ไอที ธุรกิจ

BTSแจงเพิ่มทุนขยายหุ้นกู้ แค่เตรียมตัว-เซ็นอู่ตะเภา

ทันหุ้น
อัพเดต 04 มิ.ย. 2563 เวลา 00.45 น. • เผยแพร่ 04 มิ.ย. 2563 เวลา 00.45 น.

ทันหุ้น – สู้โควิด –อย่าตกใจ! บอร์ด BTS สั่งขยายวงเงินหุ้นกู้อีก 3 หมื่นล้านบาท พร้อมขอสิทธิ์เพิ่มทุนไว้ก่อนเพื่อขาย PP อีก 1,100 ล้านหุ้น ผู้บริหารแจงแค่เตรียมพร้อมสภาพคล่องรับ 3 โครงการใหญ่แต่ยังไม่รีบ โชว์กำไรโต 184% นักวิเคราะห์ชี้ขอเพิ่มทุนทุกปีแต่ไม่เคยใช้สิทธิ์ ระบุ 2 งานใหญ่ดันมูลค่าอีก 1 บาท จากเป้า 14.30 บาท เตรียมลงนาม PPP อู่ตะเภา 19 มิ.ย.นี้

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งผู้ที่เสนอผลตอบแทนให้ภาครัฐบาลสูงที่สุด คือ  กลุ่มกิจการร่วมค้า BBS มูลค่าการร่วมลงทุน 290,000 ล้านบาท เบื้องต้นมีกำหนดลงนามสัญญาร่วมทุนวันที่ 19 มิถุนายน 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ระบุ บริษัทได้งานโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ อาทิ โครงการเมืองการบินภาคตะวันออก สนามบินอู่ตะเภา, การดำเนินงานและบำรุงรักษา (Operation and Maintenance: O&M) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) ฯลฯ

BTS Groupจึงเตรียมเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้น พิจารณาและอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯ โดยมีวงเงินรวมกันทั้งสิ้น ณ ขณะใดขณะหนึ่ง ไม่เกิน 60,000 ล้านบาท โดยเป็นการเพิ่มวงเงินการออกหุ้นกู้อีกจำนวน 30,000 ล้านบาท จากวงเงินเดิม ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 ของบริษัทฯ ได้อนุมัติไว้จำนวน 30,000 ล้านบาท

“วงเงินเดิมที่ 3 หมื่นล้านบาทเราใช้ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวไปประมาณ 2.95 หมื่นล้านบาท ก็เลยจะอนุมัติออกหุ้นกู้อีกชุดหนึ่งเพื่อเป็นสภาพคล่องของบริษัท ซึ่งเราไม่ได้จะออกเพียงครั้งเดียวเต็มวงเงินดังกล่าว จะเป็นการทยอยออกตามกรอบเวลาที่เหมาะสม”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ย้ำสภาพคล่องสูง

นอกจากนี้การขออนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ แบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวนไม่เกิน 4,400 ล้านบาท หรือเท่ากับประมาณ 8.36% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทฯ โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 4 บาท เพื่อเสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement)นั้น เป็นการขออนุมัติเพื่อต่ออายุจากการประชุมเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้ทาง Groupเสียโอกาสการลงทุน หรือการเสริมสภาพคล่องทางการเงินระหว่างปี เท่านั้น

“เราขออนุมัติต่ออายุทุกปี แต่เราก็ไม่เคยใช้สิทธิ เพราะสภาพคล่องทางการเงิน พันธมิตรทางการเงินทั้งธนาคารพาณิชย์ เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลายทั้งการออกตั๋ว BE, การออกหุ้นกู้ ฯลฯ ทำให้เรามีความมั่นใจ และพร้อมที่จะผนึกพันธมิตรเข้าร่วมประมูลโครงการขนาดใหญ่ที่ทั้งเรา และพันธมิตรมีความถนัดอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งในอนาคต”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

พร้อมเปิด 4 สถานี

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายใหม่สายสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เพิ่ม 4 สถานี ได้แก่ สถานีกรมป่าไม้ (N14) สถานีบางบัว (N15) สถานีกรมทหารราบที่ 11 (N16) และสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (N17) จะเริ่มในวันที่ 5 มิถุนายน 2563 นี้เป็นต้นไป โดยบริษัทจะยังคงดำเนินการตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม และการรักษาความสะอาดภายในขบวนรถ, สถานี รวมถึงบริเวณโดยรอบสถานีอย่างเคร่งครัด และจะยังคงเพิ่มความถี่ในการปล่อยรถในช่วงเวลาเร่งด่วนช่วงเช้า-เย็นเพื่อรองรับการให้บริการประชาชนอย่างทั่วถึง

โชว์กำไรสุทธิโต 184%

ทั้งนี้ BTS เผยผลประกอบการปี 2562/63 (สิ้นสุด มี.ค. 2563) มีกำไรสุทธิ 8.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 184% จากปี 2561/2562  มีรายได้รวม 4.22 หมื่นล้านบาท โดยรายได้และกำไรส่วนใหญยังมาจากธุรกิจระบบขนส่งมวลชน ในส่วนธุรกิจสื่อโฆษณา มีผลการดำเนินงานเติบโตแข็งแกร่งแสดงกำไรสุทธิสูงสุดใหม่ ที่ 1.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% จาก ปี2561/2562

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด คาดสาเหตุที่ราคาหุ้น BTS ไมตอบสนองผลการดำเนินงาน รวมถึงกำหนดการลงนามสัญญาโครงการเมืองการบินตะวันออก สนามบินอู่ตะเภา เนื่องจากนักลงทุนกังวลข่าวการขออนุมัติเพิ่มทุนทุนจดทะเบียน General Mandate วงเงิน 1,100 ล้านบาท ซึ่งทาง BTSมีการขออนุมัติเผื่อไว้ทุกปี แต่ไม่เคยใช้สิทธิ์ดังกล่าว

งานใหม่เพิ่มมูลค่า 1 บาท

ฝ่ายวิเคราะห์ประมาณการว่า BTSยังคงมีสภาพคล่องทางการเงินที่แข็งแกร่ง เนื่องจากผลการดําเนินงานได้รับผลกระทบจํากัดจากจํานวนผู้โดยสารที่ลดลงเพราะสถานการณ์โควิด-19 อีกทั้งยังมีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นหลายอย่างรออยู่: การต่อสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวการเซ็นสัญญา, โครงการมอเตอร์เวย์สองสายและสนามบินอู่ตะเภาโดยคาดว่า 2 โครงการนี้จะช่วยหนุนให้มูลค่าของ BTS ปรับขึ้นได้อีกประมาณ 1 บาทต่อหุ้น จากราคาเหมาะสมที่ 14.30 บาท จึงคงคำแนะนำซื้อ