เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 วารสาร Nature Medicine ได้ตีพิมพ์ราบงานการวิจัยชิ้นหนึ่งที่อาจเปลี่ยนความคิดของเราไปโดยสิ้นเชิงเกี่ยวกับต้นกำเนิดของโควิด-19
รายงานฉบับนี้เป็นผลงานวิจัยของทีมนักวิทยาศาสตร์ที่นำโดยคริสเตียน จี. แอนเดอรสัน (Kristian G. Andersen) แห่งภาควิชาภูมิคุ้มกันวิทยาและจุลชีววิทยาสถาบันวิจัย The Scripps Research Institute ในสหรัฐ, แอนดรูว แรมบอท (Andrew Rambaut) แห่งสถาบันชีววิทยาวิวัฒนาการ แห่งมหาวิทยาลัยเอดินเบอระ สหราชอาณาจักร และเอ็ดเวิร์ด ซี. โฮล์ม (Edward C. Holmes) แห่งสถาบันโรคติดเชื้อและความปลอดภัยทางชีวภาพ มหาวิทยาลัยซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่นักวิจัยชาวจีนเลยและยังมีนักวิจัยคนอื่นอีก 2 คนเป็นชาวอเมริกัน
ก่อนอื่น รายงานนี้พยายามอธิบายว่าเชื้อ SARS-CoV-2 ที่เป็นต้นเหตุของโรคโควิด-19 (Covid-19) ไม่ได้เกิดขึ้นในห้องปฏิบัติการ มันไม่ได้ถูกตัดต่อขึ้นมาโดยฝีมือมนุษย์ โดยให้เหตุผลเอาไว้อย่างละเอียด 2 ประการ เหตุผลทั้ง 2 ข้อมีรายละเอียดทางเทคนิกค่อนข้างมาก ซึ่งหาอ่านได้ในงานวิจัย
โดยสรุปแล้วทีมวิจัยชี้ว่าการศึกษาโคโรนาไวรัสในสัตว์ในห้องทดลองมีมานานแล้วและโอกาสที่เชื้อกลายพันธุ์จะหลุดจากห้องทดลองก็มีอยู่ แต่มันมี "ตัวกลาง" ที่ทำให้เชื้อกลายพันธุ์ซึ่งไม่ใช่การเพาะเลี้ยงโดยมนุษย์ จะเป็นอะไรนั้นต้องตามอ่านบทความนี้ไปเรื่อยๆ ก่อน
แต่สิ่งที่เราสนใจไม่ใช่เรื่องการตัดต่อเชื้อ SARS-CoV-2 เพราะมันชัดอยู่แล้วว่าไม่ใช่ฝีมือมนุษย์ สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นคือมันเกิดที่อู่ฮั่นในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม จริงหรือ?
สิ่งที่พวกเขาค้นพบก็คือความเป็นไปได้ที่ไวรัสตัวนี้อาจแพร่จากสัตว์มาสู่มนุษย์เป็นเวลานานก่อนที่จะตรวจพบครั้งแรกในอู่ฮั่น
เมื่อทีมวิจัยหักล้างความเชื่อว่าไวรัสตัวนี้สร้างขึ้นมาโดยมนุษย์ พวกเขาได้ตั้งสมติฐานขึ้นมาว่าหากมันเกิดจากธรรมชาติล่ะ มันจะเกิดขึ้นที่ไหนและอย่างไร?
ข้อแรก ไวรัสเกิดจากคัดสรรโดยธรรมชาติในสัตว์ที่เป็นพาหะก่อนจะถ่ายโอนไปยังสัตว์ชนิดอื่นๆ หมายความว่ามันกลายพันธุ์ก่อนที่จะแพร่ไปยังสัตว์อื่นๆ
ข้อสอง ไวรัสเกิดคัดสรรโดยธรรมชาติในมนุษย์หลังจากการถ่ายโอนผ่านสัตว์ หมายความว่า มันเกิดการกลายพันธุ์หลังจากติดสู่มนุษย์แล้ว
เรามาดูความเป็นไปได้แรกกันก่อน
1. หากมันกลายพันธุ์ในสัตว์ก่อนที่จะแพร่มายังมนุษย์
กรณีแรกๆ ของโควิด-19 เชื่อมโยงกับตลาดหัวหนานในอู่ฮั่น เป็นไปได้ที่แหล่งของสัตว์ตัวการไวรัสอาจอยู่ที่นี่ เมื่อพิจารณาความคล้ายคลึงกันของเชื้อ SARS-CoV-2 กับไวรัสในค้างคาว พบว่าคล้ายกันมากจึงอาจเป็นได้ว่าค้างคาวจะเป็นแหล่งต้นกำเนิดแรก แต่ในความเหมือนยังมีช่องโหว่ตรงที่ไวรัสของค้างคาวยังไม่สามารถเชื่อมเข้ากับยีนของมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่เพราะไวรัสกลายพันธุ์ผ่านตัวลิ่นมลายู (Manis javanica) ที่นำเข้ามาจีนผ่านมณฑลกวางตุ้ง โคโรนาไวรัสที่อยู่ในลิ่นมลายูผสมกับโคโรนาไวรัสจากค้างค้าวผ่านตัวกลางคือตัวลิ่นมลายูทำให้เชื้อมีศักยภาพที่จะติดต่อสู่มนุษย์ และมนุษย์กินตัวลิ่นเป็นอาหารเปิบพิสดาร จึงทำให้เชื้อตัวใหม่ผงาดขึ้นมา นั่นคือ SARS-CoV-2
แต่กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นแบบทันทีทันใดไม่ได้ ทีมวิจัยชี้ว่าการที่จะทำให้เชื้อมีวิวัฒนาการถึงจุดที่แพร่สู่มนุษย์ได้ อาจจะต้องมีความหนาแน่นของประชากรสัตว์พาหะในระดับที่สูง เพื่อให้เกิดการคัดเลือกโดยธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ
เป็นไปได้ไหมว่าตลาดหัวหนานไม่น่าจะอยู่ในข่ายนี้?
2. หากมันกลายพันธุ์ในมนุษย์หลังติดเชื้อมาจากสัตว์
ยังมีความเป็นไปได้ด้วยว่าเมื่อเชื้อตัวการของโควิด-19ไ ด้ลักษณะจีโนมที่อธิบายไว้ข้างต้นแล้วไปติดสู่มนุษย์จนได้ในที่สุด โดยผ่านการปรับตัวระหว่างการส่งผ่านระหว่างมนุษย์สู่มนุษย์โดยไม่ถูกตรวจพบ เมื่อติดเชื้อไวรัสที่ผ่านการกลายพันธุ์แล้ว ทำให้เกิดระบาดใหญ่เริ่มต้นและมีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก
แต่กว่าที่มันจะร้ายกาจถึงขนาดระบาดใหญ่ได้ จะต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงวิวัฒนาการอย่างค่อยเป็นค่อยไปเป็นเวลาหลายปีหรือหลายสิบปี เชื้อไวรัสนี้จะแพร่จากสัตว์แล้วแอบอยู่ในตัวคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่งแล้ววิวัฒนาการเงียบๆ จนในที่สุดมันสามารถที่จะแพร่กระจายจากมนุษย์สู่มนุษย์และก่อให้เกิดโรคร้ายแรงซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต
จะเห็นได้ว่ามันจะต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะกลายเป็นมารร้าย ดังนั้นเราไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ว่า โรคนี้วิวัฒนาการจากที่อื่นก่อนมาถึงจุดสูงสุดของวิวัฒนาการที่อู่ฮั่น
บทสรุป
ลักษณะกลายพันธุ์ของSARS-CoV-2 เรียกว่า polybasic cleavage site เกิดขึ้นกับลิ่มโปรตีน (spike proteins) ที่อยู่บนตัวมันซึ่งมีรูปร่างหน้าตาเหมือนหนามแหลมของมงกุฏ (ทำให้มันได้ชื่อว่าโคโรนาที่แปลว่ามงกุฏ) ลักษณะกลายพันธุ์ที่ว่านี้ไม่พบทั้งในค้างคาวและในตัวลิ่นมลายู ทำให้มันเหมือนลิ่มที่ตอกเข้ากับร่างกายมนุษย์ได้ และทำให้โคโรนาไวรัสที่มีอยู่ในสัตว์เหล่านี้ทำอันตรายต่อคนเรา
การกลายพันธุ์ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในสัตว์หรือมนุษย์จะต้องผ่านระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งการเพาะเชื้อในห้องทดลองทำไม่ได้ ดังนั้นทีมวิจัยจึงสรุปว่า "เราไม่เชื่อว่าสถานการณ์จำลองในห้องปฏิบัติการใดๆ จะเป็นไปได้" และบอกว่า "การวิเคราะห์ของเราแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า SARS-CoV-2 ไม่ได้สร้างขึ้นจากห้องปฏิบัติการหรือไวรัสที่บุคคลตั้งใจให้เกิดขึ้นมา"
แต่มันมาจากอู่ฮั่นหรือไม่?
งานวิจัยนี้ไม่ได้สรุปว่ามันเริ่มที่อู่ฮั่นหรือที่ไหน แต่ชี้ว่ากว่าที่จะกลายเป็นเชื้อโรคระบาดในหมู่มนุษย์ มันอาจจะต้องผ่านการกลายพันธุ์มาระยะหนึ่ง เป็นเวลาหลายปี หรือนับสิบปี
แล้วมันสำคัญอย่างไรกับการต้องรู้ว่าไวรัสมาจากไหน?
ทีมวิจัยอธิบายว่า "ท่ามกลางสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของ COVID-19 ทั่วโลก มีเหตุผลอันควรให้ต้องสงสัยถึงต้นกำเนิดของเรื่องโรคระบาด ความเข้าใจโดยละเอียดเกี่ยวกับวิธีที่ไวรัสสัตว์กระโดดข้ามขอบเขตของสปีชี่ส์แล้วมาติดเชื้อในมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพขนาดนี้ จะช่วยในการป้องกันเหตุการณ์โรคติดต่อในอนาคต"
รู้หรือไม่ว่าโรคอุบัติใหม่ 70% มาจากสัตว์ป่า หากมนุษย์ยังทำลายธรรมชาติในอัตรานี้ต่อไป โรคแบบโควิด-19 จะต้องเกิดขึ้นมาอีกแน่นอนถ้ามันเป็นการกลายพันธุ์จากสัตว์สู่สัตว์
แต่ถ้ามันกลายพันธุ์ในมนุษย์โอกาสก็จะมีน้อยลง แต่ไม่ได้หมายความว่าโรคอุบัติใหม่จากสัตว์ป่าจะน้อยลงไปด้วย
ย้ำอีกครั้งว่ารายงานนี้ไม่ได้ทำโดยผู้เชี่ยวชาญจีน แต่เป็นชาวอเมริกัน อังกฤษ และออสเตรเลีย ดังนั้นจึงสามารถตัดข้อสงสัยไปได้ว่างานวิจัยนี้เป็นการแก้ต่างให้กับจีน
แม้แต่ ดร. ฟรานซิส คอลลินส์ (Dr. Francis Collins) ก็ยังเขียนถึงงานวิจัยนี้โดยไม่มีข้อกังขา
ดร. ฟรานซิส คอลลินส์ ไม่ใช่ธรรมดาๆ แต่เป็นนักพันธุศาสตร์แพทย์ชาวอเมริกัน ผู้ค้นพบยีนที่เกี่ยวข้องกับโรคหลายชนิดและเป็นผู้นำโครงการจีโนมมนุษย์ และเป็นผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH)
งานหลังจากนี้คือการค้นหาให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้โคโรนาไวรัสกลายพันธุ์จนทำให้ชีวิตชาวโลกต้องทุกข์ยากอย่างที่สุดในเวลานี้
และที่สำคัญ ต้องรู้ให้ได้ว่ามันเริ่มต้นจากที่ไหน!
👀👀Nang👀👀 คนเรามักคิดไปเองแหละว่าทุกอย่างกินได้หมด ไม่เลือกกิน เชื่อโรคเลยไม่เลือกเหมือนกัน
31 มี.ค. 2563 เวลา 13.49 น.
SEVEN CHAN หน้าตาเธอช่างน่ารัก.. น่าชังเชียว.. ไปซ่าส์ที่อื่นไป๊.. อย่ามาซ่าส์บนโลกมนุษย์อีก.. เค้าจะทำมาหากิน.. เค้าจะอดตายกันทั้งโลกอยู่แล้ว.. เพราะเธอคนเดียวนะคุณโควิต19
31 มี.ค. 2563 เวลา 13.41 น.
BPS ถ้าหยุดแดกพิสดารหยุดกินสัตว์ป่า สัตว์อยุ่ส่วนสัตว์คนอยุ่ส่วนคน มันก็ไม่คงไม่เกิดแบบนี้ขึ้น มนุษย์ทำตัวเองอยุ่เหนือห่วงโซ่อาหาร มันต้องเจอชะบ้าง มันแดกได้หมดจริงๆ สัตว์ป่ามันไม่แดกแค่ฤษีเท่านั้น
31 มี.ค. 2563 เวลา 13.23 น.
🔶 ถึงเวลาธรรมชาติเอาคืน...เพื่อฟื้นฟู
31 มี.ค. 2563 เวลา 13.16 น.
Nakara โควิดมันมาจากฝั่งตรงข้ามทวีปเอเชีย มันทดสอบเชื้อมาเป็นปีๆ และมีวัคซีนรักษาเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่รอจังหวะในการเอาออกมาใช้ ไม่งั้นมันไม่ปล่อยให้คนในประเทศติดเชื้อเป็นอันดับหนึ่งของโลก ณ ตอนนี้ (เดาเอา)
31 มี.ค. 2563 เวลา 13.10 น.
ดูทั้งหมด