รถติดทั่วกรุงยังคงเป็นปัญหาโลกแตกที่รัฐบาลหลายยุคหลายสมัยแก้ไม่ตก ส่วนหนึ่งมาจากถนนทุกสายล้นทะลักไปด้วยรถยนต์มีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี สวนทางกับโครงข่ายถนนที่มีอยู่ไม่เพียงพอรองรับ
ขณะที่ระบบขนส่งสาธารณะไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ รถไฟฟ้า ยังมีไม่เพียงพอตอบโจทย์การเดินทาง คนกรุงส่วนใหญ่จึงไม่ยอมทิ้งรถไว้ที่บ้านแล้วหันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะ
ที่ถูกจับตามองและกำลังเป็นที่สนใจขณะนี้คือ การก่อสร้างอุโมงค์ทางด่วนใต้ดิน ที่กระทรวงคมนาคมจะนำมาเป็นตัวชูโรง
ทะลวงปัญหารถติดเมืองกรุง
แนวคิดนี้จุดพลุโดย “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ฝากเป็นการบ้านให้กระทรวงคมนาคมเร่งศึกษาโครงการ เมื่อครั้งลงพื้นที่ตรวจสภาพการจราจรในกรุงเทพมหานคร ช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ผลพวงจากการที่ “บิ๊กตู่” ได้เห็นของจริงในต่างประเทศ เลยปิ๊งไอเดียอยากนำมาเป็นโมเดลต้นแบบในการแก้วิกฤตจราจรในประเทศไทย
งานนี้ “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เด้งรับสุดตัว มอบเป็นโจทย์ให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ไปศึกษาความเป็นไปได้ในหลากหลายแนวทาง
นายอาคมระบุว่า พื้นที่กรุงเทพฯ มีข้อจำกัดในการหาพื้นที่จะสร้างโครงข่ายถนนใหม่มารองรับให้เพียงพอกับปริมาณรถที่เพิ่มขึ้นทุกปี ประกอบกับปัจจุบันมีการปิดถนนสายหลักหลายเส้นทางสร้างรถไฟฟ้า ซึ่งกว่าจะแล้วเสร็จต้องใช้เวลาอีกหลายปี ทำให้การจราจรวิกฤตหนักขึ้น
“ต้องมีมาตรการอื่นๆ มาช่วยบรรเทาปัญหา เช่น ทำยังไงจะกระตุ้นให้คนเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องเริ่มคิดถึงการสร้างทางลอดหรืออุโมงค์ เช่น เส้นทางจากตะวันออกไปตะวันตก ที่มีปัญหารถติด ต้องมีอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเหมือนในต่างประเทศได้หรือไม่ เพราะพื้นที่มีไม่พอจะสร้างถนน
ส่วนทางยกระดับหากสูงขึ้นระดับ 3 และ 4 อาจเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ”
จากการบ้านที่สั่งด้วยวาจา ล่าสุด “สนข.” ศึกษาความเป็นไปได้ใกล้แล้วเสร็จ เบื้องต้นขีดแนวไว้ 3 เส้นทาง ได้แก่ 1.เส้นทางสำโรง (แยกบางนา)-ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ 2.เส้นทางถนนรามคำแหง-รัชดาภิเษก และ 3.เส้นทางจากแยกเกษตร-วิภาวดีรังสิต
ที่พร้อมมากที่สุดคือ เส้นทางแยกบางนา-ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อแก้รถติดย่านสาทร สีลม เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ไม่มีที่อยู่อาศัยมากนัก ไม่ต้องเวนคืนที่ดินจำนวนมาก ส่วนอีก 2 เส้นทางอยู่ระหว่างกำหนดจุดที่จะเชื่อมหัวและท้ายกับโครงข่ายถนนหรือทางด่วนเพื่อระบายรถได้มากที่สุด ไม่ให้เกิดปัญหารถติดตามมาภายหลัง
รูปแบบโครงการจะเป็นอุโมงค์ลอดใต้ดินลึก 13 เมตร ขนาด 2 ช่องจราจร และมีด่านเก็บเงิน 2 จุด คือ ต้นทางบริเวณแยกบางนา และปลายทางที่ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ตัวอุโมงค์และทางลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา ทาง สนข.กำลังศึกษาการก่อสร้างของหลายๆ ประเทศ เช่น สหรัฐและมาเลเซีย
แนวเส้นทางจะเริ่มจากแยกบางนา จากนั้นมุดลงใต้ดินวิ่งตรงไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือผ่านบางกระเจ้า ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณที่เป็นกระเพาะหมู ไปสิ้นสุดบริเวณถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ช่วงที่ต่อกับถนนพระราม 3 รวมระยะทาง 9 ก.ม. ส่วนจุดเชื่อมต่อหัวและท้ายอยู่ระหว่างการพิจารณาพื้นที่ แต่คาดว่าจะเชื่อมกับโครงข่ายทางด่วนบางนา-ชลบุรี กับทางด่วนขั้นที่ 1
สอดรับกับที่นายชยธรรม์ พรหมศร รองผู้อำนวยการ สนข. กล่าวว่า เร็วๆ นี้จะเสนอผลศึกษาความเป็นได้โครงการดังกล่าวให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา
นอกจากนี้ สนข.อยู่ระหว่างศึกษาเป็นโมเดลก่อสร้างอุโมงค์ใต้ดิน และทางยกระดับเชื่อมโครงข่ายทางด่วนในอีกหลายพื้นที่ เพื่อทะลวงคอขวด และแก้ปัญหารถติดพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นทางเลือกเพิ่มให้ผู้ใช้ทาง โดยจะนำร่องในพื้นที่ที่รถติดหนักสุด เช่น สาทร สีลม นราธิวาสราชนครินทร์ เป็นอันดับแรก
“การสร้างทางด่วนเป็นอุโมงค์ใต้ดินลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา เป็นออปชั่นหนึ่งที่จะนำมาแก้ปัญหารถติดในระยะยาว ต้องศึกษาความเป็นไปได้ก่อนว่าจะคุ้มหรือไม่ เพราะค่าก่อสร้างสูง ต้นทุนเฉลี่ยต่อกิโลเมตรน่าจะเกิน 1,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดินของสายสีน้ำเงิน ส่วนจะแพงหรือถูกอยู่ที่รูปแบบก่อสร้างและราคาที่ดิน”
อย่างไรก็ตาม การศึกษาของ สนข.ตั้งอยู่บนพื้นฐานมาจากการศึกษาโมเดลของต่างประเทศ เช่น ที่เมืองชินจูกุ ประเทศญี่ปุ่น สร้างเป็นอุโมงค์ 6 ช่องจราจร ค่าก่อสร้างอยู่ที่กิโลเมตรละ 10,000 ล้านบาท ประเทศมาเลเซียเป็นอุโมงค์ 2 ช่องจราจร รองรับทั้งรถยนต์และเป็นทางน้ำผ่านในบางเวลา กิโลเมตรละ 3,000 ล้านบาท ส่วนเมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นอุโมงค์ 6 ช่องจราจร กิโลเมตรละ 10,000 ล้านบาท สำหรับประเทศไทยคาดว่าจะออกแบบเป็นอุโมงค์ขนาด 2 ช่องจราจร
“คอนเซ็ปต์อุโมงค์ทางด่วนใต้ดินต้องสร้างอยู่ถนนเดิม ช่วงหัว-ท้ายต้องเชื่อมกับทางด่วนปัจจุบัน เพื่อระบายรถออกไปยังนอกเมืองได้ เช่น เส้นทางจากบางนา-ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ช่วงบางนาจะเชื่อมกับทางด่วนบางนา-ชลบุรี ส่วนช่วงถนนนราธิวาสราชนครินทร์กำลังดูจุดเชื่อมต่อ”
นอกจากอุโมงค์ 3 เส้นทางดังกล่าวแล้ว นายชยธรรม์กล่าวว่า สนข.ยังได้รับโจทย์จากกระทรวงคมนาคมให้พิจารณาปรับรูปแบบการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่ศึกษาไว้ในแผนแม่บท จำนวน 11 แห่ง ที่ยังไม่สามารถเดินหน้าก่อสร้างได้ โดยจะปรับเป็นอุโมงค์ใต้ดินแทน เพื่อเชื่อมการเดินทางพื้นที่ฝั่งกรุงเทพฯ และฝั่งธนบุรี แก้ปัญหาการจราจรในอนาคต
“สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา 11 โครงการ ที่อยู่ในแผนแม่บท ทุกสะพานมีความจำเป็น เพราะจะมาช่วยบรรเทาการจราจรได้ เนื่องจากสะพานที่มีอยู่ปัจจุบันไม่เพียงพอรองรับ และบางโครงการมีประชาชนคัดค้าน ก็มาดูว่าจะปรับรูปแบบการก่อสร้างจากสะพานเป็นอุโมงค์ใต้ดินแทนได้หรือไม่ และพื้นที่ไหนบ้าง ทั้งหมดกำลังดูความเป็นไปได้”
ถือเป็นโปรเจ็กต์มาสเตอร์พีซอีกชิ้นในยุค “รัฐบาลทหาร” บริหารประเทศ แต่จะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ยังต้องรอดูต่อไป
ส่วนมาตรการอื่นๆ ที่ สนข.เตรียมไว้ และน่าจะสามารถดำเนินการในทันทีนั้น นายสราวุธ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการ สนข. กล่าวว่า มีทั้งมาตรการระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ที่จะนำมาแก้ไขปัญหาจราจรภายในกรุงเทพฯ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ โดยเฉพาะถนนลาดพร้าวและถนนรามคำแหง
โดยจะนำโครงข่ายรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง และมีแผนลงทุนในอนาคตมาวิเคราะห์ว่ามีจุดเชื่อมต่อกับระบบขนส่งรูปแบบอื่นกี่จุด เช่น เรือ เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางของประชาชน
นอกจากนี้ จะปรับเส้นทางรถเมล์ที่ซ้อนทับรถไฟฟ้า และเพิ่มเส้นทางใหม่ เป็นฟีดเดอร์ป้อนคนมาใช้บริการรถไฟฟ้า อีกทั้งจะเพิ่มเส้นทางเดินเรือเพื่อเป็นทางเลือกมากขึ้น
เช่น คลองแสนแสบ จะเพิ่มการเดินเรือรูปแบบชัตเติลโบ๊ต ไปถึงมีนบุรี แก้ปัญหารถติดรามคำแหง ซึ่ง สนข.อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียด จะแล้วเสร็จใน 1 เดือนนี้ จากนั้นจะเสนอให้คณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินพิจารณา
แน่นอนว่า สนามเลือกตั้งลั่นระฆังเมื่อไหร่ ปัญหารถติดหนึบกวนใจคนกรุง น่าจะเป็นหนึ่งในไฮไลต์ที่นักการเมืองทุกพรรคแข่งกันนำเสนอเป็นทางเลือกใหม่
จึงไม่ต้องแปลกใจ หากตอนนั้นจะมีสารพัดโปรเจ็กต์มาแย่งซีนอุโมงค์ทางด่วนใต้ดินของ “บิ๊กตู่” ที่ชิงเปิดตัวออกมาก่อนแล้วในเวลานี้
SSS จะทำอะไรก็รีบทำเลย เดี๋ยวเข้ายุคประชาธิปไตยแล้ว ก็จะมัวทะเลาะกัน
21 ต.ค. 2561 เวลา 01.10 น.
@derek ลดจำนวน การซ่อมถนน แบบโบราณ ปิดเลน นับวัน ทำแค่ไม่กี่เมตร
ตปทเค้าใช้ การปิดถนน ไม่เกิน 10ชม ต้องคืนผิวจราจร
เทคโนโลยีมีแล้ว
21 ต.ค. 2561 เวลา 01.40 น.
p o r เวลาเขาช่วยแก้ก็ว่า เขา
เวลาประชาธิปไตย มามีแต่แดก หุบปากกันจัง
21 ต.ค. 2561 เวลา 01.31 น.
Somsak Sirisophon พวกที่เอาแต่นั่งรถประจำตำแหน่ง มีคนขับให้ มีรถนำขบวน ลองมาใช้ชีวิตแบบคนรากหญ้าดูบ้าง จะได้รู้ว่าชาวบ้านตาดำๆ เขาต้องผจญอะไรบ้างในแต่ละวัน
21 ต.ค. 2561 เวลา 01.33 น.
Phisanu.c ไม่ต้องสร้างหรอก ยังไงก็แก้ไขไม่ได้ด้วยวิธีนี้
21 ต.ค. 2561 เวลา 02.00 น.
ดูทั้งหมด