หากเจอแจ้งตำรวจ หรือ 1669 รับตัวเข้าระบบการรักษา

เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ยาเสพติดเป็นปัญหาที่ประเทศไทยและทั่วโลก ซึ่งผู้ติดสารเสพติดจะมีความสัมพันธ์กับการเกิดอาการทางจิต เช่น ภาวะหวาดระแวง หลงผิด ประสาทหลอน ซึ่งจะนำไปสู่พฤติกรรมที่ใช้ความรุนแรง ทำร้ายตนเองและใกล้ชิด ที่มักจะเห็นในข่าวเป็นประจำ ทั้งนี้ในประเทศไทยพบผู้ใช้สารเสพติดชนิดใดชนิดหนึ่ง 1.4 ล้านคนต่อปี ในจำนวนนี้มีผู้เสพแล้วติด 3.2 แสนคน และในจำนวนนี้เข้าสู่ระบบการบำบัดของกรมสุขภาพจิต 24,196 คน แบ่งเป็นผู้ป่วยจิตเวชติดสารเสพติดรุนแรง 5,757 คน และเป็นผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติดที่เสี่ยงต่อการก่อความรุนแรง 577 คน ทั้งนี้ในปี 2561 พบสถิติผู้ป่วยยาเสพติดที่มีอาการทางจิตเวชก่อเหตุรุนแรงในสังคม 267 ราย เฉลี่ยเพิ่มมากขึ้น 3.92 เท่า โดยเป็นชาย 259 ราย หญิง 7 ราย และพบว่ามีกี่ทำร้ายตนเองและผู้อื่น 90 คน ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย 58 คน ลักทรัพย์ 47 คน และทำลายข้าวของ น 44 คน จากรายงานพบว่าในจำนวนคนก่อเหตุเป็นผู้ป่วยจิตเวชที่เคยรับการบำบัด 104 คน

อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ขอให้ร่วมกันสังเกต 7 สัญญาณเตือนผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติดก่อความรุนแรง คือ 1. ขีดข่วนหรือกรีดตัวเองเป็นรอยแผล 2. ส่งเสียงดังหรือตะโกนด่าด้วยคำหยาบคายรุนแรง 3. ข่มขู่จะทำร้ายผู้อื่น 4. ทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ 5. พกพาหรือสะสมอาวุธโดยไม่สมเหตุสมผล 6. รื้อ ขว้างปาข้าวของกระจัดกระจาย และ 7. ทำลายสิ่งของจนแตกหัก รวมถึงการสังเกตเฝ้าระวังพฤติกรรมและอาการที่เข้าข่ายเป็นผู้ที่มีความผิดปกติทางจิตที่มีความจำเป็นต้องได้รับการรักษา ได้แก่ หูแว่ว เห็นภาพหลอน หวาดระแวงไร้เหตุผล อยากฆ่าตัวตาย ทำร้ายตนเอง ทำร้ายคนอื่น พูดจาก้าวร้าว พูดจาเพ้อเจ้อ หลงผิด และแต่งกายแปลกกว่าคนปกติ หากพบสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือ โทร. 1669 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อนำตัวเข้ารับการรักษาที่เหมาะสม ช่วยลดการก่อเหตุความรุนแรงในสังคม ตามแนวทางการส่งต่อผู้ป่วย ตามพ.ร.บ.สุขภาพจิต พ.ศ.2551

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ คนในชุมชนสามารถมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยจิตเวชได้ ดังนี้ 1. ช่วยกันดูแล ติดตามให้ผู้ป่วยกินยาอย่างต่อเนื่อง 2. ร่วมพิทักษ์สิทธิ์ผู้ป่วยจากการถูกเอาเปรียบจากสังคม 3. เฝ้าระวังสังเกตอาการ หากผิดปกติหรือมีอาการกำเริบให้รีบแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ 4. ส่งเสริมอาชีพ หางานอดิเรกให้ทำ เพื่อฝึกสมาธิและให้ผู้ป่วยมีรายได้ และ 5. ให้กำลังใจผู้ป่วยและสนับสนุนให้ผู้ป่วยสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาชุมชนได้.

ดูข่าวต้นฉบับ