คนไทยไถ่ถามกันเองเยอะว่า เราอยู่ในขั้นไหนแล้ว จะเป็นแบบอิตาลี สเปน หรืออเมริกาที่ตายทุกๆ ๔๕ วินาที หรือจะเป็นแบบฮ่องกง ไต้หวัน ที่เอาจนอยู่หมัด หรือจะคล้ายญี่ปุ่น สิงคโปร์ ที่เหมือนจะเอาอยู่ แต่ไม่นิ่งเสียที เราเป็นแบบไหนกันแน่ ถ้าพิจารณากันดีๆ ดูเหมือนว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-๑๙ ในประเทศไทย คล้ายกรณี "อู่ฮั่น" บวกกับสภาพโดยทั่วไปในเวลานี้ อย่าเพิ่งงง! เพราะเราอยู่ในช่วงเวลานำเข้าโควิด-๑๙ และระบาดภายในประเทศในเวลาเดียวกัน แต่ไม่รุนแรงแบบอู่ฮั่น จากตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวัน พบว่าผู้ติดเชื้อเป็นคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศในอัตราส่วนที่สูงขึ้นทุกวัน ตัวเลขผู้ติดเชื้อวานนี้ (วันที่ ๘ เมษายน) เป็นกลุ่มประชาชนในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เดินทางมาจากประเทศอินโดนีเซีย ๔๒ ราย ขณะที่ ๖๙ คนติดเชื้อภายในประเทศ และส่วนใหญ่สัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้า หากพิจารณาตามนี้ การติดเชื้อในประเทศสามารถจัดการได้ง่ายกว่า และจำนวนคนติดเชื้อน่าจะลดลงเรื่อยๆ แต่กลุ่มอิมพอร์ต หากกลุ่มนี้เติมเข้ามาเรื่อยๆ มันก็ยากต่อการบริหารจัดการอยู่เหมือนกัน ทว่า…เขาเหล่านั้นเป็นคนไทย รัฐก็ต้องดูแลไปตามกำลังที่มีอยู่ มาตรการชะลอการเดินทางกลับของคนไทยในต่างประเทศ จึงเป็นวิธีการรับมือที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ที่สุดแล้ว มีบางคนบางกลุ่มไม่เห็นด้วยและโยงไปเรื่องการเมือง เรื่องเผด็จการสืบทอดอำนาจ ก็ควรทำความเข้าใจเสียใหม่ เวลาเช่นนี้จะมานั่งเลื่อยขาเก้าอี้ ใช้นิสัยเดิมๆ ระวังกระแสตีกลับเอาง่ายๆ บางคนนำเสนอวิธีการแก้ปัญหา ก็นับเป็นเรื่องดี เช่น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่วิญญาณอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเข้าสิง พยายามนำเสนอว่าควรลุยตรวจหาผู้ติดเชื้อให้ได้มากที่สุด เพราะเชื่อว่าไทยตรวจหาเชื้อน้อยเลยเจอน้อย มันก็เป็นเรื่องความเข้าในข้อมูล และมีข้อมูลอะไรอยู่ในมือ ขอบคุณ คุณหมอเลี้ยบ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ที่ออกมาบอกข้อมูลว่าประเทศไทยตรวจหาเชื้อโควิดมาแล้ว ๗๑,๘๖๐ ตัวอย่าง ไม่ใช่ ๒๕,๐๗๑ ตัวอย่างที่หลายๆ คน รวมทั้งคุณหญิงหน่อยเข้าใจ ก็นับว่าตรวจเยอะอยู่ อาจไม่มากเท่าฝั่งยุโรปที่เขาติดเชื้อมากกว่าเรามาก สถานการณ์ ณ วันนี้ก็ยังคงเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ต้องรอดูกันต่อไปว่าไวรัสโควิด-๑๙ ที่อิมพอร์ตเข้ามาจะลดลงหรือไม่ ถ้ายังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องกักตัวกันอย่างเข้มข้น ๑๐๐% ใครแหกกฎต้องลงโทษสถานหนัก ประเภทลงจากเครื่องมาก่อม็อบต้องส่งดำเนินคดีทันที เพราะไม่ต่างจากการก่ออาชญากรรม กิจกรรมทางศาสนาที่ไปรวมตัวกันเยอะๆ ไม่ว่าจะศาสนาไหน พุทธ คริสต์ อิสลาม ต้องระงับทั้งหมด อย่าเกรงใจกัน นิสัยทำอะไรตามใจแบบไทยๆ เป็นสิ่งต้องห้ามอย่างสิ้นเชิง และ "แกะดำ" ไม่เป็นที่พึงประสงค์ในสถานการณ์ปัจจุบัน.
pada มีคนไทย อยู่ตปท..ปวดท้องไส้ติ่ง ยังนั่งเครื่องยินมาผ่าตัดไส้ติ่งบ้านเราเลย..ดีนะมันไม่แตกบนเครื่องบิน
09 เม.ย. 2563 เวลา 11.05 น.
Surakhon D กักตัว 💯 ตอนนี้ทำแล้วแต่กำลังจะอดตายเพราะไม่มีรายได้ เงิน5000 จากรัฐก็เป็นนโยบายลมๆแล้งๆ ตอนนี้รู้สึกว่าเรามีผู้นำเป็นตัวกาลกีณี ทำประเทศล้มจม ประชาชนจะอดตาย
09 เม.ย. 2563 เวลา 09.37 น.
ที่ไหนจะสุขใจเท่ากับไทยแลนด์แดนสนธยา
09 เม.ย. 2563 เวลา 09.14 น.
Na พวกเกลียดชังรังเกียจประเทศไทยมีเยอะ พวกนี้สรรเสริญตัวเองว่าอยู่ประเทศเจริญแล้ว แต่เมื่อมีภัย รีบตาลีตาเหลือกกลับประเทศ เพราะลึกๆแล้วรู้ว่าตัวเองต่ำอยู่ชั้นไหนในต่างแดน
09 เม.ย. 2563 เวลา 06.05 น.
พิมพ์สินี คนไทยในต่างแดนเข้ามาเรื่อยๆคนที่ไปทำพิธืทางศาสนากลับเข้ามาแล้วนำเชื้อเข้ามากันอย่างน่าตกใจรายที่มาจากอินโดไปกลับมาติดมากันเยอะแล้วเราจะต้องอยู่แบบกักตัวในบ้านนานแค่ไหนยาวไปเรื่อยๆถ้ายังรับเข้ามาเราต้องอดทนเพื่อคุณหมอจะได้ไม่เหนื่อยหนักทั้งๆที่ต้องทนอดกัน
09 เม.ย. 2563 เวลา 04.06 น.
ดูทั้งหมด