ทั่วไป

คลายล็อก-การ์ดตก ไม่ได้เสี่ยงแค่โควิด เมาแล้วขับก็ตายพุ่ง!

NATIONTV
อัพเดต 30 พ.ค. 2563 เวลา 11.12 น. • เผยแพร่ 30 พ.ค. 2563 เวลา 10.05 น. • Nation TV
คลายล็อก-การ์ดตก ไม่ได้เสี่ยงแค่โควิด เมาแล้วขับก็ตายพุ่ง!

เปิดข้อมูลศูนย์วิชาการความปลอดภัยทางถนน แฉคลายล็อก-การ์ดตก ไม่ได้เสี่ยงแค่โควิด แต่ยังเพิ่มโอกาสการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนจากพฤติกรรม "เมาแล้วขับ" หมอบ่นด่านตรวจแอลกอฮอล์หายเกลี้ยง

การคลายล็อกเฟส 3 ทั้งโรงหนัง ร้านนวด ศูนย์ประชุม ฟิตเนส การเดินทางข้ามจังหวัด และร่นเวลาเคอร์ฟิว แน่นอนว่าย่อมทำให้บรรยากาศทางเศรษฐกิจและการทำงานของผู้คนคึกคักขึ้น แต่สิ่งที่เกิดตามมาอีกด้านหนึ่งก็คือ ความเสี่ยงในการกลับมาแพร่ระบาดของโควิด-19 เพราะเห็นชัดว่าเมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการทุกครั้ง คนไทยมักจะ "การ์ดตก"

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

หลักฐานสำคัญของสภาวะ "การ์ดตก" ก็คือ สถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เพิ่มขึ้นทันทีหลังจากรัฐบาลผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์

นพ.ธนะพงษ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการความปลอดภัยทางถนน บอกกับ "เนชั่นทีวี" ว่า การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในเดือนเมษายนปี 63 ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลใช้มาตรการเข้ม ทั้งล็อกดาวน์และเคอร์ฟิว เทียบกับเดือนเดียวกันในปี 62 ปรากฏว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนทั่วประเทศ ลดลงถึง 50% คือเหลือเพียง 588 ราย เฉลี่ย 19.6 รายต่อวัน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ที่สำคัญ เฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ อุบัติเหตุทางถนนและยอดผู้เสียชีวิตลดลง 56.7%

แต่หลังจากรัฐบาลผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม โดยเฉพาะการอนุญาตให้จำหน่ายสุราแบบซื้อกลับ ปรากฏว่าช่วงวันที่ 1-25 พฤษภาคม มียอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมากถึง 805 ราย ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้วเพียง 7.58% เฉลี่ยมีผู้เสียชีวิต 32.2 คนต่อวัน ใกล้เคียงกับปี 62

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

มีข้อสังเกตที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งคือ แม้จะผ่อนคลายล็อกดาวน์ แต่ยังมีเคอร์ฟิวอยู่ จึงส่งผลต่อรูปแบบความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนในบางมิติ เช่น เมื่อเจาะลงไปที่อายุของกลุ่มผู้เสียชีวิต พบว่าอุบัติเหตุทางถนนจากเมาแล้วขับ เทียบกับปี 62 ลดลงมากในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน อายุระหว่าง 15-39 ปี และลดลงช่วงเวลากลางคืน เนื่องจากกลุ่มวัยรุ่นวัยทำงานปกติจะซื้อหรือดื่มนอกบ้านเป็นหลัก เมื่อห้ามรัฐบาลสั่งปิดสถานบันเทิงและมีเคอร์ฟิว ทำให้การเกิดอุบัติเหตุของคนกลุ่มนี้ลดลงมาก

ส่วนกลุ่มสูงอายุ ปรากฏว่าสถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุไม่แตกต่างกับปี 62 เพราะส่วนใหญ่สังสรรค์และดื่มที่บ้าน โดยมีเพื่อนฝูงมาร่วมดื่มด้วย เมื่อเมาก็ขับขี่กลับบ้าน จึงมียอดตายไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง

นพ.ธนะพงษ์ สรุปว่า ปัญหาการตายจากดื่มแล้วขับหลังรัฐบาลผ่อนปรนมาตรการกลับมาเป็นประเด็นสำคัญ นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่หายไปในช่วงนี้คือ "แทบไม่เหลือด่านตรวจวัดเมาขับ" อยู่บนท้องถนนเลย และด่านตรวจโควิดก็น้อยลงมากด้วย

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 2
  • สาธิต 😱
    ปลดล็อก คนก็ออกเที่ยว ออกไปกิน ออกไปดื่ม ออกไปเอา สุดท้ายไม่ได้ตายเพราะโควิท แต่ตายเพราะเมาแล้วขับ ไม่ก็เมาแล้วทะเลาะกัน ไม่ก็ทะเลาะแย่หญิง ยิงกันตาย ใช่ครับ ถูกต้องที่เศรษฐกิจ ธุรกิจกลางคืนกลับมามีรายได้ ร้านเหล้า ผับบาร์ อ.อ.น. คาราโอเกะ ข้าวต้มโต้งรุ่ง เงินสะพัด แต่ก็ต้องแลกกับการเกิดคดีพวกนี้แหละ ก็ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ โรงพยาบาล ที่ต้องคอยระงับเหตุ หรือต้องคอยรักษาคนที่ประสบอุบัติเหตุ ไว้ด้วยครับ
    30 พ.ค. 2563 เวลา 12.15 น.
  • BOM
    จำกัดการจำหน่ายสุราได้แค่วันศุกร์เสาร์ก็พอช่วยลดอุบัติเหตุ เพราะภาครัฐไม่มีปัญญาแก้ปัญหาเมาแล้วขับ
    30 พ.ค. 2563 เวลา 11.48 น.
ดูทั้งหมด