'คนเราหนีอดีตไม่พ้น'
คำคมที่ได้ยินมาแต่ไหนแต่ไรแต่ยังใช้ได้จริงเสมอในยุคนี้ ยุคที่ 'โซเชียลมีเดีย' มีอิทธิพลอย่างมากต่อชีวิตผู้คน และเป็นแหล่งรวบรวมความทรงจำชั้นดี ให้เราได้กลับไปรำลึกความหลังได้ทุกครั้งที่ใจคิดถึง
แต่ดาบก็มีสองคม! เมื่ออดีตอาจกลับมาทำร้ายเราได้เช่นกันหากไม่ระวังตัว สืบเนื่องจากดรามาล่าสุดในหมู่ชาวเน็ตไทย ที่เมื่อหนึ่งในสมาชิกวงดนตรีวงหนึ่งแสดงความคิดเห็นด้านลบต่อวงการดนตรี และส่งผลกระทบต่อศิลปินในวงการท่านอื่น ก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมรุนแรง ไปจนถึงการ 'ขุด' โพสต์ในอดีตของสมาชิกคนดังกล่าวมาวิพากษ์วิจารณ์ กลายเป็นบทเรียนของการมี 'Digital Footprint' หรือรอยเท้าบนโลกดิจิทัล กล่าวคือประวัติของสิ่งต่างๆ ที่เราเคยโพสต์ หรือแชร์ในโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหนก็ตาม
LINE TODAY จึงอยากชวนทุกคนส่อง 'ดรามา' ที่มีคนดังเป็นศูนย์กลาง เพราะไม่ว่าจะดังคับฟ้าเป็นนักเขียนที่ทั่วโลกหลงรัก จนถึงศิลปินอินดี้จากวงดนตรีนอกกระแส ก็มีสิทธิ์ 'ดับวูบ' ด้วยผลจากความคิดเห็นที่แชร์ลงไปในโซเชียลมีเดียได้เหมือนกัน
1. เจ.เค.โรลลิง (J.K.Rolling)
นักเขียนขวัญใจวัยรุ่นยุค 2000 เจ้าของผลงานชื่อก้องโลกอย่าง 'แฮร์รี่ พอตเตอร์' อย่าง เจ.เค.โรลลิง ก็เคย 'บ้ง' แบบกู่ไม่กลับในสายตาชาวเน็ตมาแล้ว ด้วยโพสต์ที่เจ้าตัวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศ มีเนื้อความโดยสรุปว่าทุกคนที่มีประจำเดือนควรจะใช้คำว่า 'ผู้หญิง' เธอมองว่าเพศที่แท้จริงคือเพศกำเนิด ซึ่งเป็นจุดกำเนิดที่ทำให้หลายคนมองว่าเธอมีอคติกับกลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศ โดยเฉพาะคนข้ามเพศ
ด้วยทัศนคติที่สวนทางกับความเคลื่อนไหวของผู้มีความหลากหลายทางเพศในปัจจุบัน ทวีตดังกล่าวของเจเคจึงโดนถล่มเสียย่อยยับ นักอ่านและแฟนคลับหลายคนถึงกับแสดงอาการผิดหวังที่นักเขียนในดวงใจมีจุดยืนดังกล่าว
แน่นอนว่าความคิดเห็นของเจเคมีผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ก็ต้องยอมรับว่ากระแสตีกลับในตอนนั้นช่างรุนแรง และเปลี่ยนความคิดที่หลายๆ คนมีต่อเธอไปเลย แม้กระทั่งนักแสดงภาพยนตร์ 'แฮร์รี่ พอตเตอร์' อย่างเอ็มม่า วัตสัน (Emma Watson) แดเนียล แรดคลิฟฟ์ (Daniel Radcliff) และรูเพิร์ต กรินต์ (Rupert Grint) ก็ยังไม่เห็นด้วยกับจุดยืนดังกล่าว
2. คริสซี ทีเกน (Chrissy Teigen)
นางแบบและนักแสดงชื่อดังที่ชาวไทยหลายคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดี เพราะคริสซี่ยังเป็นคนดังฮอลลีวู้ดลูกครึ่งไทย (เธอมักชวนคุณแม่ชาวไทยไปทำกับข้าวในแชนแนล YouTube ของตัวเองด้วย) และเจ้าของหัวใจศิลปิน R&B ชื่อดัง จอห์น เลเจน (John Legend) ดรามาของคริสซี่เกิดจากพฤติกรรม 'ร้ายๆ ' ของเจ้าตัวสมัยยังเป็นวัยรุ่น โดยเธอส่งข้อความไปหานักแสดงคนหนึ่งชื่อคอร์ทนีย์ สทอดเดน (Courtney Stodden, ขณะนั้นอายุ 16 ปี) ที่แต่งงานกับเจ้าบ่าวอายุ 60 ปี
หลายข้อความที่คริสซี่แท็กหาและส่งหาคอร์ทนีย์ทำให้ภาพลักษณ์ 'คนคูล' และขวัญใจชาวเน็ตอย่างคริสซี่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ และยังทำให้เจ้าตัวหลุดสัญญากับแบรนด์ยักษ์หลายแบรนด์ เช่น ทาร์เก็ตและเมซี่ส์
3. ลูกหนัง ศีตลา วงษ์กระจ่าง
ใกล้ตัวเข้ามาอีกนิดกับสาวไทยที่ได้ไปเดบิวต์กับวงหญิงล้วนที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นอาชีพในฝันของวัยรุ่นหลายๆ คน แต่กระแสตีกลับดันไม่ได้ 'ดี' เหมือนรุ่นพี่อย่าง ลิซ่า (Blackpink) นิชคุณ (2PM) หรือ แบมแบม (GOT7) เพราะหลังเปิดตัวว่า 'ลูกหนัง' เป็นสมาชิกของวง H1KEY ชาวเน็ตไทยหลายคนก็ขุดประวัติและโซเชียลมีเดียของสาวลูกหนังออกมาวิพากษ์วิจารณ์
โดยอดีตที่เป็นที่พูดถึงของลูกหนัง คือการเข้าร่วมการชุมนุม กปปส. ที่หลายคนมองว่าเป็นการสนับสนุน 'รัฐประหาร' อันไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ของประชาธิปไตย เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เส้นทางบันเทิงต่างแดนของลูกหนังถูกนำมาถกเถียงถึงความเหมาะสม และติดเทรนด์ฮิตในทวิตเตอร์อยู่พักใหญ่ๆ ทีเดียว
ปัจจุบันลูกหนังยุติบทบาทในการเป็นสมาชิกวง H1KEY แล้ว
4. ซง จีอา (Song Ji Ah)
บิวตี้บล็อกเกอร์สุดฮ็อตที่โด่งดังจากรายการเรียลลิตี้จับคู่สุดฮิต 'Single's Inferno' ก็ตกอยู่ในสถานการณ์ถูกขุดอดีตอย่างรุนแรง เมื่อชาวเน็ตเกาหลีพบว่าข้าวของแบรนด์เนมที่เธอใช้ มีส่วนหนึ่งเป็นของทำเลียนแบบและผิดลิขสิทธิ์ จึงเกิดเป็นมหกรรมรุมขุดสาวจีอา และพบว่าเธอได้นำของผิดลิขสิทธิ์มาใช้ในช่องแชนแนลยูทูปของเธอหลายต่อหลายครั้ง
ข้อกล่าวหาดังกล่าวขัดต่อภาพลักษณ์สาวไฮโซช่างแต่งตัวและมีรสนิยมสุดหรูของเธอเป็นอย่างมาก ส่งผลให้หนทางในเส้นทางบันเทิงที่เกือบจะสดใสต้องหยุดชะงัก โดยเจ้าตัวได้ลบโพสต์ทั้งหมดในอินสตาแกรม กล่าวขอโทษแฟนๆ ที่ทำให้ผิดหวัง รวมทั้งหยุดการอัปเดตโซเชียลมีเดียไปเลยทีเดียว
ดรามาของจีอาเป็นเพียงส่วนหนึ่งในวงการบันเทิงเกาหลีใต้เท่านั้น ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าการจะโด่งดังในประเทศนี้ ต้องเป็นคนที่ประวัติขาวสะอาดและ 'ไม่เคยบ้ง' อย่างแท้จริง
5. ไบรอัน อดัมส์ (Brian Adams)
ศิลปินร็อกยุค 90 ชื่อดังก็โดน 'ขุด กับเขาด้วย โดยสาเหตุที่ต้องนำกรณีของไบรอัน อดัมมาแชร์ ก็เพราะว่าเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ทั้งยังเชื่อมโยงกับประเด็นโควิด 19 รวมถึงปัญหาความเกลียดชังชาวเอเชียนที่ทวีความรุนแรงขึ้นในโรคระบาด
โดยไบรอันแชร์ความคิดเห็นลงในอินสตาแกรมว่า "ไอ้พวกจอมโลภ นักกินค้างคาว พวกขายสัตว์ในตลาดสด แถมยังชอบผลิตไวรัสเอ๊ย" ซึ่งจากเนื้อหา ก็ทำให้ชาวเน็ตคาดเดาไม่ยากว่าเกิดจากการเหยียดเชื้อชาติชาวจีนอย่างแน่นอน
เหตุการณ์หลังจากนั้นคือเจ้าตัวได้ลบโพสต์เจ้าปัญหา ออกมาขอโทษ และแน่นอนว่าโดนโต้ตอบอย่างดุเดือด ทั้งยังถูกถอดออกจากการทัวร์คอนเสิร์ตกับ บอน โจวี่ (Bon Jovi) และสูญเสียฐานแฟนไปจำนวนมาก
ทั้ง 5 อุทาหรณ์คนดังที่เรายกตัวอย่างมานี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ 'Cancel Culture' หรือวัฒนธรรมการแบนที่เกิดขึ้นเมื่อชาวเน็ตกลุ่มใหญ่ไม่พอใจในพฤติกรรมหรือความคิดเห็นของบุคคลหนึ่ง แม้จะดูเป็นผลลัพธ์ที่รุนแรงและน่ากลัวอยู่บ้าง แต่อย่าลืมว่าอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด อีกด้านของพื้นที่ในการแสดงความคิดเห็นและตัวตน ก็มีด้านของขุมทรัพย์ที่เรียกว่า 'ความรู้' รอให้เราได้ค้นหาและทำความเข้าใจ ก่อนจะ 'แชร์' สิ่งที่อาจย้อนกลับมาทำร้ายเราในอนาคต
หรือหากการคิดก่อนโพสต์มันยากนัก ก็คงต้องสอนให้ตัวเองขยันใช้ 'ปุ่มลบ' เพื่อเก็บกวาดความคิดอันสุ่มเสี่ยง หลีกเลี่ยง 'ดรามา' กันหน่อยล่ะ!
-
อ้างอิง :
Pol Thunya LINE Today ก็พิจารณาการเอาข่าวมาแปะต่อ ด้วยการอ่านกรองด้วย อย่าดีแค่ยกเอามาแปะโดยไม่กลั่นกรอง หรืออ่านผ่านๆ ด้วยมีคำผิดสารพัดในการพิมพ์แล้วเอามาแปะต่อ บางสำนักสื่อออนไลน์อิสระ ทำข่าวแบบไร้คุณภาพก็ยังจะเอามาแปะต่อ......ส่วนการเมืองที่ยกเลิกการออกความเห็นไป กลัวกม.ใหม่ PDPA...หรือไง?
07 มิ.ย. 2565 เวลา 13.28 น.
ไก่ 51 เลิกมีข่าวน่าจะดีกว่า ถ้าข่าวที่ได้มาไม่ชัดเจนจนอ่านแล้วมีฝ่ายได้ประโยชน์หรือเป็นลักษณะข้อความชวนเชื่อมากกว่าข่าว
07 มิ.ย. 2565 เวลา 13.35 น.
p'sak ผมขอถามว่าไลทูเดปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองของสมาชิกที่อ่านข่าวการเมืองในไลทูเด ทุกคนใช่ไหม
07 มิ.ย. 2565 เวลา 13.22 น.
kiat มันต้องมีใจเป็นธรรมกับเขา เพราะเมื่อเวลาเปลี่ยน บริบทเรื่องต่างๆ เปลี่ยน ความคิดหรือแนวคิดของคนที่มีต่อเรื่องหนึ่งก็อาจเปลี่ยนได้ เป็นเรื่องธรรมชาติ เช่น เพลงมือปืน อันโด่งดัง แค่เด็กเห็นคนชื้อขายกัญชา ก็ถือว่าผิดมหันต์สั่งให้ฆ่าเด็ก แต่ต่อมากฎหมายอาจให้การซื้อขายกัญชา ไม่ผิดกฎหมาย เป็นต้น
26 มิ.ย. 2565 เวลา 13.47 น.
Eed Eed เปิดให้เม้นต์ข่าวการเมือง
ตามปกติเลยค่ะ LlNE Today
นักการเมืองเขาจะได้รู้ว่า
ประชาชนต้องการใครแบบไหน
ไม่ใช่ปิดแบบนี้นะคะ
26 มิ.ย. 2565 เวลา 13.55 น.
ดูทั้งหมด