สงครามการค้าที่ยืดเยื้อและตึงเครียดระหว่าง Huawei และรัฐบาลสหรัฐฯ ยิ่งนานวันดูเหมือนจะไม่ส่งผลดีกับทั้งสองฝ่าย ล่าสุด Andrew Williamson รองประธานาธิบดีฝ่ายกลยุทธ์ของ Huawei ระบุว่า ภาคส่งออกของสหรัฐฯ ไม่เฉพาะเพียงอุตสาหกรรมไอที แต่ส่วนอื่น ๆ จะได้รับผลกระทบรายได้รวมแตะ 5.6 หมื่นล้านดอลลาร์ และกระทบกับพนักงานในภาคอุตสาหกรรมอีก 74,000 คน ขณะที่ทาง Huawei เองยืนยันว่า บริษัทได้วางแผนรับมือและมองไปถึงการเติบโตต่อเนื่องแล้ว
“เรามีแผนรับมือมากมายอยู่แล้วหลายตัวเลือก ในสถานการณ์ที่เกิดความไม่แน่นอนทางการเมือง เรากำลังเดินหน้าพัฒนาต่อเนื่อง”
Williamson ระบุว่า Huawei เป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ เนื่องจากในแต่ละปี Huawei ได้มีงบลงทุนในสหรัฐฯ สูงถึง 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำให้ในระยะยาวแล้วไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจในสหรัฐฯ เอง โดยหากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย Huawei ก็พร้อมที่จะลงทุนในการวิจัยและพัฒนากับประเทศที่ต้อนรับพวกเขา ซึ่งสุดท้ายแล้วผู้บริโภคคือผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรและขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า จะทำให้ตัวสินค้าราคาแพงขึ้น นอกจากนี้ หากประเทศใดที่เดินตามมาตรการคว่ำบาตรพวกเขา ก็จะเข้าถึงเทคโนโลยี 5G ได้ช้ากว่ากำหนด 1 ปีครึ่ง- 2 ปี เป็นอย่างน้อย ซึ่งก็ไม่เกิดผลดีกับรายได้และโอกาสมากมายของประเทศนั้น ๆ ในการแข่งขันกับตลาดโลกด้วย
แชร์โพสนี้
Poppy Stitch Meow Huawei สะเทือน ระยะสั้น
มะกัน สะเทือน ระยะยาว
24 มิ.ย. 2562 เวลา 13.25 น.
Chanwit ต่อไป แอฟริกา อาเซียน จะมี 5g ที่ดีกว่าอเมริกาแน่นอน
24 มิ.ย. 2562 เวลา 08.21 น.
Sunny รอบนี้ก็เลือกมันเข้ามาอีกนะ
25 มิ.ย. 2562 เวลา 00.15 น.
ดูทั้งหมด