'ติดโควิด 19' สธ. แนะ 'แนวทางการรักษาทุกกลุ่มวัย' อาการเล็กน้อย ไม่ต้องกินยาต้านไวรัส แต่ยังแนะนำให้กักตัว 5 วัน
นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รักษาราชการแทน อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวเรื่อง “ติดโควิด 19 แนวทางการรักษาทุกกลุ่มวัย” ว่า ขณะนี้โรคโควิด 19 มีความรุนแรงลดลง จำนวนผู้ป่วยอาการหนักและเสียชีวิตลดลงต่อเนื่อง วันนี้ผู้เสียชีวิตต่ำกว่าหลักสิบราย ส่วนใหญ่เป็นสูงอายุ มีโรคประจำตัว ไม่ได้รับวัคซีนหรือรับวัคซีนไม่ครบตามกำหนด จึงต้องขอย้ำว่าควรไปรับวัคซีนอย่างน้อย 4 เข็ม จะช่วยลดความรุนแรงจากการติดเชื้อได้
อาการเล็กน้อย กินยาตามอาการ แยกกักตัว 5วัน
สำหรับการตรวจ ATK ไม่จำเป็นต้องตรวจทุกวัน ควรตรวจเมื่อมีอาการเข้าข่ายสงสัย เช่น ครั่นเนื้อครั่นตัว ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก เป็นต้น
หากผลเป็นบวกแต่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย เช่น เจ็บคอเล็กน้อย ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก หรือมีไข้ต่ำๆ ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาต้านไวรัส และอาจรับประทานยารักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ ลดน้ำมูก ยาแก้ไอ ลดเสมหะ ดื่มน้ำอุ่น พักผ่อนมากๆ แนะนำให้แยกตัวเอง 5 วัน
แต่หากจำเป็นต้องออกจากบ้านหรือไปทำงาน ให้ปฏิบัติตามมาตรการ DMH 100% คือ ใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น ล้างมือบ่อยๆเว้นระยะห่างจากคนอื่น
แต่หากมีอาการไอมาก ไอบ่อย ไอถี่ หรือมีน้ำมูกมาก ขอให้หยุดงานและงดเดินทาง 5 วัน เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดการแพร่กระจายเชื้อ
หากอาการรุนแรงให้รีบพบแพทย์
แต่หากมีอาการรุนแรงขึ้น ได้แก่
- วัดไข้ได้ 39 องศาเซลเซียสขึ้นไป อย่างน้อย 2 ครั้ง ห่างกัน 4 ชั่วโมงใน 1 วัน
- วัดความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดได้ต่ำกว่า 94%
- มีภาวะแทรกซ้อนหรือการกำเริบของโรคประจำตัว
- มีปัจจัยเสี่ยงต่ออาการรุนแรง
- มีภาวะอื่นๆ ที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
- ผู้ป่วยเด็กที่มีอาการซึม กินได้น้อย มีภาวะขาดน้ำจากอุจจาระร่วงหรือชักจากไข้สูง เป็นต้น ขอให้รีบไปพบแพทย์
หากผลตรวจเป็นลบ ยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ อาจจะสวมหน้ากากอนามัยป้องกันตนเอง 2-3 วัน ถ้ามีอาการค่อยตรวจ ATK ซ้ำ สำหรับประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้ติดเชื้อ แนะนำว่ายังจำเป็นต้องใช้หน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ โดยการสวมหน้ากากอนามัยให้ประเมินตามความเสี่ยง
แนวทางการดูแลผู้ป่วย
สำหรับแนวทางการดูแลผู้ป่วยโควิด 19 หากไม่มีอาการ จะรักษาแบบผู้ป่วยนอกไม่จำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัส ให้ปฏิบัติตาม DMH อย่างเคร่งครัด 5 วัน
กรณีมีอาการเล็กน้อย หรือเอกซเรย์ปอดปกติ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงหรือโรคร่วมที่สำคัญ ให้รักษาแบบผู้ป่วยนอก อาจพิจารณาให้ยาฟ้าทะลายโจรหรือฟาวิพิราเวียร์ตามดุลยพินิจของแพทย์ ปฏิบัติตาม DMH เคร่งครัด 5 วัน
หากมีปัจจัยเสี่ยงหรือโรคร่วมสำคัญ อาจมีอาการปอดอักเสบเล็กน้อย หรือไม่มีปัจจัยเสี่ยงแต่มีปอดอักเสบเล็กน้อยถึงปานกลาง แพทย์จะพิจารณาให้ยาแพกซ์โลวิดหรือ เรมดิซิเวียร์ หรือ โมลนูพิราเวียร์
และหากมีปอดอักเสบต้องให้ออกซิเจน หรือความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดต่ำกว่า 94% ให้รักษาแบบผู้ป่วยใน โดยแพทย์จะให้ยาเรมดิซิเวียร์
ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีและหญิงตั้งครรภ์ หากไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องให้ยาต้านไวรัส แต่หากมีปัจจัยเสี่ยง แพทย์จะพิจารณาให้ยาฟาวิพิราเวียร์หรือเรมดิซิเวียร์ หรือหากมีปอดอักเสบจะให้ยาเรมดิซิเวียร์
สำหรับใบรับรองแพทย์เพื่อหยุดงานหรือยื่นเคลมประกัน กรณีผู้ป่วยนอก แพทย์จะออกใบรับรองให้ 5 วัน ส่วนกรณีผู้ป่วยใน ซึ่งอาจจะรักษานานกว่า 5 วัน แพทย์จะออกใบรับรองแพทย์ตามระยะเวลาที่รักษา
อ่านข่าวเพิ่มเติม