ทั่วไป

ร.ต.อ.ยิงตัวตาย เหตุเครียดถูกคำสั่งย้ายไปอยู่ฝ่ายสอบสวนงานไม่เคยทำ กลายเป็นคำสั่งตายสังเวยวงการสีกากี

ไทยโพสต์
อัพเดต 27 มิ.ย. 2562 เวลา 03.01 น. • เผยแพร่ 27 มิ.ย. 2562 เวลา 03.01 น. • ไทยโพสต์

ร.ต.อ.ยิงตัวตายคาบ้าน เมียเผยปมเหตุสามีเครียดหนักถูกคำสั่งย้ายจากตำแหน่งฝ่ายป้องกันปราบปราบถูกยัดเยียดให้ไปอยู่ฝ่ายสืบสวนเป็นงานที่ไม่เคยทำจนกลายเป็นคำสั่งตาย ทำลายครอบครัว ลูกๆยังเด็กต้องกำพร้าพ่อ ฝากถามถึงผู้ใหญ่เคยใส่ใจปัญหาหรือไม่ อย่าคิดเองตามใจชอบเพื่อผลประโยชน์

27 มิ.ย.62 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.อติชาติ พรฑิตกุล รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.มาบอำมฤต ได้รับแจ้งเหตุตำรวจยิงตัวตายในบ้านเลขที่ 119 ถนนเทศบาลซอย 6 หมู่ที่ 12 ตำบลดอนยาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร เมื่อช่วงเวลา 20.00 น.วันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุวรรณฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.ท.ประพาส รอดเกลี้ยง รอง ผกก.(ป) พ.ต.ท.บุญเชต กัลปหา รอง ผกก.ส.ส. ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.มาบอำมฤต หน่วยกู้ภัยปะทิว หน่วยกู้ชีพเทศบาลมาบอำมฤต

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจาก สภ.มาบอำมฤต ประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นบ้าน 2 ชั้น หลังใหญ่สวยงามอยู่ติดกับถนนคอนกรีต เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณห้องนอนชั้นสองโดยห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป พบศพทราบชื่อ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ สุชาติพงษ์ อายุ 48 ปี สภาพศพนุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีดำใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนที่นอนมีแผลถูกยิงที่ขมับขวาทะลุขมับซ้ายกระสุนพุ่งขึ้นไปเจาะฝ้าเพดานห้องเป็นรู ที่มือขวากำปืนสั้นขนาด 9 มม.ยีห้อกล๊อค กระสุนในรังเพลิงถูกยิงออกไปแล้ว 1 นัด มีหมอนโชกเลือดตกอยู่ข้างศพ 1 ใบ มีร่องรอยกระสุนปืนจ่อยิงจนทะลุ บนหัวเตียงนอนมีวิทยุสื่อสารวางอยู่ 1 เครื่อง

นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังพบสมุดบันทึกที่ ร.ต.อ.พิเชษฐ์เขียนข้อระบายไว้ 3 หน้ากระดาษ โดยระบุถึงสาเหตุที่ต้องยิงตัวตามมาจากคำสั่งที่ถูกย้ายจากงานสายป้องกันและปราบปราบไปอยู่ในตำแหน่งงานสอบสวนอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม และความอัปยศต่างๆในแวดวงสีกากีที่มีการวิ่งเต้นโยกย้ายในตำแหน่ง จนตำรวจดีๆต้องหมดหวังหมดกำลังใจ เจ้าหน้าจึงเก็บสมุดบันทึกดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน พร้อมส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียดที่โรงพยาบาล

จากการสอบสวนทราบว่าช่วงเกิดเหตุ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ ออกเวรกลับจาก สภ.มาบอำมฤต แล้วเดินทางกลับเข้าบ้านหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เข้าไปเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องนอนเพียงคนเดียวโดยชั้นบนของบ้านได้ปิดไฟมืดสนิท ขณะลูกสาวคนโตอายุ 14 ปี เรียนชั้น ม.1 นั่งทำการบ้านอยู่บริเวณชั้นล่าง ส่วนภรรยาและลูกชายวัย 9 ขวบ เดินออกไปทำธุระที่บ้านพี่ชายซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 500 เมตร จากนั้นไม่นานมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด แต่เสียงไม่ดังมากนัก ลูกสาวที่นั่งทำการบ้านอยู่เข้าใจว่าเป็นเสียงรถท่อรถจักรยานยนต์ ต่อมาจึงคิดเอะใจว่าทำไมพ่อปิดไฟในห้องนอนและชั้น 2 บนบ้านปิดไฟมืดสนิททั้งหมด จึงโทรศัพท์ไปบอกแม่ให้รีบกลับบ้านมาดูพ่อ และเมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปดูก็พบว่า ร.ต.อ.พิเชษฐ์ใช้หมอนปิดศีรษะเพื่อเก็บเสียงแล้วใช้อาวุธปืนจ่อยิงฆ่าตัวตายดังกล่าว

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ขณะที่ นางแอนนา สินธุนนท์ อายุ 44 ปี ภรรยาผู้ตายได้กล่าวด้วยความขุ่นเคืองเสียงดังต่อหน้า พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุวรรณฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร ถึงปมเหตุที่สามีตนเองยิงตัวตายว่ามาจากความเครียดในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา หลังมีคำสั่งย้ายสามีตนจากตำแหน่งรองสารวัตรป้องกันและปราบปราม ไปอยู่ตำแหน่งรองสารัตรสอบสวน เป็นการย้ายตำรวจจากงานถนัดไปอยู่งานที่ไม่เคยทำมาก่อน โดยไม่เคยสอบถามความสมัครใจใดๆทั้งสิ้น คิดจะย้ายใครไปอยู่ตรงไหนก็ย้ายทำให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่ ตนขอตัดขาดจากวงการตำรวจนี้อย่างเด็ดขาดจะไม่ขอเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นอีกต่อไป

ขณะที่ พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ยืนฟังด้วยสีหน้าเคร่งเครียดพร้อมกล่าวปลอบใจและให้กำลังใจแก่นางแอนนา

นางแอนนา กล่าวกับผู้สื่อข่าวอีกว่า ปกติสามีตนเป็นรักครอบครัว สนุกสนาน ร่าเริงมีอัธยาศัยดีเพื่อนร่วมงานและชาวบ้านรัก แต่หลังจากมีคำสั่งย้ายช่วงกว่า 3 เดือนที่ผ่านมา สามีตนกลายเป็นคนเครียดเก็บกดเก็บตัวไม่สุงสิงกับใครเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยทีเดียว ไม่ค่อยกินอาหารจนผอมและจะพูดจาตัดพ้อกับตนและเพื่อนๆทุกวันเกี่ยวกับตำแหน่งที่ถูกปรับย้าย ตนขอฝากถามไปถึงระดับผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า การโยกย้ายตำรวจแต่ละครั้งนั้นคิดจะย้ายใครไปอยู่ตรงไหนก็ได้ใช่ไหม โดยไม่ต้องสอบถามผู้ที่ถูกย้ายว่ามีความสามารถทำงานด้านใดได้บ้าง เคยรู้ปัญหาเหล่านี้ไหม ไม่ใช่คิดแต่จะหาผลประโยชน์วิ่งเต้นตำแหน่งกัน คำสั่งโยกย้ายครั้งนี้กลายเป็นคำสั่งตายทำลายครอบครัวตนลูกๆทั้ง 2 คนที่ต้องกำพร้าพ่อตั้งแต่ยังเด็กทำให้ขาดเสาหลักของครอบครัว เป็นเพราะคำสั่งดังกล่าวที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ สุชาติพงษ์ อดีตเป็นตำรวจชั้นประทวนยศจ่าสิบตำรวจ(จ.ส.ต.)ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ฝ่ายป้องกันและปราบปราม ประจำอยู่ที่ สภ.มาบอำมฤต ต่อมาได้ตั้งใจเรียนจนจบระดับปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จากนั้นในปี พ.ศ.2548 สอบติดนายตำรวจสัญญาบัตรในตำแหน่งรองสารวัตรป้องกันและปราบปราบ(รอง สว.ป.)

จนเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งโยกย้ายระดับ สว.รอง ผบก.ตามคำสั่งที่ 127/2562-139/2562 จำนวน 6239 ตำแหน่ง โดยคำสั่งดังกล่าวได้โยกย้าย ร.ต.อ.พิเชษฐ์ สุชาติพงษ์ รอง สว.ป.สภ.มาบอำมฤต ไปอยู่ในตำแหน่ง รอง สว.(สอบสวน) จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 15
  • Solar cell
    ข่าวลงให้ชัดๆหน่อยแรกๆบอกสืบสวนหลังๆเปลี่ยนเป็นสอบสวน ถ้าย้ายจากสายปราบปรามมาสายสืบสวนเขาคงไม่เครียด แต่ถ้าย้ายมาสอบสวนทุกคนเครียดเพราะมันคืองานเอกสาร งานกฎหมายงานสัมผัสกับประชาชน และเป็นงานหนักที่สุดของตำรวจเพราะต้องทำคดี สรุปสำนวนส่งอัยการ กดดันสุด เป็นกลุ่มงานของตำรวจที่มีแต่ตำรวจดีๆอยู่เยอะสุด ตำรวจที่ทำงานสอบสวนส่วนใหญ่จบนิติศาสตร์ เครียดอยู่ท่ามกลางประชาชนกับเจ้านายและเพื่อนตำรวจ เพื่อนตำรวจทำผิดก้อลำบากใจ. นายจะช่วยโจรเอาเงินก้อกดดัน เช่นคดีหวย30ล้าน ประขาชนก้อกดดัน มีทนายอาสาอีก กรรมจริง
    27 มิ.ย. 2562 เวลา 04.38 น.
  • MUY.
    เป็นแบบนี้ล่ะครับ ไม่มีเส้นไม่สายไอ้ตัวเป้งๆไม่เห็นหัว หรอกครับ
    27 มิ.ย. 2562 เวลา 04.14 น.
  • Chotika789
    ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยนะคะ...ขอคารวะในความกล้าหาญของคุณแอนนาที่กล้าพูดใส่หน้านายตำรวจชั้นผู้ใหญ่”คำสั่งย้ายคือคำสั่งตาย”ขอให้คุณแอนนาและลูกๆทั้งสองเข้มแข็งและก้าวผ่านความเสียใจไปให้ได้เชื่อเถอะประชาชนอีกมากมายเป็นกำลังใจให้นะคะ
    27 มิ.ย. 2562 เวลา 04.38 น.
  • เพชร
    ว่าไงละครับผูหลักผู้ใหญ่ จะแก้ตัวว่าไงละครับเคยสนใจผู้ใต้บังคังบัญชาไหม
    27 มิ.ย. 2562 เวลา 04.05 น.
  • tam
    คนสั่งย้าย มีหลอน
    27 มิ.ย. 2562 เวลา 03.37 น.
ดูทั้งหมด