วันที่ 19 พฤศจิกายน 2561 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วยครอบครัวของน.ส.ช่อลัดดา ทาระวัน สาวที่ถูกสามีใช้น้ำกรดสาดหน้าและไปรักษาที่โรงพยาบาลพระราม 2 จากนั้นมีการส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลอื่นและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือกับนายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายประเสริฐ ฉวีอินทร์ ผู้อำนวยการเขตบางขุนเทียน ให้ตรวจสอบการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร , ใบอนุญาตขอเปิดใช้อาคาร , การออกใบอนุญาตดัดแปลงอาคาร และใบอนุญาตตรวจสอบการใช้อาคารประจำปีและทุก 4 ปี ของโรงพยาบาลพระราม 2 และโรงพยาบาลสหวิทยาการมะลิ
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้ได้นำหลักฐานภาพข่าวเหตุการณ์ไฟไหม้ รพ.พระราม 2 เมื่อปี 2557 และภาพข่าวที่กระทรวงสาธารณะสุขสั่งปิดอาคารผู้ป่วยนอกที่ดัดแปลงมาจากอาคารจอดรถเข้ายื่นหนังสือกับรองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ใบอนุญาตขอเปิดใช้อาคาร การออกใบอนุญาตดัดแปลงอาคาร และใบอนุญาตตรวจสอบอาคารประจำปี เนื่องจากพบว่าส่อไปในทางทุจริต ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการไปยื่นขอตรวจสอบอาคารกับสำนักงานเขตมาแล้ว 2 เขต แต่พบว่าถ้าเป็นอาคารโรงพยาบาล อำนาจหน้าที่การอนุญาตก่อสร้างและการอนุญาตใช้อาคาร จะเป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่สำนักงานฝ่ายโยธากรุงเทพฯ 2 ทั้งนี้อาคารดังกล่าวนั้นมีการก่อสร้างไม่ตรงตามแบบที่ขอ รวมไปถึงมีการดัดแปลงอาคาร
นายอัจฉริยะ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้เชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐฯ บางรายให้การช่วยเหลือในการออกใบอนุญาตให้กับ รพ.พระราม 2 เนื่องจากการตรวจสอบพบว่าอาคารไม่ตรงกับแบบก่อสร้าง ก่อนหน้านี้กระทรวงสาธารณะสุขก็ได้ระงับการใช้อาคาร ซึ่งอาคารดังกล่าวได้มีการขออนุญาตตั้งแต่ปี 2535 และผิดแบบมาตลอด ซึ่งการขออนุญาตเปิดใช้ต้องให้วิศวกรตรวจสอบให้ตรงตามแบบ แต่เมื่อเหตุการณ์ไฟไหม้ ปี 2557 ส่งผลให้มีผู้ป่วยถูกไฟคลอกเสียชีวิต 1 ราย ทาง รพ.พระราม 2 ก็ได้ออกมายอมรับว่าภายในอาคารไม่มีสปริงเกอร์ ทั้งนี้หากตรวจสอบพบว่ากระทำความผิดจริงขอให้ดำเนิการทั้งทางวินัยและอาญา และให้ดำเนินคดีกับเจ้าของอาคารโดยต้องการให้ระงับการใช้อาคาร
ด้านนายทวีศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากรับเรื่องร้องเรียนก็จะส่งเรื่องให้ ผอ.เขตบางขุนเทียน และสำนักงานโยธา เพื่อทำการตรวจสอบ ข้อเท็จจริงและให้รายงานผลกลับมาให้ไวที่สุด ส่วนเรื่องของการทุจริตนั้นยังบอกไม่ได้ ต้องรอผลการตรวจสอบอาคารก่อน ประกอบกับอาคารดังกล่าวก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2535 และเกิดไฟไหม้เมื่อปี 2557 ส่วนประเด็นการดัดแปลงอาคารจอดรถมาเป็นอาคารผู้ป่วยนอกนั้น สำนักงานเขตบางขุนเทียนเป็นผู้ดำเนินการ และได้มีการอนุญาตให้ก่อสร้างจริง แต่ในส่วนการขออนุญาตกับกระทรวงสาธารณะสุขนั้นทาง รพ.พระราม 2 จะต้องเป็นผู้ดำเนินการเอง อย่างไรก็ตามกระบวนการขอใบอนุญาตนั้นจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ เพื่อร่วมกันพิจารณา
อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายจะนำพยานจำนวน 4 ปาก ประกอบไปด้วย ตนเอง ลูกสาวผู้ตาย แท็กซี่ในวันเกิดเหตุอีก 2 คน เข้าให้ปากคำกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงสาธารณะสุข และทราบว่าในส่วนของ รพ.พระราม 2 ก็จะส่งแพทย์เข้าสอบปากคำด้วย นอกจากนี้ในวันอังคารที่ 20 พ.ย.นี้ ตนเตรียมเดินทางไปยื่นหนังสื่อที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้ตรวจสอบกรณีที่นำชื่อของลูกจ้างไปแอบอ้างขอเงินสนับสนุน
ขณะเดียวกัน ทางด้านนายแพทย์ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ บอกว่า วันนี้ในช่วงเวลา 13.30 น. สบส. จะเชิญคณะกรรมการฯ ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนหลายส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้ง อธิบดี สบส. อัยการ ข้าราชการบำนาญที่มีความเชี่ยวชาญ เข้าประชุมหารือเพื่อหาข้อสรุปว่าโรงพยาบาลพระราม 2 มีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล 2541 หรือไม่ ซึ่งเหตุที่ต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม เพราะมีโทษค่อนข้างรุนแรง มีอัตราโทษทั้งจำและปรับ
เวรกรรมมีจริง เกิดแต่กรรม กรรมคือการกระทำมีทั้งด้านดีและไม่ดีควบคู่กัน ต้องยอมรับผลของมัน
19 พ.ย. 2561 เวลา 07.12 น.
เหตุเพราะ..เรื่องผัวเมียหึงหวงกันแท้ๆ
ทำให้ รพ.เขาซวยไปด้วย..กำแต้ๆ
19 พ.ย. 2561 เวลา 07.03 น.
Bobnathee เปนเรา ก้อิฉานะ ที่มึงรวยแต่ความเลว เลวที่ไม่รับคนป่วยรวยที่จะรับแต่คนมีเงิน พอลงรถเหตุ(ฉุกเฉินมันถามมีเงินมั้ย เลวมั้ย แบบนี้ละที่ต้องอืฉาไง
19 พ.ย. 2561 เวลา 06.48 น.
woot ไอ้อัจเป็นโรคอิจฉาไม่อยากเห็นคนอื่นได้ดีกว่า
19 พ.ย. 2561 เวลา 06.24 น.
abbl คุณอัจ อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล สู้ๆๆๆๆๆๆ
19 พ.ย. 2561 เวลา 06.24 น.
ดูทั้งหมด