"ปารีณา" ยินดีลาออกจาก กมธ.ปราบโกง หากเป็นเพราะคดีรุกป่าก็ต้องใช้มาตรฐานเดียวกันกับ "วัฒนา เมืองสุข" ที่อยู่ระหว่างสู้คดีโกงบ้านเอื้ออาทร ถ้าออกก็ต้องออกทั้ง 2 คน ไลน์กลุ่มพรรคพลังประชารัฐหลุด "เอ๋" ยัวะ "ธรรมนัส" ไม่ช่วยมีแต่กระทืบ
เมื่อวันที่ 18 มกราคม นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงความขัดแย้งภายในคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ว่าทั้งตนและนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ไม่เคยมีเจตนาที่จะเข้าไปป่วนการทำงานของ กมธ.ตามที่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวหา แต่สิ่งที่ทำให้เกิดความไม่ราบรื่นใน กมธ.ที่อยากให้สังคมช่วยกันพิจารณามี 2 ประเด็น คือ 1.การนำกรรมาธิการ ป.ป.ช.มาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ในกรณีเล่นไม่เลิกปมถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ ทั้งๆ ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยกคำร้องเรื่องนี้ และคิดด้วยว่าไม่มีองค์กรใดตามรัฐธรรมนูญที่จะมีอำนาจตรวจสอบ เพราะเป็นเรื่องระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับฝ่ายบริหาร อีกทั้งกรรมาธิการก็มีมติให้ยุติเรื่องแล้ว แต่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ยังดึงดันที่จะเดินต่อโดยไม่ฟังเสียงของที่ประชุม 2.วุฒิภาวะของคนเป็นประธานกรรมาธิการควรเปิดใจกว้าง รับฟังเสียงท้วงติงรวมถึงข้อเสนอแนะของกรรมาธิการแบบไม่มีอคติ แต่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์กลับใช้วาจาที่ไม่เหมาะสมกับสุภาพสตรี ซึ่งไม่ใช่วิสัยของลูกผู้ชาย ไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช.ต่อไป โดยล่าสุดพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ยังไปให้สัมภาษณ์ในรายการ "เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand" เกี่ยวกับกรณีที่หลุดใช้คำว่าเสือกกับนางสาวปารีณาแบบไร้สำนึก โดยระบุว่าคำว่าเสือกยังน้อยเกินไป แสดงให้เห็นว่าเป็นคนที่ยากจะเยียวยาแล้ว "ผมเชื่อว่าถ้าพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ทำตัวน่าเคารพ ไม่ใช้กรรมาธิการมาสร้างประโยชน์ทางการเมืองให้ตัวเอง ปัญหาจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะทั้งผมและคุณปารีณาต่างก็ต้องการให้กรรมาธิการชุดนี้ได้ปฏิบัติภารกิจตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชัน ตามบทบาทหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน แต่ตอนนี้ที่งานต้องสะดุดไปก็เพราะมีคนอย่างพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์เป็นประธาน ผมหวังว่าในที่ประชุมสภาจะพิจารณาญัตติถอดถอนพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ออกจากตำแหน่งประธานจะได้จบปัญหานี้เสียที" นายสิระกล่าว ด้านนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการ ป.ป.ช.กล่าวถึงการทำหน้าที่กรรมาธิการว่า มีหลายท่านต้องการให้ตนลาออกจาก กมธ.ปราบโกง เนื่องจากมีคดีที่ดิน ภ.บ.ท.5 ที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนยืนยันด้วยความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้บุกรุกและพร้อมจะสู้คดีจนถึงที่สุด เพราะมั่นใจว่าประชาชนทุกคนที่อาศัยและทำกินอยู่บนที่ดิน ภ.บ.ท.5 ตั้งตารอดูคดีนี้ เพราะถ้าตนติดคุกก็จะมีประชาชนที่อาศัยอยู่และทำกินบน ภ.บ.ท.5 ต้องมาติดคุกทั่วแผ่นดิน เช่นเดียวกันกับนายวัฒนา เมืองสุข ที่ปรึกษาประธาน กมธ.ชุดนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการต่อสู้คดีทุจริตบ้านเอื้ออาทร และเช่นเดียวกันกับคุณเสรีพิศุทธ์ที่มีคดีหมิ่นเบื้องสูงถูกร้องเรียนที่กรรมาธิการปราบโกง หมิ่นเบื้องสูง 2 คดี และคดีทุจริตอีกประมาณ 5 คดี ไม่รวมคดีต่างๆ ที่อยู่ที่ศาล "ถ้าเพื่อความยุติธรรมดิฉันยินดีลาออก แต่ต้องออกพร้อมกับคุณเสรีพิศุทธ์และคุณวัฒนา ดิฉันขอท้าไปยังทั้ง 2 ท่านว่าพร้อมที่จะลาออกหรือไม่ หากทั้ง 2 คนพร้อม ดิฉันก็พร้อม" นางสาวปารีณากล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐว่า เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ในโลกโซเชียลมีเดียได้มีการเผยแพร่แชตไลน์ลับในกลุ่ม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีผู้บริหารระดับสูงของพรรคและ ส.ส.อยู่ด้วยเกือบร้อยคน โดยแชตดังกล่าวมีข้อความในลักษณะที่ น.ส.ปารีณาแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดไม่พอใจ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ โดยได้แคปหน้าจอแชตไลน์ด้วยตัวเองที่คุยกับ ร.อ.ธรรมนัสส่งมาในไลน์กลุ่มของพรรค โดยมีข้อความหนึ่งระบุว่า "เพราะพี่ไม่ได้ช่วยอะไรเอ๋เลย มีแต่กระทืบเอ๋" ทั้งนี้คาดว่ามาจากกรณีที่ น.ส.ปารีณาและบิดาคือนายทวี ไกรคุปต์ อดีตรัฐมนตรีและสมาชิกพรรคพลังประชารัฐถูกโจมตี และกำลังส่อว่าจะถูกดำเนินกรณีบุกรุกและครอบครองที่ดินของรัฐในพื้นที่ จ.ราชบุรี (ป่าไม้และป่าสงวนแห่งชาติฝั่งซ้ายแม่ย้ำภาชี) หลังแชตไลน์ดังกล่าวหลุดออกมา ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงรอยร้าวใหม่ภายในพรรค ทั้งนี้หลังแชตดังกล่าวปรากฏเป็นข่าว ไลน์กลุ่มพรรคได้หลุดอีกครั้งโดยเป็นข้อความที่ น.ส.ปารีณาเขียนว่า "ทะเลาะกันในพรรคพอนะคะ อย่าเอาไปนอกพรรค เอ๋เข้าใจมีคนไม่พอใจพี่ธรรมนัสเยอะ รวมถึงเอ๋ด้วย แต่อาจจะเป็นคนละเรื่อง ก็ขอเป็นเรื่องภายในนะคะ" น.ส.ปารีณากล่าวถึงกรณีที่มีแชตไลน์หลุด โดยยอมรับว่าแชตไลน์ที่หลุดออกมาเป็นไลน์ของตัวเองจริง และเป็นการพูดคุยกันในไลน์กลุ่ม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งความจริงมีการพูดคุยปัญหากันหลายเรื่อง และไม่เข้าใจว่าคนที่นำข้อมูลไปเผยแพร่มีวัตถุประสงค์อะไร และในกลุ่มนี้มีแต่ ส.ส.ของพรรค ดังนั้นคนที่เอาไปส่งให้สื่อต้องเป็น ส.ส.อยู่แล้ว แต่คงจะไม่เอาเรื่องใคร ขอปล่อยให้เรื่องมันผ่านไปดีกว่า เธอบอกว่าส่วนข้อความในแชตที่แสดงให้เห็นความขัดแย้งระหว่างตนกับ ร.อ.ธรรมนัสนั้น ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีรอยร้าวอะไร เราเป็นผู้น้อยจะกล้าไปมีปัญหากับผู้ใหญ่ได้อย่างไร และเรื่องนี้เป็นแค่ปัญหาภายใน อย่างไรก็ตามตนเองและ ร.อ.ธรรมนัสยังไม่ได้พูดคุยหรือเคลียร์ปัญหาตามที่ปรากฏข้อความในไลน์ เพราะต่างคนต่างก็มีภารกิจลงพื้นที่พบประชาชน และส่วนใหญ่จะได้เจอกันในวันพุธและพฤหัสบดีที่มีการประชุมสภาเท่านั้น น.ส.ปารีณากล่าวอีกว่า ส่วนตัวไม่อยากให้ความสนใจเรื่องแชตหลุดมากนัก และอยากให้สังคมไปสนใจเรื่องภายในกรรมาธิการ ป.ป.ช.มากกว่า ซึ่งก่อนหน้านี้มีคนขอให้ตนลาออกจากตำแหน่งเพราะมีคดีติดตัว ตนก็อยากจะท้าให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช. และนายวัฒนา เมืองสุข ในฐานะที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช.ลาออกจากตำแหน่งด้วยเช่นกัน เพราะทั้ง 2 คนมีคดีติดตัวและไม่เหมาะสมที่จะมานั่งอยู่ในกรรมาธิการที่ต้องตรวจสอบทุจริต นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงกรณีที่มีการใช้คำพูดไม่เหมาะสมตอบโต้กันไปมาระหว่าง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กับ น.ส.ปารีณา และนายสิระว่า อยากให้บุคคลทั้ง 3 ทบทวนบทบาทและพฤติกรรมของตัวเอง เพราะทุกสิ่งที่ดำเนินการในสภาผู้แทนราษฎรไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นการทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนปวงชนชาวไทย จึงต้องมีวุฒิภาวะสมกับการเป็นผู้แทนปวงชนด้วย จึงขอเรียกร้องไปยังกรรมาธิการคนอื่นๆ ในชุดนี้ว่าต้องมีบทบาทในการร่วมแก้ปัญหา ไม่ใช่นิ่งดูดายเพราะคิดว่าธุระไม่ใช่ ปล่อยให้เกิดเหตุทะเลาะในระหว่างประชุม จนประชาชนเกิดความเบื่อหน่าย ขณะเดียวกันก็สูญเสียโอกาสในการทำหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญและเป็นหน้าที่ของกรรมาธิการชุดนี้ นพ.ระวีกล่าวว่า รู้สึกไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ โดยภาพรวมการทำงานร่วมกันของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้เป็นไปด้วยดี ทั้ง 2 ฝ่ายช่วยกันรักษาภาพลักษณ์ของสภา ช่วยกันประคับประคองมาดีกว่าสภายุคก่อนๆ มาก จึงอยากฝากถึงท่านประธานชวนในฐานะประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติด้วยว่า เรื่องนี้มาไกลเกินกว่าจะเป็นเรื่องภายในของกรรมาธิการ ป.ป.ช.แล้ว เพราะกระทบกับภาพลักษณ์ของสภาทั้งหมด จึงอยากให้ท่านเรียก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์, นายสิระ และ น.ส.ปารีณามาพูดคุยทำความเข้าใจเพื่อแก้ปัญหา โดยไม่ต้องรอให้ทั้ง 3 คนนั้นร้องขอ เพื่อจบปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว.
ถ้าท่านสิระคิดว่าปมถวายสัตย์นายกไม่ผิด กลัวทำไมกับการตรวจสอบ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่ผูกติดกับองค์กรอื่น
หรือพวกท่านแกล้งโง่ นายกต่างหากไม่ใช่ลูกผู้ชาย เพราะ
กลัวการตรวจสอบ ผิดไม่ยอมรับผิด
19 ม.ค. 2563 เวลา 06.52 น.
Sravut Bkk33 ถ้าผิดจริงก็ต้องดำเนินไปทางกฏหมาย ง่ายๆ จบ!!
19 ม.ค. 2563 เวลา 06.32 น.
kecha พวกผีเน่ากับโลงผุ
19 ม.ค. 2563 เวลา 06.04 น.
Little แต่ง ถ้าบริสุทธิ์จริง ทำไมต้องขอความช่วยเหลือหละครับ
19 ม.ค. 2563 เวลา 05.26 น.
ธันย์ปวัฒน์ (เต็ก) แต่ผมอยากให้ประธานออกเป็นคนแรกเลย เปลี่ยนดีกว่า เพราะรู้สึกตั้งแต่เป็น สส.คราวนี้ แล้วท่านใหญ่มาก
19 ม.ค. 2563 เวลา 05.15 น.
ดูทั้งหมด