ส.ส.เพื่อไทย ลุกหารือเหตุกระป๋องนมหล่นท่ามกลางที่ประชุมร่วม หวั่นมีโอกาสแผ่นไม้หล่นสูง ด้าน ‘ภราดร’ แจงโชคดีไม่ใช่ระเบิด คาดเป็นของคนงานระหว่างก่อสร้าง ‘หมอชลน่าน’ จี้หามาตรการรักษาความปลอดภัย เหน็บหาก ปธ.ใช้ข้อบังคับอย่างเคร่งครัด สภาจะไม่วุ่นวาย
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 มกราคม ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง เป็นประธานการประชุม วาระหารือความเดือดร้อนของประชาชน นายวิรัช พิมพะนิตย์ ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย (พท.) หารือว่า เมื่อวันที่ 14 มกราคม ที่มีการประชุมร่วมรัฐสภาระหว่าง ส.ส.และ ส.ว. เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกว่าสภาแห่งนี้ไม่ปลอดภัย ทั้งที่เป็นสภา อันทรงเกียรติและเป็นไปด้วยความเรียบร้อยมาตลอด แต่กลับมีเหตุการณ์ที่สื่อนำไปเผยแพร่ว่าใครขว้างกระป๋องนมหล่นกลางวง ส.ส.เพื่อไทย ซึ่งตนไม่รู้ว่าเหตุการณ์นี้มีคนขว้างหรือหล่นมาจากตรงไหน
นายวิรัชเผยว่า แต่หากมองด้วยสายตาก็ไม่น่าจะมีอะไรที่หล่นลงมาจากด้านบน จึงขอให้ประธานช่วยหาข้อเท็จจริง หากมีการขว้างกระป๋องนมก็เป็นอันตรายกับเพื่อนสมาชิก ถ้าเป็น ส.ส.หรือ ส.ว.ขว้าง มาตรฐานทางจริยธรรมต้องเกิดขึ้น เพื่อให้พวกเขาได้รับผิดบ้างในการป่วนการประชุมเช่นนี้ และตนคิดว่ากล้องวงจรปิดบริเวณนี้น่าจะชัดเจนที่สุด และน่าจะรู้ว่าเหตุการณ์มาจากไหน แต่หากหล่นลงมาจากฟ้า ตนจะขอทำเป็นวัตถุมงคล แต่หากหล่นลงมาจริงๆ อยากให้ระวังเรื่องแผ่นไม้ โอกาสที่แผ่นไม้จะหล่นลงมาก็มีค่อนข้างสูง หากโดน ส.ส.หรือ ส.ว.จะลำบาก
ด้านนายภราดรชี้แจงว่า โชคดีที่ไม่เป็นระเบิด ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดดูแล้วปรากฏว่าหล่นมาจากด้านบน ซึ่งตัวกระป๋องและซองขนมมีการระบุชัดเจนว่าหมดอายุปี 2020 หมดอายุมาแล้ว 5 ปี คาดว่าน่าจะค้างอยู่ด้านบนเป็นเวลาหลายปีมาแล้วและน่าจะหล่นลงมา แต่ถ้าสงสัยว่าหล่นลงมาได้อย่างไรนั้น ก่อนหน้านี้ตนได้ขึ้นไปตรวจสอบว่าจะปรับปรุงเรื่องเสียงอย่างไร พบว่ามีช่องที่จะสามารถหล่นลงมาได้ น่าจะเป็นของที่คนงานรับประทานไว้ช่วงที่มีการก่อสร้างแล้วตกค้างอยู่ด้านบน ได้สืบหาข้อเท็จจริงมาให้แล้ว
ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรค พท. หารือด้วยว่า จากคำพูดของนายภราดรที่บอกว่าโชคดีไม่ใช่ระเบิด แต่สถานที่นี้ต้องมีการรักษาความปลอดภัย วัตถุทุกชิ้นสิ่งที่ต้องนำเข้ามาในบริเวณนี้ต้องมีการตรวจสอบทั้งหมด นายภราดรมีหลักฐานว่ากล่องนมนี้หมดอายุไปแล้วเมื่อ 5 ปีที่แล้ว จึงสันนิษฐานว่ามีคนนำมาตั้งไว้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องติดตาม แค่สิ่งที่เกิดขึ้นคือสิ่งที่แปลกปลอมหล่นลงมาจากบนฟ้า หากเป็นระเบิดจริง อะไรจะเกิดขึ้น อย่าคิดว่าจะไม่เกิด เพราะคนยุคนี้คิดสั้นมาก ฉะนั้น มาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุดต้องได้รับการยกขึ้นมาพิจารณา หากมีมรรคมีผล กรรมาธิการกิจการสภาควรพิจารณาว่ามีจุดอ่อนหรือช่องโหว่อย่างไร และต้องปรับปรุงหรือไม่ โดยข้อบังคับมีมาตรฐานเพียงพอหรือไม่ ในการรักษาความปลอดภัย
“ผมสะดุ้งตอนที่ท่านประธานบอกว่าโชคดีไม่ใช่ระเบิด ตอนแรกไม่ได้คิดมาก แต่ได้ตรองดูแล้วว่าแม้แต่ขวดน้ำหรือกระป๋องที่เพื่อนสมาชิกถือเข้ามา หากเขาคิดร้ายกับเรา แล้วติดอะไรเข้ามา หรือมีผู้คิดร้ายกดปุ่มระเบิดขึ้นมา อะไรจะเกิดขึ้น หากเกิดเหตุจริงทุกอย่างจบ ฉะนั้น มาตรการรักษาความปลอดภัยต้องเกิดขึ้น และข้อบังคับฉบับนี้ใช้ไม่ได้กับสภาแห่งนี้ ในหมวดรักษาความสงบเรียยบร้อย
ผมไม่โทษสมาชิก ผมโทษประธาน หากประธานเคร่งครัดในการปฏิบัติตามข้อบังคับอย่างชัดเจน สมาชิกก็จะไม่มีใครกล้าละเมิดข้อบังคับ แต่เนื่องจากมีการปล่อยปละละเลย สภาแห่งนี้มีแต่ความวุ่นวาย ใครอยากทำอะไรก็ทำ จึงอยากให้สมาชิกใช้ข้อบังคับให้เป็นประโยชน์กับส่วนรวม” นพ.ชลน่านกล่าว
นายภราดรชี้แจงว่า ที่พูดว่าโชคดีที่ไม่ใช่ระเบิด ตนพูดจริง เพราะหากเป็นวัตถุอันตรายจะไม่ดีต่อสภา ตนพูดจริงเพื่อสะท้อนให้เห็นว่าระบบรักษาความปลอดภัยของสภา ขณะนี้มีปัญหาอยู่หรือไม่ จำเป็นต้องพิจารณารวมถึงประเด็นที่ ส.ส.หารือ เช่น ไม้กั้นเข้าพื้นที่จอดรถของ ส.ส. เป็นต้น ทั้งนี้ ในปีงบประมาณปี 2568 และ 2569 ต้องดำเนินการต่อไป
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ภราดร งัดหลักฐานแจง ปมกระป๋องนมร่วงกลางสภา คาดคนงานกินแล้วทิ้งไว้ด้านบน จนหล่นลงมา
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th