‘บิว วราภรณ์’ แจงอีก หลังถูกเข้าใจผิดเป็นผีน้อย จนติด ตม. ยันไม่เคยทำอะไรผิดกฎหมาย
จากกรณีที่ ‘บิว วราภรณ์’ ยูทูบเบอร์ อินฟลูเอนเซอร์ ที่มีคนติดตามเกือบ 1 ล้านคน เจ้าของแบรนด์ Bondi Jelly โพสต์เล่าประสบการณ์ ติด ตม.เกาหลีและถูกส่งกลับประเทศ (อ่านข่าวเพิ่มเติม ‘บิว วราภรณ์’ เล่าทั้งน้ำตา ติด ตม.เกาหลี ถูกส่งกลับไทย เสียความรู้สึก ถามทำผิดอะไร?)
ล่าสุด บิว วราภรณ์ ได้โพสต์ข้อความเล่ารายละเอียดเพิ่มเติมหลังถูกเข้าใจผิดว่า บิวที่ไม่ใช่เดอะโกสน้อย มีหลายๆ คน หลายๆ เพจ นำเรื่องของบิวไปตีความต่างๆ ทำให้หลายๆ คนเข้าใจผิด และเกิดการคอมเมนต์ที่ไม่ดี
งั้นบิวขออธิบายตรงนี้เป็นครั้งสุดท้ายน้า และก็ถ้าใครไม่เข้าใจยังไงก็สุดแล้วแต่ทุกคนเลย แต่บิวไม่อยากให้เรามาต่อว่า หรือใช้คำพูดที่ไม่ดีต่อกัน อย่างน้อยเราก็คนไทยด้วยกันนะคะ
และจุดประสงค์บิวต้องการมาแชร์ประสบการณ์ชีวิต เป็นบทเรียนชีวิต และเพื่อการเรียนรู้ให้กับทุกคนในครั้งต่อไป ไม่ได้มีเจตนาให้เรามาต่อว่ากันเอง ดราม่าใส่กัน มีอะไรสามารถแนะนำกัน ด้วยคำพูดที่ดีต่อกันได้เลยค่ะ
เพราะสุดท้ายพวกเราต่างก็อยากช่วยเหลือคนไทยด้วยกันนะคะ เรามารวมพลังกัน แนะนำกัน ช่วยเหลือกันดีกว่าค่ะ หรือจะมารวมพลังต่อสู้กับแตงโมเกาหลีก็ได้นะคะ
เริ่ม
– 4-5 ปีที่ผ่านมาบิวจะได้รับเชิญจากทางแบรนด์เกาหลีไปอีเว้นท์หลายๆครั้ง ซึ่งทุกครั้งก็จะมีการ์ดเชิญหรือคำเชิญจากแบรนด์นั่นๆ เพื่อที่จะยื่นให้กับทาง ตม. ว่าเราได้รับคำเชิญจากแบรนด์นี้นะ ในการมาร่วมงาน promote
– 4-5 ครั้งที่ร่วมงานกันมามีความสัมพันธ์ที่ดีกับแบรนด์เกาหลีที่น่ารักกับบิวมาตลอด รวมถึง ตมเกาหลีด้วยค่ะ ตม บางคนบิวจำได้ว่าพอเค้าเห็นคำเชิญ เค้าก็จะพูด Welcome เราด้วยนะคะ ไม่เพียงแต่ประเทศเกาหลีนะคะ อเมริกา / ญี่ปุ่น / สิงคโปร์ เวลาเค้าเห็นเราก็จะยิ้มๆให้ตลอดค่ะ เพราะเรามาในฐานะตัวแทนประเทศไทยมาโปรโมตสินค้าประเทศของเขา
– ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน 19 กันยายน 2566 บิวเดินทางไปเที่ยว 2 คนกับธนิน (แฟน) เพื่อไปตัดสูทแต่งงาน และถ่ายคลิปครอบรอบ 8 ปี
– จากนั้นบิวยื่นหนังสือเดินทางที่ ตม. และโดนเรียกเข้าห้องเย็นทันที และทาง จนท. ได้สอบถามย้อนหลังถึงเดินทางมาอีเว้นของเราเมื่อเดือนมิถุนายน66
– ย้อนกลับไป มิถุนายน 2566 ดี๋ยวได้รับเชิญจากแบรนด์เกาหลีมางานอีเว้นท์เหมือนเช่นเดิมเหมือนที่ผ่านมา บิวและธนิน (แฟน) เข้าได้ตามปกติไม่มีปัญหาอะไร (เว้นแต่มีเพื่อนร่วมทริป 1 คน ที่ติด ตม.)
– จากนั้นทางแบรนเกาหลีได้เคลียร์เรื่องทุกอย่าง และโมฆะสัญญาของทุกคนเป็นที่เรียบร้อย และจบเรื่องนี้ไป
– ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ มีเพื่อนร่วมทริปติด ตม. เรื่องงานอีเว้นท์เดือน มิถุนายน แต่คุยกับ ตม. และ ตม. ก็คุยกับแบรนด์เคลียร์เข้าใจและผ่านไปได้ด้วยดี เข้าเกาหลีได้ปกติค่ะ
– แต่สำหรับบิวครั้งนี้คือเตรียมตัวไปเที่ยวกับธนิน (แฟน) และเตรียมเอกสารเพราะเราเตรียมไว้สำหรับคำถามที่เค้าจะถามเราเรื่องการมาเที่ยว (และทางแบรนด์แจ้งว่าครั้งก่อนเรื่องเคลียร์จบแล้วนะคะ)
– ตัดภาพกลับมาธนิน (แฟน) เข้าไปได้ตามปกติ
– แต่บิวโดนเรียกคนเดียวเข้าห้องเย็น ตม. กับบิว รับทราบทั้งหมดว่าเราคืออินฟลูจากไทย เพราะดูไอจีเรา (ดูไอจีอย่างเดียวไม่เกี่ยวกับเฟซบุ๊กนะคะที่หลายๆ คนพูดถึง)
– จากนั้นเราแจ้งกับ ตม. ว่าแบรนด์เคลียร์จบแล้วไม่ใช่หรอคะหรือว่าจะให้โทรคุยไหม ดู Statement ก็ได้ว่าครั้งที่แล้วยกเลิกสัญญาไปแล้ว และครั้งนี้เรามาเที่ยว ซึ่งทาง ตม. และล่าม ก็ไม่ได้สนใจที่จะดูอะไรในจุดนี้ และเราอธิบายไปหมดแล้วว่าเราเคยมาอีเวนท์หลายครั้งแล้วค่ะ
มีการบอกล่ามว่าให้ขอคำแนะนำด้วย ว่าเราควรทำยังไงเพื่อจะได้หาทางออกร่วมกัน และมีการขอบคุณ ตม ด้วย ที่จะชี้แนะให้เรา เพราะเรามาหลายครั้งกับแบรนด์เกาหลีแล้วที่คำส่งคำเชิญมา
– สรุปประเด็นตอนนี้คือ ความคิดเห็นส่วนตัวของบิวคิดว่าเรื่องนี้น่าจะคุยกันได้ไม่ยาก เหตุผลเพราะเรามาในนามอินฟลูหลายครั้ง ผ่านไปด้วยดีทุกครั้ง และไม่มีประวัติอะไรที่ไม่ดี เรา Promote ให้กับทางเกาหลีหลายครั้ง เลยคิดว่า ตม. ควรจะแนะนำแนวทางร่วมกันได้เพราะเราก็เข้ามาในฐานะตัวแทนประเทศไทยที่มา promoteสินค้าแบรนด์เกาหลี ไม่ได้เข้ามาทำอะไรผิดกฏหมาย
– และเช่นกันครั้งนี้บิวมาเที่ยวด้วยค่ะซึ่งเค้าไม่ค่อยถามข้อมูลสำหรับทริปนี้เลยค่ะ (ย้ำอีกครั้งนะคะ ครั้งที่แล้วและที่ผ่านมาทั้งหมดบิวไม่เคยมีปัญหาอะไรกับ แตงโมเกาหลีนะคะ ทั้งการมาเที่ยวและการได้รับเชิญมาอีเวนท์กับแบรนด์)
– ซึ่งถ้าได้รับคำแนะนำที่ดีครั้งหน้า จะได้แนะนำคนไทยคนอื่นๆด้วยว่า ควรปฏิบัติตัวยังไงและเตรียมพร้อมยังไงบ้าง
– แต่ครั้งนี้ที่บิวเจอ ตม. และล่าม คือไม่ฟังทางเรา ไม่ดูเอกสาร ไม่ฟังทางแบรนด์ชี้แจ้ง (ซึ่งตรงนี้บิวแจ้งไปหมดแล้วว่ามีพร้อมทุกอย่าง) และยื่นคำคัดค้าน 2 รอบ ก็ไล่ๆ ไป จนสุดท้ายยอมให้เราเขียนคำคัดค้าน
และบิวก็เขียนถึงเรื่องราวปัจจุบันว่าเรามาเที่ยวอะไรยังไงบ้าง แต่สุดท้ายคำตัดสินคือ แจ้งว่าไม่ให้เข้าประเทศอีก ล่ามก็หาว่าเราแก้ต่าง ไม่ได้รับความช่วยเหลือในการแปลที่ถูกต้อง จึงเป็นเหตุผลให้ส่งกลับประเทศเลย แล้วบิวสอบถามเราว่าเข้าประเทศนี้ไม่ได้อีกแล้วหรอคะ เค้าบอกว่าไม่ได้แล้วค่ะ
– บิวได้รับคำตัดสินแบบนั้นเลยรู้สึกว่าครั้งนี้ทำเกินไปหน่อยเพราะในฐานะที่เราทำงานด้วยกัน มีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเกาหลี ผ่านมา 4-5 ปีที่เรา promote ให้กับประเทศคุณมาตลอด ไม่เคยทำอะไรที่ไม่ดีกับ ตม. และประเทศเกาหลี ก็ค่อนข้างเสียความรู้สึกค่ะที่สุดท้ายโดนส่งกลับประเทศและได้รับการปฎิบัติต่างๆที่ไม่น่ารักจากเจ้าหน้าที่ค่ะ ในการยื่นคำคัดค้าน
สุดท้ายแล้วมันเป็นเรื่องราวของการที่ไม่ได้รับการรับฟังที่ดีค่ะ
สมมุติว่าเจ้าหน้าที่ ตม. มีการให้คำแนะนำว่าต่อไปคุณควรทำแบบนี้นะๆ ควรจะยื่นหรือทำอะไรเพิ่มเติมนะ หรือให้ความรู้กับแบรนด์เกาหลีที่เชิญคนไทยก็จะดีมากๆเลย เพราะสุดท้ายทางแบรนด์เกาหลีเป็นคนเชิญเราไป
ไม่ใช่เราเสนอตัวไปเอง เราเลยไม่รู้ข้อมูลต่างๆตรงนี้ว่าต้องเตรียมอะไรบ้างสำหรับกฏของประเทศเค้า
ตรงนี้เป็นสิ่งที่ดีมากๆเลยค่ะเพราะบิวก็พร้อมจะปรับและทำให้ถูกต้องเช่นกันค่ะ
บิวขอยืนยันว่า ในชีวิตนี้บิวไม่เคยทำอะไรผิดกฎหมาย ทั้งในไทยและต่างประเทศ และบิวไม่ใช่เดอะโกสน้อยแน่นอนค่ะ ไม่เคยอยากเป็นด้วยค่ะ เพราะบิวก็ทำอาชีพ ยทบ อินฟลู และเป็นเจ้าของธุรกิจด้วย
อยากจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับทุกคน และเป็นประสบการณ์ชีวิตให้กับทุกคนเลยค่ะ รวมถึงมาแนะนำเพื่อนร่วมอาชีพ และเพื่อนๆที่ต้องการไปเที่ยวเกาหลีด้วยค่ะ
ถ้ามีคำแนะนำดีๆ จากทางเกาหลี บิวจะมาบอกเพื่อนๆ ที่ติดตามหรือแฟนคลับอยู่แล้วเสมอเพื่อเป็นประโยชน์ให้กับทุกคนเลยนะ
เพราะสุดท้ายแล้ว คนที่ตั้งใจไปเที่ยวจริงๆ คงไม่ได้อยากเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้ เพราะกว่าจะเก็บเงินได้ กว่าจะหาเวลาไปเที่ยวได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
เลยคิดว่าเรื่องนี้ที่เราเป็นปัญหามานานกับ ตม. เกาหลี ควรจะหาทางออกร่วมกันโดยกำหนดมาตรการชัดเจนว่าทำแบบไหนถึงผิดกฎของประเทศ และไม่สามารถเข้าประเทศได้ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ไม่ให้หลายๆ คนเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่รับฟังนะคะ